xs
xsm
sm
md
lg

สหภาพฯทีโอทีฉาวมุบมิบเงินหายกว่า 4 ล. ปิดงบดุลไม่ลงก.แรงงานจี้เปิดประชุมใหญ่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายโสภณ ยาเอก ผู้ตรวจสอบศูนย์เลี้ยงเด็ก กรรมการสหภาพแรงงาน
วิกฤตสหภาพแรงงานทีโอที ‘อนันต์-ประหยัด -โสภณ’ 3 แกนนำกรรมการบริหารฉาว ปิดบัญชีงบดุลไม่ลง เงินหายกว่า 4 ล้านบาทจากการบริหารศูนย์เลี้ยงเด็ก สรท. กระทรวงแรงงานสั่งด่วนให้รีบดำเนินการปิดบัญชี และเสนอให้ที่ประชุมใหญ่สมาชิกให้รับรองโดยเร็ว เผย 3 แกนนำเป็นกรรมการบริหารสหภาพฯชุดเก่าและยังเป็นแกนนำสหภาพฯชุดใหม่ มักเคลื่อนไหวกดดันรมว.ไอซีทีและบอร์ดทีโอที แสดงบทมาเฟีย หวังตั้งโต๊ะอวดอ้างอิทธิพลกับพ่อค้า

แหล่งข่าวจากกระทรวงแรงงานเปิดเผยว่า นายอาทิตย์ อิสโม รองอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน ในฐานะนายทะเบียนสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ ได้มีหนังสือสั่งให้ประธานสหภาพแรงงานทีโอที เสนองบดุล งบการเงิน ที่ผ่านการสอบบัญชีของผู้สอบบัญชี ต่อที่ประชุมใหญ่สมาชิกโดยด่วน

ในหนังสือดังกล่าวได้ระบุว่า สหภาพแรงงานทีโอที (สรท.) ไม่มีการเสนองบดุลพร้อมรายงานการสอบบัญชีรอบปีบัญชี ตั้งแต่ 1 กรกฏาคม 2548 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2548 และตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึงวันทื่ 31 ธันวาคม 2549 ให้ที่ประชุมใหญ่สมาชิกได้พิจารณาลงมติรับรอง  อันเป็นการไม่ปฏิบัติตามที่ ข้อบังคับสหภาพแรงงาน สรท. ข้อ 20  และฝ่าฝืนพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2543 ต้องระวางโทษตามมาตรา 83 วรรคหนึ่ง  ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองพันบาท

สำหรับสาเหตุที่สหภาพฯ ทีโอที ไม่สามารถปิดบัญชีงบการเงินได้นั้นเนื่องจากบัญชีสหภาพแรงงาน ศูนย์รับเลี้ยงเด็ก ที่บริหารงานมาตั้งแต่ปี 2547 ถึงปัจจุบัน ได้มีการเบิกจ่ายเงินไปกว่า 4 ล้านบาท แต่ไม่มีหลักฐานรายละเอียดค่าใช้จ่าย ซึ่งเงินจำนวนกว่า 4 ล้านบาทนี้ รวมถึงเงินที่บริษัท ทีโอที ได้บริจาคให้แก่ศูนย์เลี้ยงเด็กปีละ 2 แสนบาทในงานวันก่อตั้งบริษัท ทีโอทีวันที่ 31 กรกฎาคมของทุกปี   

ผู้ที่รับผิดชอบศูนย์รับเลี้ยงเด็กของสหภาพฯ ทีโอที อันประกอบด้วย นายอนันต์ ศรีม่วง เลขานุการ สรท. ในฐานะ ผู้อำนวยการศูนย์เลี้ยงเด็กสรท. นายประหยัด คำแก้ว กรรมการบริหารศูนย์เลี้ยงเด็ก และนายโสภณ ยาเอก ผู้ตรวจสอบศูนย์เลี้ยงเด็ก กรรมการสหภาพแรงงาน ทั้ง 3 คน เพียงแต่ทำสรุปบัญชีแสดงงบรายได้และค่าใช้จ่าย ตั้งแต่ปี 2547 จนถึงสิ้นปี 2550  ซึ่งบัญชีดังกล่าว ระบุรายได้จากค่าบริการ แต่ไม่ระบุจำนวนเด็กที่ใช้บริการ

ส่วนรายจ่ายนั้น ได้จัดทำแยกรายจ่าย เป็นค่าเงินเดือน/ค่าแรง  ค่าอาหาร เบ็ดเตล็ด และยอดยกไปของทุกเดือน เท่านั้น โดยไม่มีเอกสารและหลักฐานการจ่ายเงิน   จึงไม่สามารถปิดบัญชีงบดุลของสหภาพแรงงาน  เพื่อเสนอให้สมาชิกรับรองในการประชุมใหญ่วิสามัญ เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2550   ได้

ศูนย์เลี้ยงเด็กของ สรท. นี้ ได้รับการสนับสนุนจากบริษัท ทีโอที ไม่คิดค่าสถานที่ ค่าน้ำ ค่าไฟ รวมทั้งยังได้มีการบริจาคสนับสนุนเป็นทุนทุกปี ปีละ 2 แสนบาท  

สำหรับรายละเอียดสรุปบัญชีแสดงงบรายได้และค่าใช้จ่าย ที่จัดทำโดย นายอนันต์ ศรีม่วง เลขานุการ สรท. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์เลี้ยงเด็ก สรท. นายประหยัด คำแก้ว กรรมการบริหารศูนย์เลี้ยงเด็ก และนายโสภณ ยาเอก ผู้ตรวจสอบ ปรากฏว่าในปี 2547 ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ถึง ธันวาคม  มีรายได้จากค่าบริการ เป็นเงิน 467,199.87บาท  และมีค่าใช้จ่าย เป็นค่าแรงเงินเดือนครู เป็นเงิน  269,800.00 บาท เป็นค่าอาหาร 101,235.00 และเป็นค่าเบ็ดเตล็ดอีก 81,730.35  บาท  รวมเป็นค่าใช้จ่าย 452,765.35 บาท

ส่วนในปี  2548   มีรายได้จากค่าบริการ เป็นเงิน 1,498,600.00 บาท  และมีค่าใช้จ่าย เป็นค่าแรงเงินเดือนครู เป็นเงิน  762,330.00 บาท เป็นค่าอาหาร 274,210.00 บาท และเป็นค่าเบ็ดเตล็ดอีก 219,583.75  บาท  

ในปี 2549 มีรายได้จากค่าบริการเป็นเงิน  1,576,750.00 บาท และมีค่าใช้จ่ายเป็นค่าแรงเงินเดือนครู เป็นเงิน 950,740.00 บาท ค่าอาหาร 275,960.00 บาทและค่าเบ็ดเตล็ดอีก  176,675.00  บาท รวมเป็นรายจ่ายในปี 2549 เป็นเงิน 1,403,325.79 บาท โดยบัญชีทั้งหมดปรากฎว่าทำการลงบัญชีโดยไม่มีหลักฐานการจ่ายเงินใด ๆทั้งสิ้น

เป็นที่น่าสังเกตว่าตั้งแต่ปี 2547 เป็นต้นมา การเบิกถอนเงินในบัญชีสหภาพแรงงาน จาก ธนาคารกรุงไทย สาขาย่อยทีโอที (แจ้งวัฒนะ) เลขที่บัญชี 066 – 1 -1/8273 – 8 ได้เบิกถอนเกินอำนาจคณะกรรมการบริหารสหภาพแรงงาน ซึ่งแต่ละครั้งเป็นการเบิกเกินอำนาจของประธาน และ เลขานุการสหภาพแรงงาน ที่กำหนดเบิกถอนได้ไม่เกิน 5,000.00 บาท  หากเบิกถอนเกินกว่ากำหนด ต้องขอมติจากคณะกรรมการ หรือจากที่ประชุมใหญ่สมาชิก

นอกจากมีการเบิกเกินอำนาจแล้ว ยังมีการเบิกซ้ำในแต่และเดือนอีกด้วย เดือนหนึ่งมีการเบิกถึง 2 ครั้ง  เช่น  ในปี 2548 วันที่ 28 กุมภาพันธ์  มีการเบิก  ครั้งละ 67,020.00 บาท ถึง 2 ครั้ง  รวมเป็นเงินที่เบิกในวันนั้นถึง 134,040.00 บาท  และในปี 2549 มีการเบิกในวันที่ 1 มิถุนายน 74,540.00 บาท และวันที่ 6 มิถุนายน เบิกอีก 74,540.00 บาท รวมเบิก 2 ครั้งในเดือนเดียวเป็นเงิน 149,080.00 บาท และในปี 2550 มีการเบิกเช่นเดียวกันอีกในเดือนตุลาคม วันที่ 4 ตุลาคม เบิก เงิน 97,160.00 บาท และวันที่ 28 มิถุนายน เบิกอีก 96,650.00 บาท รวมเป็นเงิน 193,810.00 บาท

‘จากประเด็นปัญหาของความไม่โปร่งใสของการบริหารจัดการศูนย์เลี้ยงเด็ก ทำให้กระทรวงแรงงานต้องมีหนังสือเร่งรัดให้รีบดำเนินการปิดบัญชี และเสนอให้ที่ประชุมใหญ่สมาชิกได้รับรองโดยเร็ว’ แหล่งข่าวจากกระทรวงแรงงานกล่าว

นายพรชัย มีมาก อดีตกรรมการสหภาพฯ ทีโอที ในฐานะสมาชิกได้มีหนังสือถึงนายทะเบียนสหภาพแรงงานเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2550 แจ้งให้นายทะเบียนสั่งให้สหภาพฯ ทีโอที เสนองบดุล พร้อมด้วยรายงานการสอบบัญชีของผู้สอบบัญชีในที่ประชุมใหญ่สมาชิก ได้กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวเป็นปัญหา ทำให้ภาพลักษณ์ขององค์กรเสียหาย และเกิดวิกฤตภายในคณะกรรมการสหภาพฯชุดใหม่ของบริษัท ทีโอที  เนื่องจากกรรมการทั้ง 3 คนที่เกี่ยวพันกับ ศูนย์เลี้ยงเด็กดังกล่าว ยังคงเป็นแกนนำ และชี้นำกรรมการสหภาพฯ ชุดใหม่   

‘ผมกำลังเตรียมหลักฐานที่จะดำเนินการฟ้องร้องทั้งทางอาญา และทางแพ่งต่อไป โดยจะขออำนาจศาลขอตรวจสอบบัญชีเงินฝากของสหภาพแรงงาน ศูนย์เลี้ยงเด็ก  ที่ ได้ฝากไว้ที่ธนาคารกรุงไทย สาขาย่อยทีโอที (แจ้งวัฒนะ)เลขที่บัญชี 066 – 1 -1/8273 – 8’

นายพรชัยกล่าวอีกว่านอกจากจะบริหารงานศูนย์รับเลี้ยงเด็กไม่โปร่งใสแล้ว เมื่อเร็วๆนี้ นายโสภณ ยาเอก นายประหยัด คำแก้ว และนายอนันต์ ศรีม่วง ยังได้ขอเข้าพบรมว.ไอซีที เพื่อคัดค้านการแต่งตั้งรักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ ซึ่งเรื่องดังกล่าวไม่ใช่หน้าที่ของกรรมการสหภาพแรงงาน ที่จะไปชี้นำคณะกรรมการและรมว.ไอซีที

‘พฤติกรรมของกรรมการสหภาพฯทั้ง 3 คน เป็นที่เอือมระอาของคณะกรรมการสหภาพฯ ชุดใหม่ และพนักงานทั่วไป เพราะนอกจากจะบริหารงานศูนย์เลี้ยงเด็กอย่างไม่โปร่งใส  จนเกิดปัญหาแล้ว ปัจจุบันยังได้แฝงตัวเข้ามาอยู่ในกลุ่มกู้วิกฤตโดยการนำของ ดร. พงศ์ฐิติ พงศ์ศิลามณี ซึ่งนายทะเบียนสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ เพิ่งจะรับการจดทะเบียนกรรมการ เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2551 ที่ผ่านมา’

Company Related Links :
TOT
กำลังโหลดความคิดเห็น