ผู้จัดการออนไลน์ -- กัมพูชากำลังจะจัดเฉลิมฉลองครบรอบปีที่ได้ปราสาทพระวิหารคืนจากไทยเมื่อ 46 ปีก่อน และโอกาสที่รัฐบาลกัมพูชากำลังดำเนินการจดทะเบียนปราสาทอายุกว่า 1,000 ปี ให้เป็นมรดกโลก
ขณะเดียวกัน โฆษกรัฐบาลกัมพูชา ได้กล่าวหาว่า ไทยได้รุกล้ำเขตแดนด้านพระวิหารนั้นเข้าไปจนเป็นเหตุให้รั้วรอบๆ อยู่ใกล้ประตูทางเข้าปราสาทไปทุกทีๆ
หนังสือพิมพ์รายวันภาษาอังกฤษแม่โขงไทมส์ ในกัมพูชาได้อ้างคำกล่าวของโฆษกรัฐบาล เนื่องในโอกาสแถลงข่าววันพุธ (10 มิ.ย.) เกี่ยวกับการจัดงานเฉลิมฉลองดังกล่าว
นายสีพัน กล่าวว่า “แผนที่” ที่ได้มีการ “วาด” ขึ้นใหม่ เพื่อเสนอต่อประเทศไทยและคณะกรรมการมรดกโลกแห่งยูเนสโก (UNESCO) นั้นกำลังทำให้เกิดการสับสน เพราะใช้คำว่า “วาด” เนื่องจากได้มีการวาดขึ้นมาจริง “แต่รัฐบาลไทยก็ได้ให้ความเห็นชอบแล้ว”
โฆษกผู้นี้ กล่าวว่า ตามกฎหมายของกัมพูชานั้น เขตแดนของโบราณสถานแต่ละแห่งจะกินอาณาบริเวณระยะ 30 เมตรจากฐานของปราสาทองค์ที่อยู่นอกสุด
“ปัจจุบันรั้วล้อมรอบปราสาทพระวิหารอยู่ใกล้กับประตูปราสาทจนเกินไป ซึ่งบ่งชี้ว่าประเทศไทยได้ย้ายหลักเขตแดนเข้ามาในดินแดนกัมพูชา” หนังสือพิมพ์ฉบับเดียวกันอ้างคำกล่าวของนายสีพัน
สมาคมส่งเสริมอารยธรรมเขมร (Khmer Civilization Support Association) หรือ KCSA ได้ประกาศจัดพิธีเฉลิมฉลองเหตุการณ์เมื่อปี 2505 ซึ่งศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (International Court of Justice) ในกรุงเฮก ได้ตัดสินให้ปราสาทพระวิหารกับอาณาบริเวณตกเป็นของกัมพูชา
พิธีต่างๆ จะจัดขึ้นวันอาทิตย์ (15 มิ.ย.) นี้ ที่บริเวณวัดพนมอันเก่าแก่คู่กรุงพนมเปญ
สมาคมระบุในคำแถลงที่ออกเมื่อวันพุธ ระบุว่า พิธีจะจัดขึ้นเพื่อรำลึกบุญคุณของบรรพบุรุษกัมพูชาที่ได้สร้างปราสาทพระวิหารขึ้นมา รวมทั้งสมเด็จนโรดมสีหนุ อดีตประมุขแห่งกัมพูชาในยุคที่ ICJ ได้ตัดสินเรื่องนี้
“พิธีจะจัดขึ้นเพื่อขอบคุณรัฐบาลกัมพูชาที่ได้ธำรงอธิปไตยและบูรณภาพเหนือดินแดนจนกระทั่งปราสาท (พระวิหาร) จะได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก (ขององค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ)” คำแถลงของ KSCA กล่าว
หน่วยงานของสหประชาชาติแห่งนี้กำลังจะเปิดการประชุมพิจารณาเรื่องการจดทะเบียนฯ ในต้นเดือน ก.ค.ที่เมืองควีเบ็ค ประเทศแคนาดา
แม่โขงไทมส์ ยังได้รายงานของสื่อในประเทศไทย การแถลงข่าวโฆษกของกระทรวงการต่างประเทศไทย นายธฤต จรุงวัฒน์ เมื่อวันอังคาร (10 มิ.ย.) ที่ระบุว่า ยังจะต้องมีการประชุมหารือระหว่างเจ้าหน้าที่ไทยกับกัมพูชาต่อไป เนื่องจากแผนที่ของฝ่ายกัมพูชายังมีความแตกต่างเล็กน้อยกับแผนที่ชายแดนที่ประเทศไทยใช้
นายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีต่างประเทศของไทย กล่าวก่อนหน้านี้ว่า การจดทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกเป็นสถานการณ์ “วินวิน” คือ ทั้งสองฝ่ายได้รับประโยชน์เท่ากัน เนื่องจากฝ่ายกัมพูชาได้ตกลงจะจดทะเบียนเฉพาะองค์ปราสาทเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับอาณาบริเวณที่ยังเป็นกรณีพิพาทพรมแดนกับไทย
เพื่อการดังกล่าวนี้ รัฐบาลกัมพูชาได้ไปจัดทำแผนที่ประกอบการจดทะเบียนขึ้นมาเพื่อเสนอต่อไทยกับองค์การยูเนสโก