ผู้จัดการรายวัน-- บริษัทผู้ให้บริการเดินรถโดยสารสายเวียงจันทน์-อุดรธานี และเวียงจันทน์-ขอนแก่น กำลังเตรียมความพร้อมให้บริการนักท่องเที่ยวจากไทย ซึ่งคาดว่าจะมีจำนวนหลายพันคนที่กำลังมุ่งหน้าไปยังเมืองหลวงของลาวในช่วงเทศกาลบุญขึ้นปีใหม่ประเพณีสัปดาห์ข้างหน้า
ถ้าหากจำเป็นก็อาจจะมีการขอเพิ่มจำนวนเที่ยวโดยสารจากในปัจจุบันที่ให้บริการไปกลับเพียงวันละ 2 เที่ยวเช้ากับบ่าย เจ้าหน้าที่ของลาวที่สถานีขนส่งตลาดหนองจันทน์ นครหลวงเวียงจันทน์กล่าวกับ "ผู้จัดการรายวัน"
รถโดยสารปรับอากาศสายเวียงจันทน์-อุดรธานี ได้เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2549 ตามความตกลงความร่วมมือด้านการเดินรถโดยสารระหว่างสองประเทศ ส่วนสายเวียงจันทน์-ขอนแก่น เพิ่งเปิดให้บริการยังไม่ถึง 2 เดือนโดยถือเอาฤกษ์งามเดินรถเที่ยวปฐมฤกษ์ในวันวาเลนไทน์ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา
จากที่มีผู้โดยสารเพียง 5 คนในเที่ยวแรกที่ออกเดินทางจากเวียงจันทน์มุ่งหน้าสู่ขอนแก่น ปัจจุบันรถบัสปรับอากาศสายใหม่ซึ่งมีเพียง 40 ที่นั่ง มีผู้โดยสารกว่าครึ่งคันหรือเต็มลำทุกเที่ยว ด้วยค่าโดยสาร 180 บาท นายสมสะหวัด สุวันนะดี พนักงานขับรถผู้หนึ่งกล่าว
ออกเดินทางจากนครหลวงเวียงจันทน์เวลาประมาณ 8:30 น. รถโดยสารทั้งสองสายที่ม่งหน้าสู่ จ.อุดรธานี และ จ.ขอนแก่น จะไม่จอดรับผู้โดยสารระหว่างทาง เช่นเดียวกันกับรถโดยสารของบริษัทขนส่งจำกัดของไทย ที่วิ่งส่วนทางกันจากฝั่งไทยในเวลาเดียวกัน
รถบัสปรับอากาศจากลาวจะออกเดินทางกลับเวียงจันทน์เวลาบ่าย 4 โมงทุกวัน เวลาเดียวกันกับที่รถบัสโดยสารของฝ่ายไทยออกเดินทางจากเวียงจันทน์มุ่งหน้ากลับประเทศ
"ปกติช่วงวันบุญประเพณีต่างๆ จะมีคนไทยไปเที่ยวเวียงจันทน์มากอยู่แล้ว ตอนหลังไม่เฉพาะแต่คนไทยเท่านั้นคนชาติอื่นก็เริ่มมีจำนวนมากขึ้น ทั้งหมดเป็นนักท่องเที่ยว" พขร.สายเวียงจันทน์-อุดรฯ ผู้หนึ่งกล่าวกับ "ผู้จัดการรายวัน" ในการสัมภาษณ์พิเศษ
ผู้โดยสารชาวไทยที่ไปกับรถโดยสารเวียงจันทน์-อุดรฯ ไม่ต้องมีหนังสือเดินทางและสามารถขอใบผ่านแดนชั่วคราวที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองสะพานมิตรภาพ จ.หนองคายได้ แต่จะอยู่ในลาวได้เพียง 3 วัน ต่างไปจากผู้โดยสารที่ไปกับเที่ยวเวียงจันทน์-ขอนแก่นที่จะต้องมีหนังสือเดินทาง
ตามข้อตกลงระหว่างสองประเทศประชาชนของสองฝ่ายสามารถเดินทางข้ามพรมแดนไปมาหาสู่กันได้เป็นระยะทาง 150 กม.โดยไม่ต้องใช้หนังสือเดินทาง พขร.คนเดียวกันกล่าว
อย่างไรก็ตามสำหรับผู้ที่ถือหนังสือเดินทางของไทย จะสามารถพำนักในนครเวียงจันทน์หรือเดินทางท่องเที่ยวไปทั่วลาวได้เป็นเวลาถึง 1 เดือน โดยไม่ต้องใช้วีซ่า
รถโดยสารทั้งสองสายใช้เวลาเพียงประมาณ 35 นาทีเดินทางจากเวียงจันทน์ไปยังด่านสะพานมิตรภาพ ก่อนที่จะจอดให้ผู้โดยสารไปจัดการเรื่องการตรวจคนเข้าเมืองทั้งทางฝั่งลาวและฝั่งไทย จากนั้นจะใช้เวลาอีกเพียง 45 นาทีก็จะถึงปลายทาง จ.อุดรธานี
สำหรับรถโดยสารสายเวียงจันทน์-ขอนแก่น จะใช้เวลาเดินทางอีกราว 2 ชั่วโมง 30 นาทีจากด่านสะพานมิตรภาพ จ.หนองคาย แต่จะถึงเร็วยิ่งขึ้นหากไม่มีผู้โดยสารขอให้จอดที่ อ.อุบลรัตน์ เพื่อเข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัว
“เราพร้อมแล้วที่จะให้บริการผู้โดยสารชาวไทยในช่วงบุญปีใหม่” พขร.คนเดียวกันกล่าว.