xs
xsm
sm
md
lg

เหยื่อรับน้องโหดรับไม่ได้ขอย้าย ตร.ชี้ รุ่นพี่ข้อหาหนักพยายามฆ่า!!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

ตร.พร้อมฟันอาญา รุ่นพี่รับน้องโหด แม้รุ่นน้องจะไม่เอาเรื่อง เชื่อ บาดแผลรุ่นน้องที่เกิดขึ้นจงใจ มีโทษถึงพยายามฆ่า ประสานมหาวิทยาลัยตรวจสอบประวัติรุ่นพี่ที่เกี่ยวข้อง คาด มีรุ่นพี่ร่วมอีกหลายคน อธิการฯ รับยอมเสียชื่อเสียง พร้อมรับผิดชอบทุกอย่าง ระบุ เป็นกรณีศึกษาให้สถาบันอื่น เบื้องต้นสั่งพักการเรียนรุ่นพี่โหด 1 ปี ด้านลุงเหยื่อรับน้อง เผย หลานขอย้ายที่เรียน รับสภาพไม่ได้ ไม่มีจิตใจเรียนต่อ

วันนี้ (17 มิ.ย.) เมื่อเวลา 09.30 น.พ.ต.อ.กิตติพันธุ์ จุนทการ ผกก.สน.ทุ่งมหาเมฆ กล่าวถึงความคืบหน้ารุ่นพี่รับรุ่นน้องโหดเกิดขึ้นที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยราชมงคลกรุงเทพ ว่า เรื่องดังกล่าวทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้นิ่งนอนใจ ตนได้สั่งกำชับให้พนักงานสอบสวนลงพื้นที่ไปตรวจสอบหาข้อมูลจุดเกิดเหตุร วมถึงพยานแวดล้อมต่างๆ รวมถึงสอบปากคำผู้เสียหายอย่างละเอียดชัดเจนอีกครั้ง เนื่องจากที่ผ่านมาผู้เสียหายยังให้การไม่ชัดเจนและท่าทางของผู้เสียหายยังไม่แน่ใจว่าจะเอาเรื่องรุ่นพี่หรือเปล่าต้องรอปรึกษาผู้ปกครองก่อน และต้องการที่จะเรียนต่อในสถาบันอย่างไม่ต้องระวังภัย แต่ถ้าหากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์ว่าการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดทางอาญาหากผู้เสียหายไม่ต้องการเอาเรื่องทางเจ้าพนักงานก็สามารถแจ้งความดำเนินคดีได้เลยเพราะเป็นความผิดทางอาญา

พ.ต.อ.กิตติพันธุ์ กล่าวอีกว่า เบื้องต้นต้องตรวจสอบให้แน่ชัดว่ามีพยานแวดล้อมเห็นหรือไม่ บาดแผลที่เกิดขึ้นเกิดจากความจงใจ ความประมาท หรืออุบัติเหตุ เนื่องจากในช่วงเกิดเหตุผู้เสียหายไม่เห็นหน้าคนทำ เพราะนอนคว่ำหน้าและไม่รู้ว่าสเปรย์ฉีดผ่านไฟแช็กจริงหรือไม่ หรือเกิดจากอุบัติเหตุรุ่นพี่ต่อบุหรี่ และเกิดประกายไฟจริงหรือเปล่า เพราะสเปรย์เป็นวัตถุไวไฟ แต่จากลักษณะภาพถ่ายที่เป็นบาดเแผลน่าจะเกิดจากความจงใจมากกว่า ซึ่งมีโทษหนักถึงพยายามฆ่า อย่างไรก็ตามต้องตรวจสอบเรื่องดังกล่าวให้แน่ชัดอีกครั้งก่อนที่จะเอาผิดกับผู้กระทำดังกล่าวต่อไป

“ขณะนี้มีผู้เสียหายเพียงรายเดียวเท่านั้น ยังไม่มีรายอื่นๆ เข้ามาแจ้งความเพิ่มเติม เบื้องต้นตนได้สั่งการให้ร้อยเวรเจ้าของคดีพาตัวไปตรวจสภาพร่างกาย ที่ รพ.เจริญกรุงประชารักษ์แล้วเมื่อช่วงเช้านี้ และได้รับการประสานจากแม่ของผู้เสียหาย ว่า กำลังจะเดินทางมาจาก จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อมาดูอาการลูกชายในช่วงเย็นวันนี้ สำหรับในช่วงเที่ยงตนพร้อมทีมงานสอบสวน ก็จะเดินทางไปพบ ดร.สุกิจ นิตินัย คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ เพื่อเชิญตัวมาสอบสวน และติดต่อขอรับเอกสารหลักการ การจัดระเบียบการรับน้องมาประกอบสำนวนการสอบสวน และจะไปตรวจสอบอาคาร 14/1 ที่ผู้เสียหายระบุว่าเป็นอาคารที่เกิดเหตุอีกด้วย ซึ่งเมื่อติดต่อไปทางโรงเรียนก็ได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี” พ.ต.อ.กิตติพันธุ์ กล่าว

ต่อมาเมื่อเวลา 11.00 น.พ.ต.อ.กิตติพันธุ์ จุนทการ ผกก.สน.ทุ่งมหาเมฆ ได้เดินทางไปยังมหาวิทยาลัยที่เกิดเหตุ เพื่อประสานคณบดีของคณะวิศวกรรมฯ เพื่อขอรวบรวมเอกสารทั้งหมดเกี่ยวกับกิจการรมรับน้องของทางมหาวิทยาลัย และจะตรวจสอบประวัติรุ่นพี่ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ คาดว่ามีรุ่นพี่หลายคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่ยังไม่ทราบใครเป็นผู้ลงมือ ซึ่งจะนำหลักฐานทั้งหมดให้รุ่นน้องที่ถูกทำร้ายชี้ตัวรุ่นพี่คนใดเป็นผู้ก่อเหตุแท้จริง ขณะเดียวกัน พ.ต.อ.กิตติพันธุ์ ได้เดินทางไปยังอาคาร 14 เพื่อตรวจสอบบริเวณชั้น 2 ตามที่ผู้เสียหายแจ้งความ แต่ไม่พบร่องรอยหลักฐานใด และยังไม่มีผู้เสียหายคนใดเข้าแจ้งความเพิ่มเติม

ด้านผู้ช่วยศาสตราจารย์เฉลิม มัติโก อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีกรุงเทพ กล่าวว่า ทางมหาวิทยาลัยรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยจะรีบดำเนินการติดต่อกับผู้ปกครองของผู้เสียหาย เพื่อรับผิดชอบกับเรื่องดังกล่าว โดยจะรับผิดชอบกับค่าใช้จ่ายรักษาพยาบาลสำหรับเรื่องการศึกษาหากเด็กนักเรียนผู้เสียหายไม่ต้องการที่จะเรียนที่นี่ต่อไปแต่อยากจะย้ายไปเรียนที่อื่นที่เป็นเครือข่ายของราชมงคล ก็ไม่มีปัญหาทางมหาวิทยาลัยจะติดต่อประสานงานให้ เพราะทางเราเข้าใจดีว่าเด็กไม่กล้าที่จะเรียนที่นี่ต่อไป เพราะเสียกำลังใจและเกรงกลัว แต่ผู้ปกครองต้องรีบประสานทางมหาวิทยาลัย เพราะจะส่งผลกระทบต่อเด็กอาจจะเรียนไม่ทัน หากย้ายที่ไปเรียนที่ใหม่ แต่ถ้าเด็กนักเรียนมีความจำนงที่จะเรียนที่เดิมทางมหาวิทยาลัยก็รับปากจะดูเป็นอย่างดีรับประกันเรื่องความปลอดภัย

ผู้ช่วยศาสตรจารย์เฉลิม กล่าวต่อว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรู้สึกเสียดายอนาคตของเด็กนักเรียนทั้ง 2 ฝ่าย แต่คนผิดก็ว่าไปตามความผิดซึ่งเบื้องต้นทางมหาวิทยาลัยเรียกนักเรียนน้องใหม่ทุกคนมาตรวจร่างกายเพื่อหาบาดแผลรอยฟกซ้ำดำเขียวเกี่ยวกับการรับน้องเพื่อนสวบสวนเอาผิดรุ่นพี่ที่ใช้ความรุนแรงต่อไป ขณะเดียวกัน ทางมหาวิทยาลัยก็ตั้งคณะกรรมสอบสวนเรื่องดังกล่าว โดยเรียกนักเรียนรุ่นพี่มาสอบสวนทีละคน แต่ขณะนี้นักเรียนรุ่นพี่ที่ถูกระบุชื่อทั้ง 3 คนยังไม่ได้เดินทางมาที่มหาวิทยาลัยและติดต่อไม่ได้ทางมหาวิทยาลัยก็ได้ติดต่อไปยังผู้ปกครอง เพื่อมารับฟังคำอธิบายและชี้แจงการกระทำผิด โดยหากพิสูจน์แล้วว่าทำผิดจริงก็จะถูกลงโทษขั้นหนักของมหาวิทยาลัยเบื้องต้นก็จะให้พักการเรียน 1 ปี และในระหว่างพักการเรียนก็จะให้มาบริการสังคมพร้อมทั้งอบรมละลายพฤติกรรมที่ไม่ดีให้มีพัฒนาการในทางที่ดีขึ้น เพราะตนเชื่อว่านักเรียนทุกคนที่หลงผิดสามารถกลับมาเป็นคนดีได้ แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเพราะใจพาไปอารมณ์พาไป เป็นความคึกคะนองของวัยรุ่น

“ผมดีใจที่ผู้ปกครองของนักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเอาผิดรุ่นพี่ที่ใช้ความรุนแรงถึงแม้ทางมหาวิทยาลัยได้รับความเสื่อมเสียก็ตามแต่เรื่องดังกล่าวจะเป็นกรณีศึกษาให้มหาวิทยาลัยอื่นระมัดระวังเกี่ยวกับการรับน้องไม่ให้เกิดเหตุการณ์ร้ายนี้ขึ้น ทางเราก็จะประสานตำรวจให้ช่วยเร่งรัดดูแลคดีทางตำรวจอาจจะถือว่าเรื่องนี้ไม่ร้ายแรงเพราะไม่มีใครตายแต่สำหรับทางมหาวิทยาลัยของเราถือเป็นเรื่องร้ายแรงต้องจัดการกับเรื่องดังกล่าวให้เด็ดขาดเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างหากผู้ปกครองนักเรียนไม่เอาผิดทางมหาวิทยาลัยจะเแจ้งความเอาผิดเอง สำหรับการรับน้องที่ผ่านมาก็จัดให้มีการรับน้องอยู่ภายในมหาวิทยาลัยเพื่อง่ายต่อการควบคุมดูแลในสายตาของอาจารย์แต่เหตุการณ์ดังกล่าวก็ยังมีนักเรียนรุ่นพี่กลุ่มเดียวกลุ่มเล็กๆแอบไปทำในซอกมุมตึกที่ไม่มีคนเห็นจนเกิดความเสียหายและเสื่อมเสียขึ้น” ผู้ช่วยศาสตรจารย์เฉลิม กล่าว

ขณะที่ นายรณรุจ คำแก้ว ลุงของ นายสุรเดช สุวรรณรัตน์ อายุ 20 ปี นักศึกษาที่ได้รับบาดเจ็บจากการรับน้อง กล่าวว่า ในตอนแรกหลานชายของตนไม่กล้าแจ้งความเอาผิดเพราะมีความเกรงใจสถาบันกับรุ่นพี่แต่ตนเห็นว่าเรื่องดังกล่าวกระทำการเกินกว่าเหตุต้องทำเรื่องจริงให้สังคมประจักษ์จึงได้เข้าแจ้งความกับตำรวจให้ดำเนินคดีส่วนเรื่องการเรียนนั้นหลานก็ยืนยันกับตนว่าจะไม่เรียนในมหาวิทยาลัยแห่งนี้อีก และต้องการย้ายไปเรียนที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลคลอง 6 แต่ไม่รู้ว่าทางมหาวิทยาลัยจะดำเนินการประสานเรื่องย้ายให้หรือไม่ เพราะหลานรับสภาพไม่ได้และไม่มีจิตใจที่จะเรียนต่อที่นี่อีกแล้ว สำหรับพ่อแม่ของหลานเมื่อทราบข้าวก็เดินทางมาจากจังหวัดสุราษฎร์ธานีและจะเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อนำใบรับรองแพทย์ไปยื่นเป็นหลักฐานและให้ปากคำเพิ่มเติม

ทางด้าน ดร.สวัสดี พฤกษ์ตระกูล รองคณบดีคณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม ซึ่งเป็นอาจารย์ที่มีความรับผิดชอบดูแลอาคารที่เกิดเหตุ กล่าวว่า ตามระเบียบของการใช้อาคารนักศึกษาจะต้องทำหนังสือชี้แจงรายละเอียดในการเข้าขอใช้สถานที่ หรือ ห้องเรียน ส่งผ่านมายังตน เมื่อตรวจสอบเห็นควรอนุมัติก็จะให้ใช้อาคารได้ และนักศึกษาต้องทำหนังสือให้ถูกต้องตามระเบียบเท่านั้นจึงจะเข้ามาใช้สถานที่ได้ แต่จากการสอบถามคนงานดูแลอาคารไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ และเชื่อว่านักศึกษาที่จัดกิจกรรมรับน้องคงลักลอบเข้ามาใช้ห้องที่ไม่มีอาจารย์อยู่ อาจจะเป็นช่วงเที่ยงหรือช่วงเย็น

ส่วนบริเวณชั้น 2 ที่นักศึกษาผู้เสียหายกล่าวอ้างมีการรับน้องโหดนั้น ตนเองมองว่า ไม่น่าเป็นไปได้ เนื่องจากบริเวณชั้น 2 มีคนพลุกพล่านและมีห้องพักอาจารย์อยู่ ซึ่งที่เกิดเหตุน่าเป็นชั้น 5 มากกว่า เพราะมีบางห้องอยู่ระหว่างซ่อมแซมอีกทั้งยังมีพื้นที่โล่งซึ่งนักศึกษาน่าจะจัดกิจกรรมได้ อย่างไรก็ตาม เบื้องต้น ต้องรอให้นักศึกษาผู้ที่เสียหายมาชี้จุดเกิดเหตุอีกครั้ง ว่าเป็นจุดใดกันแน่

สุดพิเรนทร์!! รุ่นพี่รับน้อง ยิงสีสเปรย์ใส่ไฟแช็กพ่นใส่หลังรุ่นน้องดิ้นพล่าน
แผ่นหลังของเหยื่อรับน้องโหด รุ่นพี่ชั้นปีที่ 2 ใช้สีสเปย์พ่นใส่ไฟแช็กจนเป็นลูกไฟ ใส่แผ่นหลังจนได้รับบาดเจ็บ
นายสุรเดช สุวรรณรัตน์ อายุ 20 ปี  นักศึกษาที่ได้รับบาดเจ็บจากการรับน้อง
กำลังโหลดความคิดเห็น