แฟนๆ ขากรี๊ดเตรียมหมาดคอรอได้เลย อีกไม่นานคู่พระคู่นางคู่ใหม่จะข้ามโขงมา.. คราวนี้จากเมืองมรดกโลกของลาวท่ามกลางบรรยากาศเย็นเยือกช่วงต้นปี
อนันดา เอฟเวอริงแฮม (Ananda Everingham) จากฝั่งไทย ถูกบรรจงเลือกให้ประกบกับ คำลี่ พีละวง สาวผิวสวย รองอันดับ 2 จากเวที Miss Lux 2006 เพื่อให้เป็นขวัญใจคู่ใหม่ใน “สบายดีหลวงพระบาง” ภาพยนตร์จอกว้างเรื่องแรก เท่าที่เคยมีการสร้างจากความร่วมมือระหว่างเอกชนสองประเทศ
ลาวอาร์ทมีเดีย (Lao Art Media) กับสปาตา (ประเทศไทย) กำลังจะปิดกล้อง “สบายดีหลวงพระบาง” ในสัปดาห์นี้ ที่เมืองมรดกโลกในภาคเหนือของลาว หลังจากโยกทีมถ่ายทำขึ้นเหนือล่องใต้ ตลอดเวลาเกือบ 2 เดือนที่ผ่านมา
จากนี้ไปก็จะเป็นช่วงโพสต์โปรดักชั่น ตัดต่อ ดั๊บเสียง ทำซับไตเติลและอื่นๆ เพื่อให้ออกมาเป็นหนังความยาวสักหนึ่งชั่วโมงครึ่ง ไม่สั้นไม่ยาว กำลังพอดีๆ สำหรับผู้ชมทั่วไป
หากทุกอย่างเป็นไปตามแผน แฟนๆ ในประเทศไทยก็จะได้ชม “สบายดีหลวงพระบาง” ตามโรงใหญ่ พร้อมๆ กับชาวลาว ในช่วงบุญปีใหม่-สงกรานต์บ้านเฮา เม.ย.นี้
“สบายดี..เป็นคำง่ายๆ ที่ใช้แทนความเป็นคนลาวได้ดีที่สุด” นายอะนุสอน สิหลิสักดา ประธานบริษัท ลาวอาร์ทมีเดีย (Lao Art Media) กล่าวกับ “ผู้จัดการรายวัน” ทางโทรศัพท์จากเวียงจันทน์เมื่อวันอังคาร (8 ม.ค.) นี้
“และหลวงพระบางก็เป็นเมืองมรดกโลกที่ชาวไทยกับชาวโลกรู้จักดี” ประธาน LAM กล่าวถึงที่มาที่ไปของแนวคิดกับการตั้งชื่อภาพยนตร์เรื่องใหม่นี้
ผู้สร้าง-ผู้กำกับ ไม่ลังเลที่จะเลือกพระเอกอนันดา ด้วยเหตุผลที่ชัดเจน คือ คุณแม่คำแก้วเป็นชาวลาวโดยกำเนิด คุณพ่อเป็นออสเตรเลียน อนันดาจึงมีเลือดเนื้อเชื้อไขจากฝั่งซ้ายถึงครึ่งต่อครึ่ง และงานแสดงของเขาที่ผ่านมาได้รับการยอมรับจากผู้ชมทั้งสองประเทศ
คุณสมบัติทั้งหมดนี้ตรงเผงกับบทของ “สอน” หนุ่ม “ลูกซอด” ออสซี่-ลาว ที่กลับไปเยี่ยมปิตุภูมิด้วยความอยากรู้อยากเห็น ซึ่งในชีวิตจริงของอนันดาก็เป็นเช่นนั้น
“อนันดาสนใจมาก เต็มใจและอยากจะเล่นหนังเรื่องนี้มาก” ประธาน LAM กล่าวถึงชีวิตจริงของ “สอน” หนุ่มลูกซอด..
“สอน” ถูกชะตาชีวิตเล่นงาน พรหมลิขิตหรือจังหวะแห่งชีวิตอะไรสักอย่างได้ขีดเส้นให้เดินทางไปพบและรู้จัก "น้อย" และ หัวใจที่ว้าเหว่จากต่างแดนไม่อาจจะปิดกลั้นความรู้สึกอันล้ำลึกที่มีต่อมัคคุเทศก์สาวแห่งดินแดนปิตุภูมิได้
“น้อย” ก็ดูไม่ได้ต่างกัน ความใกล้ชิดตลอดเวลาในดินแดนอันสวยงาม ได้ทำให้หัวใจของหนุ่มสาวต่างแดน ต่างวัฒนธรรม พองโตและเกิดประกายแห่งความหวัง.. แต่ก็ยากที่จะเอ่ยปากบอกอะไรบางอย่าง ที่ติดค้างอยู่ในใจ
อย่างไรก็ตาม จากคำบอกเล่าของประธาน LAM ซึ่งเป็นทั้งผู้สร้างและผู้กำกับ "สบายดีหลวงพระบาง" ไม่ได้จบลงแบบง่ายๆ ไม่ใช่แฮปปี้เอ็นดิ้งอย่างที่แฟนๆ หลายคนอาจจะคาดเดาล่วงหน้า
แต่ฉากจบที่เมืองหลวงพระบางในสัปดาห์นี้จะมีความซาบซึ้งตรึงใจยิ่งกว่านั้น..
สำหรับ "น้อย" ทีมผู้สร้างได้มองหาสาวนักเรียนนอกสักคนอย่างยากลำบาก เพื่อให้รับบทบาทเป็นมัคคุเทศก์อาชีพ เจ้าหน้าที่ของ LAM อีกผู้หนึ่งกล่าวว่า มีการคัดแล้วคัดอีกก่อนจะตัดสินใจเลือก สาวคำลี่
“น้อย” ในชีวิตจริงนั้น ปัจจุบันอายุเพิ่งจะ 19 กำลังเรียนชั้นปีที่ 1 คณะสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยหัวเฉียวแห่งเมืองเซียะเหมิน แผ่นดินใหญ่จีน
นายอนุสอนกล่าวว่า แรกเริ่มทีเดียวสาวคำลี่ตั้งใจจะลาหยุดเรียนเป็นเวลาสั้นๆ แต่ไปๆ มาๆ ก็ต้องหยุดยาวเพราะยากจะทุ่มเทให้กับงานที่อาจจะเปลี่ยนแปลงชีวิตของเธอ.. อย่างไม่มีวันที่จะกลับไปเหมือนเดิมได้อีก
ชื่อ “คำลี่” เกิดจากการสมาสคำอย่างชาญฉลาด ระหว่างภาษาลาวกับภาษาจีนให้มีความหมายว่า “ผู้น่ารัก” หรือ “อันเป็นที่รัก”
“คำ..” นอกจากจะหมายถึงโลหะล้ำค่าแล้ว ในภาษาลาวยังมีความหมายในเชิง “น่ารักน่าเอ็นดู” อีกด้วย จึงนิยมนำไปใช้นำหน้าชื่อให้มีความหมายว่า “น่ารัก” เช่น คำนาง (หญิงสาวหรือลูกสาวที่น่ารัก) คำหล้า (ลูกคนเล็กที่น่ารัก) หรือ คำน้อย ซึ่งมีความหมายคล้ายๆ กับสองชื่อแรก เหล่านี้เป็นต้น
ส่วน “..ลี่” ตามความเห็นของผู้ชำนาญการนั้น น่าจะไปจาก “ลี่” (Li) ในภาษาจีน ซึ่งแปลอย่างตรงไปตรงมาว่า “สวย”
ในที่นี้ “คำลี่” ได้สะท้อนรูปลักษณ์เจ้าของชื่ออย่างตรงไปตรงมาที่สุด..
ผู้กำกับบอกว่า ภาพยนตร์สบายดีหลวงพระบาง สร้างขึ้นด้วยจุดมุ่งหมายสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างชาวไทยกับชาวลาว ประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงที่มีภูมิหลังใกล้เคียงกันมากที่สุด ขณะที่ในความเหมือนก็ยังมีความแตกต่าง
สบายดีหลวงพระบาง ยังจะมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศ ด้วยการเดินเรื่องแบบโรดมูฟวี่ (Road Movie) เคลื่อนที่ไปเรื่อยๆ จากกรุงเทพฯ สู่ประตูซัย-วัดพระธาตุหลวง วัดสีสะเกด นครหลวงเวียงจันทน์ ลงใต้ไปยังตาดคอนพะเพงกับหลี่ผี ตาดผาซ่วม สู่คุ้งน้ำสี่พันดอนในแขวงจำปาสัก
แต่ไม่ว่าจะเป็นที่ใดๆ ภาพยนตร์เรื่องนี้จงใจที่จะมอบมรดกทางวัฒนธรรมและประเพณีที่สวยงามต่างๆ ของลาวให้ผู้ชมได้ซึมซับ รวมทั้งได้เห็นความสวยงามทางสถาปัตยกรรมของอาคารเก่าแก่ตั้งแต่ยุคฝรั่งเศส
ไกด์สาวได้พาหนุ่มจากต่างแดนไปยังเมืองมรดกโลก.. ใช้เวลาพอสมควรให้ผู้ชมได้ดื่มด่ำบรรยากาศของเมืองเก่า..จากยอดพูสีมองลงไปเห็นพระราชวังเก่าในเบื้องล่าง.. เห็นโค้งของแม่น้ำโขงกับลำน้ำคานที่ยู่คนละฟากของตัวเมือง
สองหนุ่มสาวยังได้นำมิตรรักแฟนหนังออกท่องราตรี “ตลาดมืด” บนถนนท่องเที่ยวสายสำคัญของเมือง
สบายดีหลวงพระบาง น่าจะออกมาเป็นภาพยนตร์ที่ดูง่ายๆ สื่อความหมายตรงไปตรงมา ในบรรยากาศที่สนุกสนาน แทรกด้วยบทฮา ด้วยมุมมองแปลกใหม่จากดินแดนฝั่งซ้าย..
เมื่อหัวใจพองโตจนยากจะกลั้นเอาไว้ต่อไป “สอน” ได้พยายามครั้งแล้วครั้งเล่า ที่จะบอกความในใจกับ “น้อย”
แต่เหมือนกามเทพถูกกลั่นแกล้ง จะเอ่ยปากครั้งใดก็จะมีมุกแปลกๆ เกิดขึ้นและขัดขวางทำให้ไม่สบโอกาสเสมอไปเสียทุกครั้ง
ส่วนเรื่องจะจบลงอย่างหวานซึ้งขนาดไหน.. ต้องทิ้งเอาไว้ให้แฟนๆ ทั้งชาวลาวและชาวไทยได้กรี๊ดพร้อมๆ กันในช่วงสงกรานต์ปีนี้...