ผู้รอดชีวิตจากพายุไซโคลนพัดถล่มนับล้านๆ คน กำลังเผชิญกับความเสี่ยงต่อโรคท้องร่วงรวมทั้งโรคติดต่อต่างๆ ขณะที่องค์การสหประชาชาติ หรือ UN เร่งกระตุ้นให้รัฐบาลทหารพม่ายอมรับความช่วยเหลือจากต่างประเทศอย่างเร่งด่วน
ประชาชนมากกว่า 1 ล้านคนอาจจะต้องไร้ที่อยู่อาศัยหลังจากที่ไซโคลนนาร์กิส พัดถล่มเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (3 พ.ค.) ทีมช่วยเหลือจากหน่วยแพทย์ไร้พรมแดน (Medicin San Frontier) พบว่าบ้านเรือนราษฎรกว่า 80% ถูกทำลายเสียหายและมีน้ำท่วมสูง 1 เมตรในบางพื้นที่ของเมืองดาอาลา (Daala) และ ตวานเท (Twante) เมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ในบริเวณที่ราบปากแม่น้ำอิรวดีซึ่งมีประชาชนอาศัยอยู่รวมกันประมาณ 300,000 คน
“แม้จะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดก็ยังต้องใช้เวลาถึง 2 วันในการเข้าไปในพื้นที่บริเวณที่ราบปากแม่น้ำดังกล่าว” นายจอห์น สแปร์โร (John Sparrow) โฆษกสหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศในกรุงกัวลาลัมเปอร์ กล่าว
“คุณจะนึกภาพออกว่ามันจะเป็นอย่างไรเมื่อสะพาน ถนนถูกตัดขาดและพื้นที่กว่าครึ่งหนึ่งของประเทศต้องจมอยู่ใต้น้ำ” โฆษกคนเดียวกันกล่าว