xs
xsm
sm
md
lg

ไม่ง่าย..กว่าจะได้เป็น “โจลี-พิตต์”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศาลในนครลอสแอนเจลีสเพิ่งจะอนุมัติการรับบุตรบุญธรรมจากเวียดนามของแอนเจลีนา โจลี กับ แบรด พิตต์ ซึ่งทำให้ ด.ช.แพ็กซ์เทียนได้ไช้นามสกุลโจลี-พิตต์ (Jolie-Pitt) อย่างถูกต้องตามกฎหมายเป็นครั้งแรก

แอนจี้ รับ "น้องแพ็กซ์" จากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าต๋ามบิ่ง (Tam Binh) เดือน มี.ค.ปีที่แล้ว โดยผู้พิพากษาเวียดนามผู้หนึ่งเป็นคนอนุมัติ กระบวนการในเวียดนามทั้งหมดใช้เวลาเพียง 1 สัปดาห์ ซึ่งนับว่าเร็วกว่ากรณีอื่นๆ

คราวนั้นแอนจี้หอบหิ้วลูกชายเพียงคนเดียวจากกัมพูชาไปด้วย กำหนดการทุกอย่างเป็นความลับ เดินทางโดยเครื่องบินเหมาเช่าพร้อมคณะ แต่ไม่มีแบรด พิตต์ ร่วมไปด้วย ทำให้เกิดการตีความต่างๆ นานา

เป็นอันว่าบัดนี้ครอบครัวโจลี-พิตต์ ของคุณพ่อ-คุณแม่แห่งฮอลลีวูด มีลูกๆ โดยชอบด้วยกฎหมายรวม 4 คน เรียงลำดับตามอาวุโส คือ พี่แม็ด (แม็ดด็อกซ์) วัย 6 ขวบ พี่แพ็กซ์ อายุ 4 ปี น้อง "ซี" (ซาฮาร่า) 2 ขวบ กับ น้อง “ชาย” (ไชโล) ตัวเล็กหน่อเนื้อเชื้อไขแท้ๆ ของคุณพ่อกับคุณแม่

สถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นแห่งหนึ่งซึ่งรายงานเรื่องนี้เป็นเจ้าแรกบอกว่า ครอบครัวโจลี-พิตต์ จัดฉลองเล็กๆ หลังจากศาลเยาวชนในเขตมอนทาเรย์พาร์ค ให้ความเห็นชอบอย่างสมบูรณ์เมื่อวันพุธ (20 ก.พ.) สำหรับการใช้นามสกุลโจลี-พิตต์ ของหนูน้อยจากเวียดนาม

ส่วนนิตยสารรายสัปดาห์ Us ที่สะกดรอยเกาะติดครอบครัวนี้ตลอดมา ได้รายงานทางเว็บไซต์ว่า แอนจี้กับแบรดเดินออกจากศาลพร้อมกันในมือของแอนจี้มีตุ๊กตาหมีเท็ดดีแบร์ (Teddy Bear) หรือ ตุ๊กตาอะไรสักอย่าง

ต่อมามีคนเห็นสองสามีภรรยารับประทานอาหารเย็นร่วมกับลุงคลิ้นท์ อีสต์วูด นักแสดง ผู้สร้างและผู้กำกับรางวัลออสการ์

เรื่องทั้งหมดเริ่มขึ้นตั้งแต้เดือน พ.ย.2549 ซึ่งแบรดกับแอนจี เดินทางจากกัมพูชาไปยังนครโฮจิมินห์ในเวียดนามอย่างไม่มีกำหนดการล่วงหน้า ทั้งคู่นั่งซ้อนท้ายจักรยานยนต์สกู๊ตเตอร์ซิ่งไปตามถนน จนตกเป็นข่าวไปทั่วโลก



แต่ที่ยังไม่เป็นข่าวทันทีทันใดในขณะนั้นก็คือ คุณพ่อคุณแม่คู่ขวัญแห่งฮอลลีวูด ได้ยังไปที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าต๋ามบิ่ง (Tam Binh) ในเขต อ.ที่ 8 อย่างเงียบๆ และ ไปพบเจ้าหนูฟั๊มกวางซาง (Pham Quang Sang) ที่นั่น ตอนนั้นไม่มีใครเชื่อว่า ทั้งคู่จะมีบุตรบุญธรรมอีกคน

ต่อมาในเดือน ม.ค.ปีที่แล้ว แอนจี้ฉายเดี่ยวกลับไปยังนครโฮจิมินห์ดำเนินขั้นตอนระบบราชการขอรับหนูน้อยซาง โดยรับหนูน้อยซางเป็นบุตรบุญธรรมของเธอเพียงคนเดียวเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายเวียดนาม ที่ไม่อนุญาตคู่สามีภรรยาที่ไม่ได้แต่งงาน รับเด็กจากประเทศนี้ไปเลี้ยงดู

สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้วเรียกได้ว่าสเป็นการพลิกชีวิตของเด็กในเวียดนามคนหนึ่ง แบบหน้ามือเป็นหลังมือ มืดเป็นสว่าง

หนูน้อยกวางซางเกิดมาโดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครเป็นพ่อบังเกิดเกล้า คุณแม่แท้ๆ เป็นหญิงติดยาเสพติด เป็นเด็กสาวใจแตก หนีออกจากบ้าน คุณตากับคุณยายยากจนเกินไปที่จะให้การเลี้ยงดู จึงต้องนำเจ้าหนูไปมอบให้สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าในเขตอำเภอที่อยู่

เจ้าหนูโชคดีกว่าเด็กๆ อีกนับร้อยคนที่ประสบชะตากรรมคล้ายๆ กัน ณ สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าแห่งเดียวกัน

ตามข่าวของสื่อทางการเวียดนาม เด็กๆ ตลอดจนพี่เลี้ยง ณ สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าแห่งนั้นยังคงคิดถึงเจ้าหนูซาง และ ยังคงหวังว่าจะมีสิ่งมหัศจรรย์เกิดขึ้นที่นั่นอีก

ในกรุงฮานอย ผู้พิพากษาได้เห็นชอบให้ เจ้าหนูใช้ชื่อ "แพ็กซ์เทียน" (Pax Thien) และใช้นามสกุล โจลี-พิตต์ ตามที่คุณแม่คนใหม่ร้องขอ ต่อมาได้เดินทางเข้าสหรัฐฯ พร้อมคุณแม่โดยใช้หนังสือเดินทางที่ออกให้ตามชื่อใหม่โดยสถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงฮานอย

แต่สำหรับผู้พิพากษาสหรัฐฯ นั้น ทุกอย่างไม่ได้ง่าย คอบครัวนี้ต้องใช้เวลานานถึง 1 ปี ในการพิสูจน์ตัวเอง ก่อนที่ศาลจะยอมรับให้น้องแพ็กซ์ใช้นามสกุลใหม่ของคุณพ่อคุณแม่บุญธรรมได้อย่างถูกต้อง

กฎหมายของสหรัฐฯ เคร่งครัดในการอนุญาตให้ชาวอเมริกันรับบุตรบุญธรรม ไม่ใช่เพียงแค่ว่าร่ำรวยอย่างเดียวก็จะสามารถรับเด็กจากอีกซีกโลกหนึ่งไปเลี้ยงดูได้ มีเงินแล้วยังจะต้องมีความรักกับความอบอุ่นแบ่งปันให้ เพื่อให้มีหลักประกันว่าสมาชิกใหม่ของครอบครัวสามารถอยู่อาศัยที่นั่นได้อย่างเป็นสุขตลอดชีวิต

สำหรับ "แม็ด" พี่ชายชาวกัมพูชา กับซี น้องสาวจากเอธิโอเปีย ศาลได้อนุญาตให้ใช้นามสกุลโจลี-พิตต์มาตั้งแต่เดือน ม.ค.2549 ส่วนเจ้าตัวเล็ก..ไชโล นั้นแน่นอนว่ามิได้มีปัญหาใดๆ..

หนูน้อยผมบลอนด์นัยน์ตาสีฟ้าได้เค้าหน้าของคุณพ่อมาทั้งหมดกับ นัยน์ตาโต เรียวปากสวยของคุณแม่ กำลังจะแฮปปี้เบิร์ธเดย์ครบ 2 ขวบในเดือน พ.ค.ที่จะถึงนี้ พร้อมๆ กับข่าวที่กำลังจะมีน้องฝาแฝด..

ตกมาถึงปีนี้ครอบครัวโจลี-พิตต์มีแต่ข่าวดีๆ.
กำลังโหลดความคิดเห็น