ผู้จัดการรายวัน-- สมาคมอาหารเวียดนามได้ให้ผู้ส่งออกหยุดเซ็นสัญญาจำหน่ายข้าวกับลูกค้าในต่างแดนเป็นการชั่วคราว ขณะที่ราคาข้าวในตลาดโลกพุ่งไม่หยุด ข้าวเกรดดี 5% ราคาทะลุถึง 550 ดอลลาร์ต่อตัน และ สมาคมฯ กำลังจะประกาศกฎระเบียบใหม่ควบคุมการส่งออกให้รัดกุมยิ่งขึ้น
ปัญหาสำคัญคือ เงินดอลลาร์ที่ยังอ่อนค่าลงเรื่อยๆ เทียบกับเงินด่ง ทำให้ผู้ส่งออกจำนวนหนึ่งที่รีบเซ็นสัญญาขายข้าวเดือนที่แล้วต้องขาดทุน สื่อของทางการรายงานเรื่องนี้โดยอ้างการเปิดเผยของคนในวงการ
นายฝ่ามวันไบ (Pham Van Bay) ผู้อำนวยการบริษัทอาฟิเอ็กซ์ (Afiex) ใน จ.อานยาง (An Giang) กล่าวว่า เป็นความผิดพลาดอีกครั้งที่ผู้ส่งออกจำนวนหนึ่งรีบขายข้าวในช่วงที่เงินด่งยังไม่แข็งค่ามากเช่นในขณะนี้
ค่าดอลลาร์ที่ผันผวนทำให้ผู้ส่งออกรายหนึ่งขาดทุนไปราว 11,000 ล้านด่ง (ราว 689,000 ดอลลาร์) จากการรีบเซ็นขายข้าวไปก่อนหน้านี้
นายวันไบกล่าวกับสำนักข่าวเวียดนามเน็ตว่า ปัจจุบันผู้ส่งออกกำลังออกกว้านซื้อข้าวเปลือกจากชาวนานำไปสี บรรจุถุงเตรียมหาจังหวะจำหน่าย ภายใต้การควบคุมของสมาคมอาหารเวียดนาม หรือ VietFood (Vietnam Food Association)
นางเหวียนถิเงวียต (Nguyen Thi Nguyet) เลขาธิการ VietFood กล่าวว่าไม่เพียงแต่ค่าดอลลาร์อ่อนลงเรื่อยๆ เท่านั้น ธนาคารพาณิชย์ยังกำจัดการปล่อยสินเชื่ออันเป็นผลจากการที่รัฐบาลออกหลายมาตรการสกัดกั้นเงินเฟ้อที่มีอัตรา 15% ในเดือน ก.พ.
สมาคมฯ จะประกาศใช้กฎระเบียบเพิ่มเติมในสัปดาห์นี้ รวมทั้งข้อหนึ่งที่จะบังคับให้ผู้ส่งออกทุกรายต้องมีสต๊อคข้าวอย่างน้อย 70% ของปริมาณที่จะส่งออกได้ จึงจะสามารถเซ็นสัญญาได้
ตามรายงานของสมาคมฯ ข้าวเปลือกที่ซื้อจากชาวนาในจังหวัดเขตที่ราบปากแม่น้ำโขงสัปดาห์ที่แล้วราคา 4,500-4,600 ด่ง (ราว 11-12 บาท) ต่อกิโลกรัม ซึ่งชาวนามีกำไรครึ่งต่อครึ่งเมื่อหักต้นทุนการผลิตออก แม้ว่าราคาปุ๋ยกับราคาน้ำมันจะสูงขึ้นก็ตาม
ราคาข้าวส่งออกในเวียดนามสูงขึ้น 50-53% ตั้งแต่ช่วงกลางเดือน ก.พ.เป็นต้นมา เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2550
ข้าวปนเมล็ดหัก 5% ที่ท่าเรือนครโฮจิมินห์กับในเขตที่ราบปากแม่น้ำโขง พุ่งขึ้นเป็น 550 ดอลลาร์ต่อตัน จาก 480 ดอลลาร์ต่อตันในสัปดาห์ต้นเดือน มี.ค. กระทั่งข้าว 25% ที่เป็นข้าวคุณภาพต่ำสุดราคาก็ยังพุ่งขึ้นเป็น 520 ต่อตัน จากตันละ 450 ดอลลาร์ต้นเดือนนี้
สื่อของทางการเวียดนามกล่าวว่าในสิ้นเดือน ก.พ.ราคาข้าว 5% ของไทยสูงถึง 500 ดอลลาร์ต่อตัน ไทยเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่อันดับ 1 ของโลก ขณะที่เวียดนามตามห่างๆ เป็นอันดับ 2
กระทรวงการค้าและอุตสาหกรรม กล่าวว่าราคาข้าวยังจะพุ่งต่อไปตลอดเดือน มี.ค. เนื่องจากประเทศผู้นำเข้ายังมีความต้องการสูง ขณะที่เชื่อว่าทั้งไทยและเวียดนามจะผลิตข้าวได้น้อยลงในฤดูเก็บเกี่ยวที่ผ่านมา
นายวันไบกล่าวว่า ขณะนี้ผู้ส่งออกได้หยุดการติดต่อกับลูกค้าในต่างแดนเป็นการชั่วคราวตามคำแนะนำของสมาคมฯ เนื่องจากยังไม่สามารถคำนวณราคาเสนอขายที่เหมาะสมได้ และเชื่อว่าราคาในตลาดโลกจะยังพุ่งขึ้นสูงต่อเนื่อง
ในปัจจุบันผู้ส่งออกเวียดนามกำลังพยายามส่งข้าวให้แก่ฟิลิปปินส์ให้ครบตามยอดที่เซ็นสัญญาจำหน่ายไปก่อนหน้านี้
ตามตัวเลขของ VietFood ถึงบัดนี้เวียดนามส่งมอบข้าวให้แก่ฟิลิปปินส์แล้วรวม 381,000 ตันมูลค่า 150 ล้านดอลลาร์ เพิ่ม 47% ในเชิงปริมาณและ 78% ในเชิงราคา เทียบกับช่วงเดียวกันเมื่อปีที่แล้ว
สื่อในเวียดนามรายงานก่อนหน้านี้ว่าในช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ. มีการเซ็นสัญญาจำหน่ายข้าวไปแล้วราว 700,000 ตัน แต่ยังไม่มีการยืนยันตัวเลขจาก VietFood.