xs
xsm
sm
md
lg

2 เดือนเงินเฟ้อพุ่ง 15% เวียดนามอ่วมถ้วนหน้า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online



แมเนเจอร์ออนไลน์-- ภัยเงินเฟ้อยังคงคุกคามชาวเวียดนาม 65 ล้านคนไม่หยุด เดือน ม.ค.และก.พ.ที่ผ่านมาอัตราพุ่งอีกกว่า 15% จากช่วง 2 เดือนเดียวกันเมื่อปีที่แล้ว ทั้งนี้เป็นตัวเลขของสำนักงานใหญ่สถิติ หรือ GSO (General Statistics Office) ที่ออกเผยแพร่เมื่อวันพุธ (27 ก.พ.)

นักเศรษฐศาสตร์ของ GSO เตือนว่า สถานการณ์เงินเฟ้อยังอาจจะรุนแรงยิ่งกว่านี้ เนื่องจากที่ผ่านมารัฐบาลไม่ได้ใช้มาตรการที่เด็ดขาดพอในการแก้ปัญหา รวมทั้งไม่ได้สั่งให้มีการสต๊อคและควบคุมสินค้าจำเป็นต่างๆ เพื่อเตรียมรับเทศกาลบวันตรุษที่ผ่านมาอีกด้วย

ราคาอาหารยังพุ่งไม่หยุดในช่วงเดือน 2 เดือนแรกของปีนี้พุ่งขึ้นอีกกว่า 10.17% และ คิดเป็นอัตราเพิ่มถึง 25.23% เทียบกับเดือน ม.ค.-ก.พ.2550

อย่างไรก็ตามนายเหวียนดึ๊กทาง (Nguyen Duc Thang) หัวหน้าฝ่ายสถิติราคาอาหารของ GSO ได้ชื่นชมธนาคารแห่งรัฐเวียดนามหรือ SBV (State Bank of Vietnam) ที่เริ่มใช้มาตรการยับยั้งเงินเฟ้อในเดือน ก.พ.นี้

นายทางกล่าวว่ามีหลายปัจจัยที่ทำให้มีเงินหมุนเวียนในระบบจนเกิดสภาพคล่องล้น หนุนเนื่องให้อัตราเงินเฟ้อพุ่งขึ้นสูงในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือ การขึ้นเงินเดือนข้ารัฐการและขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำลูกจ้างกรรมกรเมื่อสิ้นปี เงินลงทมุนต่างประเทศไหลเข้ามหาศาลตอนปลายปีและเงินที่คนงานเวียดนามในต่างแดนส่งกลับบ้าน

นอกจากนั้นความต้องการอาหารในช่วงเทศกาลตรุษที่ผ่านมายังพุ่งสูงขึ้น ขณะที่เกิดภัยวิบัติต่างๆ ในหลายท้องที่ทำให้เกิดขาดแคลนด้านอาหาร นำมาสู่การขึ้นราคาในช่วงเดือน ก.พ. เจ้าหน้าที่ SBV คนเดียวกันกล่าว

นายทางยังคาดการว่า เงินเฟ้อจะยังคงอยู่ในระดับสูงในเดือน มี.ค.นี้ หรืออาจจะสูงยิ่งกว่า 2 เดือนแรกนี้ก็เป็นได้ เนื่องจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่สูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบโดยตรงต่ออาหารที่มีราคาสูงอยู่แล้ว

ขณะเดียวกันรัฐสสภาเวียดนามพลังจะเปิดประชุมสมัยสามัญต้นปีในกลางเดือน มี.ค.นี้ ซึ่งจะมีการตั้งกระทู้ถามรัฐบาลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ และการแก้ปัญหาอันเนื่องมาจากภัยหนาวเย็นช่วงต้นปี ที่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อประชาชนในหลายจังหวัดภาคเหนือและภาคกลางตอนบน

ภัยหนาวเย็นที่ทำให้เกิดหิมะตกในเขตเขาและเกิดน้ำค้างแข็งปกคลุมที่ราบหุบเขาในภาคเหนือ ได้ทำให้นาข้าวถูกทำลายไปกว่า 600,000 ไร่ สัตว์เลี้ยงของราษฎรล้มตายกว่า 50,000 ตัว

เศรษฐกิจของเวียดนามกำลังพบปัญหาใหม่ทั้งด้านบวกและด้านลบ กล่าวคือ ผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ (Gross Domestic Product) ขยายตัวถึง 8.44% ในปี 2550 ซึ่งเป็นอัตราเติบโตสูงสุดในรอบ 10 ปี แต่อัตราเงินเฟ้อพุ่งขึ้นสูงเป็นประวัติการณ์เช่นเดียวกันคือ 12.6% เป็นสองเท่าตัวจากเมื่อปีที่แล้ว

เดือน ม.ค.ปีนี้เงินเฟ้อยังพุ่งไม่หยุดเป็น 14.1% เทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่ ทำให้ชาวเวียดนาม 85 ล้านคนโดยเฉพาะผู้ที่มีรายได้ต่ำหาเช้ากินค่ำ กำลังเดือดร้อนไปทั่ว ขณะที่ทั้งประเทศกำลังจะฉลองเทศกาลขึ้นปีใหม่ประเพณี.
กำลังโหลดความคิดเห็น