ผู้จัดการออนไลน์-- พม่าค่อยๆ ลดข้อจำกัดที่มีต่อทีมช่วยเหลือจากต่างชาติในการเข้าไปยังพื้นที่ภัยพิบัติลง แต่เจ้าหน้าที่เหล่านั้นก็ยังคงกังขา ไม่ถึงกับเรียกสิ่งนี้ว่าเป็นการพลิกผันที่สำคัญ องค์กรบรรเทาทุกข์กล่าวในวันนี้ (27 พ.ค.)
ผู้เชี่ยวชาญในการบรรเทาทุกข์กล่าวว่า ไม่กี่วันข้างนี้จะเป็นวันที่สำคัญที่จะประเมินว่ารัฐบาลทหารพม่าจะปฏิบัติตามพันธะสัญญาที่ให้ไว้กับเลขาธิการองค์การสหประชาชาติในการอนุมัติให้ทีมช่วยเหลือจากภายนอกเข้าไปยังพื้นที่ประสบภัยได้อย่างอิสระ หรือไม่
องค์กรความช่วยเหลือจากนานาชาติต้องพึ่งพาอาศัยประชาชนของพม่าในการแจกจ่ายความช่วยเหลืออาหาร น้ำดื่มและยารักษาโรคหลังจากที่เกิดเหตการณ์พายุพัดถล่มบริเวณที่ราบปากแม่น้ำอิรวดีระหว่างวันที่ 2-3 พ.ค. ที่ผ่านมาจนทำให้มีผู้ที่เสียชีวิตและสูญหายกว่า 133,000 ราย
โครงการอาหารโลกภายใต้องค์การสหประชาชาติกล่าวว่า สมาชิกที่สำคัญของโครงการดังกล่าวได้รับอนุมัติให้เดินทางเข้าไปยังบริเวณที่ราบปากแม่น้ำแล้วในสัปดาห์นี้ ขณะที่เฮลิคอปเตอร์ 2 ลำที่มีกำหนดเดินทางไปยังพม่าได้มาถึงกรุงเทพฯ แล้วในวันนี้
นายริชาร์ด ฮอร์ซีย์ (Richard Horsey) โฆษกโครงการอาหารโลก กล่าวว่า การอนุมัติวีซ่าการรัฐบาลทหารพม่าไม่ใช่ปัญหาใหญ่อีกต่อไป และขณะนี้ได้มุ่งความสนใจไปที่การย้ายเจ้าหน้าที่จากย่างกุ้งเข้าไปในบริเวณเขตภัยพิบัติ
องค์กรบรรเทาทุกข์กล่าวว่า การเดินทางเยือนพม่าของเลขาธิการองค์การสหประชาชาติไม่สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงอะไรได้ในชั่วข้ามคืน แต่ก็ทำให้รัฐบาลทหารพม่าค่อยๆ ลดความเข้มงวดของกฎเกณ์ต่างๆ ที่มีต่อทีมช่วยเหลือจากภายนอกได้
"มันยากที่จะกล่าวว่าการเดินทางเยือนประสบความสำเร็จอย่างมาก ยังคงติดตามความคืบหน้าในการเปิดรับทีมช่วยเหลือจากภายนอกต่อไป" นายคริส เว็บสเตอร์ (Chris Webster) สมาชิกคนหนึ่งในทีมช่วยเหลือฉุกเฉินของมูลนิธิ Save the Children กล่าว ขณะที่ยังคงต้องรอการอนุมัติวีซ่าอยู่ในประเทศไทย
"ก่อนนี้ต้องใช้เวลา 2 สัปดาห์ในการอนุมัติวีซ่าเพื่อเดินทางเข้าประเทศ แต่เราได้รับสัญญาณบ่งบอกว่ามันจะใช้เวลาไม่กี่วันนั้นนับเป็นความคืบหน้าที่ดีและดูเหมือนว่าทุกอย่างกำลังเดินหน้าต่อไป"
การขออนุญาตในการเดินทางเข้าประเทศในช่วงแรกดูเหมือนว่าจะไม่ได้รับแม้กระทั่งความสนใจ แต่อย่างน้อยๆ ขณะนี้ก็ได้รับการยอมรับจากรัฐบาลทหารพม่า นายเว็บสเตอร์ กล่าว.
