ผู้จัดการออนไลน์ -- พื้นที่ประมาณ 5,000 ตารางกิโลเมตร ของพม่า ที่ถูกไซโคลนนาร์กีสพัดถล่มยังคงจมอยู่ใต้น้ำ รวมทั้งประชาชนมากกว่าล้านคนกำลังต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน โฆษกองค์การสหประชาชาติ หรือ UN กล่าว เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (7 พ.ค.)
เจ้าหน้าที่สหประชาชาติ กล่าวว่า ปัจจุบันศพของเหยื่อพายุนาร์กีสนับพันๆ ศพ ลอยฟ่องอยู่ตามน้ำ เสี่ยงต่อการเกิดโรคระบาด
“เรากำลังพูดถึงพื้นที่กว่า 5,000 ตารางกิโลเมตร ที่ยังคงจมอยู่ใต้น้ำ” นายริชาร์ด ฮอร์ซีย์ (Richard Horsey) โฆษกสำนักประสานงานกิจการด้านมนุษยธรรม องค์การสหประชาชาติประจำกรุงเทพฯ กล่าว
นายฮอร์ซีย์ กล่าวว่า ขณะนี้พื้นที่ประสบภัยพิบัติบริเวณที่ราบปากแม่น้ำอิรวดีกำลังขาดแคลนเรือ เนื่องจากเรือจำนวนมากถูกทำลายไปในเหตุการณ์พายุ
หากไม่ได้รับการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน อาจจะทำให้มีคนเสียชีวิตเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งตัวเลขของทางการยังคงจำนวนผู้เสียชีวิตกว่า 22,000 ราย และสูญหายอีกราวๆ 42,000 ราย
“เรากำลังจัดการกับสถานการณ์ซึ่งจะต้องมีการดำเนินการในรอบสอง เนื่องจากประชาชนอาจจะเสียชีวิตจากโรคที่เกิดขึ้นตามมาโดยที่มีน้ำเป็นพาหะได้” โฆษก UN ประจำกรุงเทพฯ กล่าว
โฆษกคนเดียวยังกล่าวว่า “มีศพผู้เสียชีวิตหลายพันศพลอยอยู่ในบริเวณที่เกิดน้ำท่วม ซึ่งจะก่อให้เกิดความเสี่ยงในด้านของสุขภาพอนามัยของผู้ที่รอดชีวิต”
ฝรั่งเศสและสหรัฐฯ มีเรือที่พร้อมจะลำเลียงสิ่งของเพื่อบรรเทาภัยพิบัติต่างๆ แก่เหยื่อพายุดังกล่าว แต่ยังคงต้องรอสัญญาณจากรัฐบาลทหารพม่าซึ่งยังคงไม่ยอมให้ความช่วยเหลือจากต่างประเทศเข้ามามากนัก
เอเอฟพี รายงานว่า เครื่องบินบรรทุกความช่วยเหลือของโครงการอาหารโลก (World Food Programme) เดินทางจากอิตาลีถึงกรุงย่างกุ้งแล้วในบ่ายวันพฤหัสบดีนี้ นับเป็นความช่วยเหลือเที่ยวแรกขององค์การสหประชาชาติจากภายนอกที่เข้าไปยังพม่า
เจ้าหน้าที่องค์การช่วยเหลือผู้ลี้ภัยของสหประชาชาติ ที่อยู่บริเวณพรมแดนพม่าก็กำลังรอการอนุมัติให้เข้าประเทศเช่นกัน
รัฐบาลทหารของพม่าพยายามหลีกเลี่ยงการออกวีซ่าให้แก่ทีมช่วยเหลือ รวมทั้งการอนุญาตแก่รัฐบาลต่างประเทศยื่นมือเข้าให้ความช่วยเหลือแก่ราษฎรที่ประสบเคราะห์