บันทึกจากเวียงจันทน์-- นายกฯ สมัคร “ป่วย”

ผู้จัดการออนไลน์ (บันทึกนักข่าวจากเวียงจันทน์)-- นายสมัคร สุนทรเวช ต้องเข้านอนโรงพยาบาลหลังจากเดินทางกลับจากการประชุมผู้นำกลุ่มความร่วมมืออนุภูมิภาคแม่น้ำโขง แต่นายกรัฐมนตรีของไทยเริ่มส่ออาการไม่สบายตั้งแต่อยู่ในนครเวียงจันทน์แล้ว

เวลา 09:10 น.วันที่ 31 มี.ค.ขณะที่นายกรัฐมนตรีลาวบัวสอน บุบผาวัน กล่าวในพิธีเปิดการประชุมสุดยอดจีเอ็มเอส (Greater Mekong Sub-Region) เจ้าหน้าที่ราว 300 คนที่เข้าร่วมพิธีในห้องประชุมใหญ่โรงแรมดอนจันทน์พาเลส ได้สังเกตเห็นนายกรัฐมนตรีของไทยนั่งหลับตาและคอพับอยู่เป็นระยะๆ..

พิธีเปิดประชุมพบปะอย่างเป็นทางการสิ้นุสดลงตามกำหนดเวลา 09:25 น. เจ้าหน้าที่ติดตามได้นำ นายกฯ สมัครออกจากห้องประชุมใหญ่พร้อมเจ้าภาพและนายกรัฐมนตรีของประเทศสมาชิกอีก 4 ชาติคือ กัมพูชา จีน พม่าและเวียดนาม เพื่อไปยังอีกห้องหนึ่งในทันที

การประชุมภายใน (Closed Door Session) มีกำหนดขึ้นในเวลา 09:35 น. ซึ่งกระชั้นชิดกันมาก

ในห้องประชุมแห่งใหม่ ผู้นำประเทศเจ้าภาพเชิญแขกเหรื่อกลุ่ม GMS ทั้งหมดขึ้นไปบนเวทีเพื่อแสดงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน โดยยืนตามลำดับตัวอักษรจับมือกันเป็นลูกโซ่ และถ่ายภาพเพื่อเผยแพร่ออกสู่โลกภายนอก

ผู้นำของทั้ง 5 ประเทศรอแล้วรอเล่า... แต่ไม่มีวี่แววของนายกรับมนตรีจากประเทศไทย ท่ามกลางความกระวนกระวายของเจ้าหน้าที่ฝ่ายพิธีการ.. ขณะผู้นำคนอื่นๆ ยังคงรออยู่บนเวที ทุกคนเริ่มส่งยิ้มให้แก้แขกเหรื่อที่อยู่เบื้องล่าง

แม้แต่ พล.อ.เต็งเส่ง (Thein Sein) นายกรัฐมนตรีพม่าที่ได้ชื่อว่ายิ้มยากที่สุด ก็ยังมีรอยยิ้มบนใบหน้า ..ดูเหมือนว่าเป็นการฆ่าเวลาที่ดีที่สุดระหว่างรอคอย

เวลาผ่านไปราว 15 นาที แขกเหรื่อเริ่มได้ยินเสียงติดต่อทางวิทยุของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย บางคนกล่าวว่า "นายกฯ สมัครเข้าห้องน้ำนานจัง" แต่ก็ไม่มีคำอธิบายใดๆ จากเจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นพิธีกรในการประชุม

ในชั่วเวลากระชั้นชิด นายกรัฐมนตรีลาวซึ่งเป็นเจ้าภาพได้เชื้อเชิญผู้นำ GMS ทั้งหมดลงจากเวทีเข้าที่นั่งเพื่อเริ่มการประชุมหารือต่อไปตามกำหนดโดยไม่มี รนม.จากประเทศไทยร่วมอยู่ด้วย

แต่นั่งยังไม่ทันติดเก้าอี้ ชั่วอึดใจต่อมา เสียง ว.จาก รปภ. ก็แจ้งเตือนให้ทราบทั่วกันว่า “ท่านสมัครกำลังมาๆ”

ผู้นำทุกประเทศหันไปมองดูผู้นำไทยด้วยความเป็นห่วง ขณะเดินไปยังที่นั่ง ก่อนที่นายบัวสอนจะเชื้อเชิญผู้นำ GMS ทั้งหมดกลับขึ้นไปยังเวทีอีกครั้งหนึ่ง.. โดยมี นรม.จากประเทศไทยรวมอยู่ด้วยในที่สุด ขั้นตอนนี้เป็นที่ฮือฮาของทุกฝ่ายในห้องประชุม เหตุการณ์เช่นนี้แม้จะเป็นเรื่องธรรมดา แต่ก็ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ ในการประชุมระหว่างประเทศ

ต่อมาผู้นำ GMS ทั้ง 6 ชาติจับมือกันอย่างกลมเกลียว ภาพนี้จึงมีโอกาสเผยแพร่ออกสู่โลกภายนอก

"คงเป็นย่อนว่า..ท่านอายุมากแล้วน้อ.." เสียงซุบซิบเป็นภาษาลาวด้วยความห่วงใยดังอยู่เบื้องหลัง เมื่อบรรดาแขกเหรื่อในห้องประชุมเห็นผู้นำของไทยเดินเหินไม่ค่อยคล่องตัว

ไม่กี่วันมานี้ในนครหลวงของลาวอากาศร้อนจัด

วันที่ 30 มี.ค. นรม.ของไทยนำคณะเดินทางไปจาก จ.อุดรธานี ประเดิมงานแรกในลาวด้วยการไปเยี่ยมชมความคืบหน้าการก่อสร้างสถานีรถไฟที่บ้านดงโพสี ตาแสงท่าน่าแล้ง ท่ามกลางแดดร้อนเปรี้ยงในช่วงก่อนเวลาเที่ยงวัน

เส้นทางรถไฟสายแรกของลาว ความยาว 3.5 กิโลเมตรจากสะพานมิตรภาพ จ.หนองคาย สร้างขึ้นด้วยความช่วยเหลือจากรัฐบาลไทยในรูปเงินให้เปล่าและเงินกู้ระยะยาวดอกเบี้ยต่ำรวมเกือบ 180 ล้านบาท การก่อสร้างมีกำหนดแล้วเสร็จสมบูรณ์ในปลายเดือนและเปิดใช้ในเดือน พ.ค.นี้

คืนวันเดียวกันเกิดฝนตกหนักในนครหลวงเวียงจันทน์ ทำให้อากาศเย็นสบายดีในเช้าวันรุ่งขึ้น และ นรม.ของไทยไป "เดินตลาด" รับประทานข้าวเหนียวจิ้มแจ่วปลาร้าอย่างเอร็ดอร่อย โทรทัศน์แห่งชาติลาวและสื่อในประเทศไทยต่างรายงานกิจกรรม “ชิมไปบ่นไป” ของนายกฯ สมัคร

บางทีข่าวเล่าลือที่ว่า นรม.ของไทยเกิดท้องเสียอย่างฉับพลัน ทำให้เข้าร่วมประชุมผู้นำ GMS ล่าช้าไปกว่า 15 นาที จึงอาจจะเป็นความจริง

ด้วยวัย 73 ปี นายกรัฐมนตรีของไทยเป็นผู้มีอาวุโสสูงสุดในกลุ่ม GMS เทียบกับนายกรัฐมนตรีจีน เวินเจียเป่า (Wen Jiabao) ซึ่งจะครบ 69 ในเดือน ก.ย.ปีนี้ และ นายกฯ พม่า พล.อ.เต็งเส่ง 63

ผู้นำอีก 3 ประเทศล้วนอายุไล่เลี่ยกัน คือ นรม.ของลาวประเทศเจ้าภาพปีนี้จะครบ 54 สมเด็จฯ ฮุนเซนจากกัมพูชา 56 และ นายเหวียนเติ๋นยวุ๋ง (Nguyen Tan Dung) จากเวียดนามกำลังจะครบ 58

แต่วัยไม่ได้เป็นอุปสรรคสำหรับคารมคมคาย ระหว่างนำคณะของไทยเข้าประชุมพบปะสองฝ่าย (Bilateral Meeting) กับคณะจีนในวันที่ 30 มี.ค. นายสมัครได้หยอดคำหวานกล่าวชื่นชม นรม.ของจีนอย่างไม่ขาดสาย

"ข้าพเจ้าได้รู้จักท่านนายกรัฐมนตรีเวินเจียเป่ามานานผ่านทางโทรทัศน์.." นายสมัครกล่าวในตอนหนึ่ง ซึ่งเมื่อล่ามแปลถึงช่วงนี้ก็สามารถเรียกเสียงหัวเราะครืนใหญ่จากคณะของจีน

ผู้นำไทยยังแสดงความยินดีกับนายเวิน ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีของจีนอีกสมัยเพียงสัปดาห์ 1 ก่อนหน้านี้

การพบปะครั้งนี้มีคุณค่ายิ่ง นายกฯ สมัครได้รับแรงสนับสนุนและกำลังใจจากผู้นำจีน ซึ่งแสดงความหวังว่า รัฐบาลชุดปัจจุบันของไทยจะอยู่ทำหน้าที่ได้ยาวนานจนครบวาระ

"ข้าพเจ้าหวังว่าท่านจะสามารถนำรัฐบาลไทยไทยที่มีเสถียรภาพ.." นายเวินกล่าวในตอนหนึ่ง ระหว่างการแนะนำตัวเองในเวลาไล่เลี่ยกันก่อนหน้านั้น.. ทุกอย่างดำเนินต่อไปอย่างราบรื่นก่อนเจ้าหน้าที่จะเชิญผู้สื่อข่าวออกจากห้องประชุมพบปะสองฝ่าย

วันที่ 31 มี.ค. เวลาบ่ายจัด หลังเสร็จสิ้นการประชุมผู้นำ GMS นรม.ของไทยได้เดินทางออกจากโรงแรมดอนจันทน์พาเลสโดยไม่ได้แสดงวี่แววใดๆ ว่ากำลังป่วย โดยมี พล.อ.อนุพงศ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบกติดตามอย่างใกล้ชิด

ถึงกระนั้นก็ยังมิวายที่จะมีข่าวเล่าลือทางบ้านว่า.. ฝ่ายทหารกำลังทำท่าฮึ่มๆ.