ยูเอสเอ ทูเดย์ - องค์กรรับผิดชอบด้านการรับบุตรบุญธรรมหลายแห่งในสหรัฐฯ พากันรับโทรศัพท์ไม่หวาดไหวจากชาวอเมริกัน ที่ต้องการรับเด็กกำพร้าจากเหตุแผ่นดินไหวที่เสฉวนไปเลี้ยง
“มีผู้คนสนใจกันมากมายครับ” โจชัว จ้ง เปิดเผย เขาเป็นผู้ร่วมก่อตั้งองค์การสากลเพื่อการรับเด็กชาวจีนเป็นบุตรบุญธรรม (Chinese Children Adoption International) ซึ่งเป็นองค์กรเฉพาะเกี่ยวกับจีน ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในสหรัฐฯ
เขาระบุว่า นับตั้งแต่เกิดแผ่นดินไหวที่มณฑลเสฉวนเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม มีผู้โทรศัพท์เข้ามาสอบถามขอรับบุตรบุญธรรมเพิ่มสูงกว่า 3 เท่า
อย่างไรก็ตาม หน่วยงานของจ้งและหน่วยงานอื่น ๆ พยายามชี้แจงเพื่อให้ผู้สอบถามคาดหวังน้อยลง ด้วยเหตุผล 2 ประการคืออาจมีเด็กมากมาย ที่ไม่ได้เป็นเด็กกำพร้า เมื่อตามหาพ่อแม่หรือญาติพี่น้องพบแล้ว และปัจจุบัน ชาวจีนเองก็ขอรับบุตรบุญธรรมกันมากขึ้น โดยแผ่นดินไหวครั้งนี้ พบเด็กที่พ่อแม่เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 4,000 คน
ด้านเจ้าหน้าที่ระดับสูงฝ่ายการรับบุตรบุญธรรมของกระทรวงกิจการพลเรือนจีนระบุว่า ทางกระทรวงจะให้โอกาสแก่ชาวจีนในประเทศที่แสดงความจำนงก่อนชาวต่างชาติ โดยในจีนเองก็มีเสียงโทรศัพท์สอบถามเข้ามามากมายไม่แพ้กัน ซึ่งสะท้อนว่าการรับบุตรบุญธรรมเป็นที่ยอมรับกันมากขึ้นบนแดนมังกร ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นสิ่งต้องห้าม
ความสนใจดังกล่าว ประกอบกับเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของจีน ซึ่งทำให้การเลี้ยงดูเด็กเป็นเรื่องง่ายขึ้นนั้น ส่งผลให้มีเด็กกำพร้าสำหรับให้ชาวต่างชาติขอไปเลี้ยงน้อยลง
เมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว จีนได้วางกฎระเบียบเข้มงวดขึ้นในการขอรับบุตรบุญธรรม โดยห้ามชาวต่างชาติดังต่อไปนี้ ได้แก่คนโสด, เกย์, คนอ้วน, ผู้มีอายุสูงกว่า 50 ปี,ผู้มีรายได้ต่ำ หรือมีประวัติเป็นผู้ป่วยทางจิต
นับตั้งแต่ปี 2543 เป็นต้นมา จีนเคยเป็นประเทศอันดับหนึ่ง ที่ผู้คนในสหรัฐฯ ขอรับบุตรบุญธรรมไปเลี้ยง แต่ปัจจุบันการขอรับบุตรบุญธรรมลดจำนวนลง โดย เมื่อปีที่แล้วมีจำนวน 5,453 คน ลดลงจาก 7,906 คนเมื่อปี 2548 จากข้อมูลของกระทรวงต่างประเทศ
สำหรับกรณีแผ่นดินไหวที่เสฉวน เจ้าหน้าที่ระบุว่า จะยังไม่มีการเปิดรับบุตรบุญธรรมในตอนนี้ เนื่องจากการติดตามค้นหาพ่อแม่ หรือญาติพี่น้องของเด็กเป็นภารกิจอันดับแรก ที่ต้องทำให้เสร็จสิ้นเสียก่อน
นายโทมัส แอ็ตวู้ด ประธานสภาเพื่อการรับบุตรบุญธรรมแห่งชาติ ( National Council For Adoption) ระบุว่า คราวมหันตภัยคลื่นสึนามิถล่มประเทศชายฝั่งมหาสมุทรอินเดียเมื่อเดือนธันวาคม ปี 2547 มีผู้คนสนใจขอรับบุตรบุญธรรมหลั่งไหลเข้ามามากมาย คล้ายกัน โดยชาวอเมริกันจำนวนมากต้องการรับเด็กไปเลี้ยง แต่ประเทศในภูมิภาคนี้ ยกเว้นประเทศไทย ไม่มีโครงการรับบุตรบุญธรรมระหว่างประเทศ กรณีของพม่า ซึ่งถูกพายุไซโคลนนาร์กีสถล่มก็เช่นเดียวกัน
สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าหลายแห่งในจีนพังเสียหายจากแผ่นดินไหว และหน่วยงานด้านการรับบุตรบุญธรรมในสหรัฐฯ พากันส่งความช่วยเหลือมาให้ โดยผู้ที่รับเด็กจากแดนมังกรไปเลี้ยง หรือกำลังต้องการขอรับเด็กไปเลี้ยง ต่างหลั่งไหลบริจาคเงินมาช่วยอย่างน่าซาบซึ้งในน้ำใจ
