ผู้จัดการออนไลน์-- สิงคโปร์ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมการประจำกลุ่มอาเซียนในขณะนี้ได้แสดงความไม่พอใจต่อคณะทหารในการจัดการกับสถานการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติอย่างล่าช้าเช่นเดียวกัน
"มันเป็นเรื่องน่าเศร้าใจที่คณะปกครองทหารพม่าจัดการกับสถานการณ์ดังกล่าวในลักษณะนี้ ประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียนต่างเป็นกังวลต่อเหยื่อพายุที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก และความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนจากต่างชาติที่ถูกกีดกันให้การดำเนินการได้น้อยลง" นายลีเซียนลุง (Lee Hsien Loong) นายกรัฐมนตรีสิงค์โปร์กล่าวในเวทีการประชุมด้านความมั่นคงเมื่อวันศุกร์ (30 พ.ค.) ที่ผ่านมา
คำกล่าวของนายกฯ สิงคโปร์เป็นการประสานเสียงกับรัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซียเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ที่ออกวิจารณ์การต่อเวลากักกันนางอองซานซูจีต่ออีก 1 ปี ซึ่งกล่าวว่าอาเซียนเศร้าใจและห่วงใยต่อเรื่อองนี้ ทั้งเรียกร้องให้รัฐบาลพม่าเร่งรีบให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากไซโคลนการ์กิส ทั้งๆ ที่เวลาผ่านไป 1 เดือนแล้ว
อย่างไรก็ตามพลตรีนายเอมี้นต์ (Aye Myint) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมกล่าวเมื่อวันอาทิตย์ (1 มิ.ย.) ว่าความช่วยเหลือจากนานาชาติที่เข้ามานั้นจะต้องไม่มีเงื่อนไขผูกมักใดๆ รวมทั้งยืนยันประเด็นสำคัญในขณะนี้มุ่งไปที่การฟื้นฟูบูรณะความเสียหายต่างๆ
"เราขอต้อนรับความช่วยเหลือจากนานาชาติหรือองค์กรต่างๆ ที่ยื่นให้โดยไม่มีเงื่อนไขผูกมัดหรือข้อผูกพันทางการเมือง" พล.ต.มี้นต์กล่าวในเวทีที่ประชุมความมั่นคงระดับสูงที่สิงคโปร์ซึ่งมีตัวแทนจากประเทศผู้บริจาคเข้าร่วมประชุมนี้ด้วย
การประชุมนี้จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีที่สิงคโปร์ เป็นการประชุมรัฐมนตรีกลาโหม เจ้าหน้าที่ทางการทหารและผู้เชี่ยวชาญจากทวีปเอเชีย อเมริกาเหนือและยุโรป
รัฐมนตรีพม่า กล่าวต่อว่า ขณะนี้พม่ากำลังมุ่งความสนใจไปที่การบูรณะฟื้นฟูความเสียหายต่างๆ โดยได้กล่าวย้ำถึงตัวเลขอย่างเป็นทางการของผู้ที่เสียชีวิตซึ่งอยู่ที่ 77,738 ราย และผู้สูญหายอีกจำนวน 55,917 ราย รวมทั้งประมาณการความเสียหายจากเหตการณ์พายุนาร์กิสพัดถล่มคิดเป็นจำนวนเงินกว่า 1 หมื่นล้านบาท
"สำหรับกลุ่มองค์กรต่างที่ต้องการเข้ามาช่วยเหลือในการบูรณะซ่อมแซมต่างๆ เราพร้อมที่เปิดรับอย่างทันที" พล.ต.มี้นต์กล่าว
พม่าได้ขอให้ประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียนเป็นผู้ประสานกับความช่วยเหลือจากภายนอก แต่องค์กรช่วยเหลือต่างๆ ได้แสดงความไม่พอใจรัฐบาลทหารพม่าในการจัดการกับวิกฤตทางด้านมนุษยธรรม.
