xs
xsm
sm
md
lg

ลาว-เวียดนามใช้เวที GMS เซ็นอีก 4 เขื่อน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online



ผู้จัดการรายวัน (เวียงจันทน์)-- วันอาทิตย์ (30 มี.ค.) ที่ผ่านมา ระหว่างการประชุมผู้นำกลุ่มอนุภูมิภาคแม่น้ำโขง ลาวกับเวียดนามได้เซ็นสัญญากับบทบันทึกรวม 4 ฉบับ เพื่อพัฒนาเขื่อนผลิตไฟฟ้า 4 แห่งในภาคใต้กับภาคกลางของลาว

บริษัทร่วมลงทุนเวียด-ลาว (Viet-Lao Power Joint Stock Co) ได้ร่วมลงนามกับรัฐบาลลาวเพื่อก่อสร้างโครงการเขื่อนเซกะหมาน 1 และ บริษัทร่วมมือเศรษฐกิจเวียด-ลาว ได้เซ็นสัญญากับรัฐบาลลาวเพื่อก่อสร้างเขื่อนน้ำโม (Nam Mo) บริษัทไซง่อนอินเ วสต์เมนต์กรู๊ป (Saigon Investment Group) เซ็นบันทึกช่วยความจำเพื่อความเข้าใจกับรัฐบาลลาวเพื่อสำรวจโครงการเขื่อนน้ำซำ (Nam Xam) กับเขื่อนน้ำงึม 4A-4B

การเซ็นเอกสารเพื่อพัฒนาโครงการก่อสร้างหรือสำรวจเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำลาว-เวียดนามยังมีขึ้นท่ามกลางการกล่าวหาขององค์กรอนุรักษ์สภาพแวดล้อมภาคเอกชนที่ว่า กลุ่ม GMS ได้ตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มทุนฉวยโอกาสใช้เวทีนี้ทำข้อตกลงสร้างเขื่อน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อธรรมชาติและชีวิตของผู้คนนับล้านๆ ในภูมิภาคแถบนี้

เมื่อวันอาทิตย์เช่นเดียวกันกลุ่มไซ่ง่อนอินเวสต์เม้นต์ยังเซ็นสัญญากับรัฐบาลลาวเพื่อก่อตั้งบริษัทประกันภัยเพื่อให้บริการในลาวอีกด้วย ยังไม่มีการเปิดเผยเกี่ยวกับตัวเลขการลงทุนตลอดจนขอบเขตของการให้บริการ

แต่เจ้าหน้าที่ของลาวกล่าวว่าบริษัทที่จะก่อตั้งขึ้นใหม่นี้เป็นบริษัทประกันภัยเพียงแห่งที่ 2 ในลาว ซึ่งอยู่ในขั้นดำเนินการเพื่อเข้าเป็นสมาชิกองค์การการค้าโลก

นายกรัฐมนตรีเวียดนาม นายเหวียนเติ๋นยวุ๋ง (Nguyen Tan Dung) กับนายกรัฐมนตรีลาว นายบัวสอน บุบผาวัน ได้เข้าร่วมเป็นสักขีพยานการเซ็นสัญญาเอกสารต่างๆ ในครั้งนี้ และยังมีรัฐมนตรีของสองประเทศเข้าร่วมอีกหลายนาย รวมทั้งนายทองลุน สีสุลิด รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศลาวกับนายหวอห่มง์ฟุก (Vo Hong Phuc) รัฐมนตรีกระทรวงแผนการและการลงทุน เวียดนามด้วย

การเซ็นเอกสารต่างๆ มีขึ้นในวันแรกที่ผู้นำอีก 5 ประเทศ คือ ไทย จีน เวียดนาม กัมพูชาและพม่า เดินทางถึงนครเวียงจันทน์เพื่อร่วมการประชุมผู้นำกลุ่มความร่วมมือแห่งอนุภูมิภาคแม่น้ำโขง (Greater Mekong Sub-Region) ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 โดยลาวเป็นเจ้าภาพ

ยังมีการลงนามในเอกสารอีกหลายฉบับระหว่างประเทศสมาชิกภายใต้กรอบ GMS

ไทยกับกัมพูชาได้ร่วมกันลงนามในบันทึกว่าด้วยสิทธิ์ในการขนส่งสินค้าโดยอนุญาตให้รถบรรทุกของแต่ละฝ่ายเข้าไปให้บริการในอีกประเทศหนึ่งได้ บันทึกดังกล่าวนี้ผนวกเข้าในสัญญาการขนส่งสินค้าข้ามพรมแดน (Cross Border Transport Agreement) ด่านปอยเปต-อรัญประเทศที่มีการลงนามกันเมื่อหลายปีก่อน

ไทยกับลาวยังได้ร่วมกันลงนามในสัญญาการจราจรทางรถไฟ (Joint Traffic Agreement on Railway) ซึ่งเป็นสัญญาเพื่อเตรียมรับการเปิดใช้ทางรถไฟไทย-ลาว ในเดือนข้างหน้านี้

นายกรัฐมนตรีนายสมัคร สุนทรเวช ซึ่งเดินทางจาก จ.อุดรธานีไปยังนครหลวงเวียงจันทน์เมื่อวันอาทิตย์นี้ ได้ไปเยี่ยมชมการก่อสร้างทางรถไฟและสถานีที่บ้านดงโพสี ตาแสงท่านาแล้ง ใกล้กับสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ด้วย

ทางรถไฟสายแรกของลาวรวมระยะทางประมาณ 3.5 กิโลเมตรจากสะพานมิตรภาพข้ามแม่น้ำโขง จ.หนองคาย สร่างขึ้นด้วยความช่วยเหลือจากประเทศไทย ทั้งในรูปเงินกู้และเงินให้เปล่า เจ้าหน้าที่ของลาวกล่าวว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ในวันที่ 28 เม.ย.นี้ พิธีเปิดใช้การอาจจะมีขึ้นในช่วงต้นเดือน พ.ค.

ตามรายงานของทางการลาว ในปี 2550 จีนเป็นประเทศที่เข้าไปลงทุนในลาวมากเป็นอันดับ 1 โดยมีไทยเป็นอันดับ 2 และเวียดนามตามติดอย่างใกล้ชิด

นักลงทุนจากจีนและเวียดนามกำลังแข่งขันกันเข้าลงทุนสร้างเขื่อนผลิตไฟฟ้า กับการลงทุนด้านการเกษตรเป็นหลัก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการปลูกยางพารา

ตามรายงานของสำนักข่าวสารปะเทดลาว (ขปล.) บริษัทหุ้นส่วนการพลังงานเวียดนาม จะเริ่มก่อสร้างเขื่อนเซกะหมาน 1 อันเป็นเขื่อนผลิตไฟฟ้าขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ในลาว ด้วยเงินลงทุน 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในสิ้นปีนี้

เขื่อนเซกะหมาน 1 (Xekaman 1) มีกำลังติดตั้ง 290 เมกะวัตต์ ซึ่งจะสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ 1,100 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมงต่อปี หลังจากสร้างเสร็จในปี พ.ศ.2555 โดย 90% ของไฟฟ้าที่ผลิตได้จะส่งออกไปยังเวียดนาม

เมื่อเดือน เม.ย. 2549 บริษัทเริ่มก่อสร้างเขื่อนเซกะหมาน 3 (Xekaman 3) กำลังติดตั้ง 250 เมกะวัตต์ ซึ่งมีกำหนดจะเริ่มเดินเครื่องปั่นไฟได้ในปี 2552

นอกจากเขื่อนเซกะหมาน 1 และ 3 แล้ว บริษัทเวียดนามแห่งนี้กำลังศึกษาโอกาสการลงทุนในการสร้างเขื่อนอีก 8 แห่ง ทางภาคใต้ของลาว ซึ่งจะสามารถผลิตกระแสไฟฟ้ารวมกันได้ทั้งหมด 2,000 เมกะวัตต์ ขปล.กล่าว

เมื่อปีที่แล้วนักลงทุนจากเวียดนามได้ประกาศเข้าลงทุน 13 โครงการในลาว รวมทั้งบริษัทน้ำมันแห่งชาติซึ่งได้ประกาศสร้างเขื่อนหลวงพระบางกั้นลำน้ำโขงมีขนาดติดตั้งผลิตไฟฟ้า 1,410 เมกะวัตต์ มูลค่า 1,700 ล้านดอลลาร์.
กำลังโหลดความคิดเห็น