ผู้จัดการรายวัน -- การประกาศทบทวนตัวเลขส่งออกข้าวของเวียดนามปีนี้ ได้ทำให้เกิดความโกลาหนขึ้นในตลาดโลก หรืออย่างน้อยที่สุดก็ตลาดในภูมิภาคนี้ มีส่วนสำคัญทำให้ราคาตลาดโลกพุ่งสูงลิ่ว ท่ามกลางความกังวลของประเทศผู้นำเข้า ที่เกรงว่าจะไม่มีข้าวพอในสตอก
ตามรายงานของสื่อทางการเวียดนาม ต้นสัปดาห์ที่แล้วราคาข้าวขาว 100% ของไทยพุ่งขึ้นเป็น 500 ดอลลาร์ต่อตัน เป็นครั้งแรกในทศวรรษ แต่ก็ยังมีไม่พอกับความต้องการ และคาดว่าราคาข้าวยังจะสูงขึ้นอีกในไตรมาสที่ 2
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วฟิลิปปินส์ได้เป็นประเทศแรกที่ขอคำมั่นจากเวียดนามว่าจะสามารถสนองได้พอกับความต้องการในประเทศนั้น
รัฐมนตรีกระทรวงเกษตรฟิลิปปินส์ นายอาร์เธอร์ แยป (Arthur Yap) สัปดาห์ที่แล้วประธานาธิบดี กลอเรีย มาคาปากัล อาร์โรโย (Gloria Macapagal Arroyo) ได้เป็นผู้ติดต่อเรื่องนี้ด้วยตัวเองไปยังนายกรัฐมนตรีเวียดนาม เหวียนเติ๋นยวุ๋ง (Nguyen Tan Dung) เนื่องจากปีนี้ฟิลิปปินส์จะต้องนำเข้าข้าวในชั้นแรกไม่ต่ำกว่า 1.6 ล้านตัน
แต่เจ้าหน้าที่ผู้หนึ่งกล่าวเมื่อต้นเดือนนี้ปริมาณนำเข้าปีนี้อาจจะสูงถึง 2.4 ล้านตัน และที่ผ่านมารัฐบาลได้นำเข้าแล้ว 876,701 ตัน รวมมูลค่า 387 ล้านดอลลาร์ ส่วนใหญ่เป็นการนำเข้าจากเวียดนาม
องค์การอาหารแห่งฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นผู้นำเข้ากำลังจะจัดประกวดราคาซื้อข้าวอีก 500,000 ตันในวันที่ 11 มี.ค.นี้
ยังไม่ทราบปริมาณข้าวทั้งหมดที่ฟิลิปปินส์ต้องการจากเวียดนามในปีนี้ แต่สมาคมอาหารเวียดนาม (VietFood) เปิดเผยในปลายเดือน ม.ค.ว่า ผู้ส่งออกเวียดนามได้เซ็นจำหน่ายข้าวให้ฟิลิปปินส์ไปจำนวน 300,000 ตัน
สื่อของทางการเวียดนามได้รายงานตัวเลขกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรม ระบุว่า ในช่วงต้นปีได้เซ็นสัญญาจำหน่ายข้าวให้กับลูกค้าต่างประเทศไปแล้วรวม 1 ล้านตัน ก่อนที่รัฐบาลจะสั่งระงับการทำสัญญาซื้อขายใดๆ สำหรับการส่งมอบในเดือน ก.พ.-มี.ค.ศกนี้ ขณะที่กำลังมีการพิจารณาลดปริมาณส่งออกลงจาก 4.5 ล้านตัน
ภัยหนาวเย็นที่ไม่ปกติในต้นปีนี้ได้สร้างความเสียหายให้แก่นาข้าวกว่า 600,000 ไร่ หลายท้องที่ในภาคเหนือขาดแคลนข้าวบริโภค ทำให้ต้องส่งข้าวจากภาคใต้ขึ้นไปบรรเทา
ภัยหนาวเย็นซึ่งทางการเวียดนาม กล่าวว่า นับเป็นครั้งที่เลวร้ายที่สุดในรอบ 40 ปี ได้ทำให้เกิดหิมะตกลงในเขตเขาภาคเหนือ และเกิดน้ำค้างแข็งปกคลุมไปทั่วในเขตหุบเขา ภายใต้อุณหภูมิตั้งแต่ -5 จนถึง -15 องศาเซลเซียส ภูมิอากาศหนาวเย็นยังแผ่คลุมลงถึงเขตภาคกลางตอนบนของประเทศ ทำความเสียหายให้แก่พืชอาหารอีกหลายชนิดในพื้นที่เพาะปลูกอีกนับแสนไร่
ฟิลิปปินส์เป็นประเทศผู้นำเข้าข้าวรายใหญ่ที่สุดของโลก ซึ่งก็เช่นเดียวกันกับอีกหลายประเทศที่กำลังเผชิญกับความเสี่ยงที่จะขาดแคลนข้าวอันเป็นอาหารหลักของประชากร ขณะที่ราคาในตลาดโลกพุ่งขึ้นสูงอย่างเป็นประวัติการณ์
ตามรายงานของหนังสือพิมพ์ดิอินไควเรอร์ (Inquirer) ปัจจุบันฟิลิปปินส์มีข้าวสำรองพอบริโภคได้เพียง 8 วันเท่านั้น ลดลงจาก 30 วันตามมาตรฐาน เนื่องจากการเซ็นสัญญาซื้อข้าวกับผู้ส่งออกรายต่างๆ ล้วนล่าช้าในช่วงต้นปีขณะที่ราคาข้าวในตลาดโลกถีบตัวขึ้นสูง
ฟิลิปปินส์เคยเป็นตลาดใหญ่ของข้าวไทยมาก่อน แต่ในช่วงหลายปีใกล้ๆ นี้ เวียดนามได้ช่วงชิงตลาดใหญ่นี้ไปโดยจำหน่ายข้าวทุกประเภทในราคาต่ำกว่ากว่าข้าวไทย