เครือข่ายเป็นหูเป็นตาเพื่อสังคม ร่วมกับ กรุงเทพมหานคร สำนักงานเขตสาทร สำนักงานเขตบางรัก และภาคีเครือข่ายความปลอดภัยทางถนน จัดกิจกรรม “แสนล้านคำขอบคุณ” เนื่องในวันแห่งความรัก 14 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ภายใต้แคมเปญ “ระวังหมดอายุ” ปลุกพลังเยาวชน โรงเรียนวัดยานนาวา โรงเรียนวัดดอน ร่วมกันรณรงค์ความปลอดภัยทางถนน ส่งสัญญาณเตือนระวังอุบัติเหตุ ซึ่งเป็นเรื่องที่เราทุกคนต้องช่วยกันป้องกัน ช่วยกันสะกิดเตือนด้วยความรัก ความปรารถนาดี จะได้ไม่มีใครต้องพบความสูญเสีย และหมดอายุก่อนวัยอันควร ให้ทุกชีวิตเดินทางกลับถึงบ้านอย่างปลอดภัยในทุกวัน และร่วมกันสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนน เพื่อพัฒนาให้ถนนสาทรเป็นต้นแบบถนนปลอดอุบัติเหตุ
โดยกิจกรรมนี้ได้รับเกียรติจากผู้ใหญ่ใจดีจากองค์กรต่างๆ เช่น นายธนันท์ชัย เมฆประเสริฐวนิชผู้อำนวยการกองนโยบายและแผนงาน สำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) พรหมมินทร์ กัณธิยะ ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.) เอกสิทธิ์ นาใจตรึก หัวหน้าศูนย์ขับขี่ปลอดภัยฮอนด้า กรุงเทพมหานคร สมเกียรติ โมราลาย นักวิชาการอิสระ/ผู้ทรงคุณวุฒิภาครัฐ ร่วมเดินรณรงค์ไปกับน้องๆ ด้วย โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ตลอดทางน้องๆ ส่งสัญลักษณ์สื่อความหมาย แสนล้านคำขอบคุณ ผู้ใช้รถ ใช้ถนน เพื่อสะกิดเตือนให้ทุกคนใส่ใจให้ความสำคัญ ใส่หมวกกันน็อกทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นคนขี่หรือคนซ้อน ขบวนเริ่มออกสตาร์ทจากหน้าโรงเรียนวัดยานนาวา ขอบคุณรถทุกคันบนถนนเจริญกรุงที่จอดให้คนเดินถนน นักเรียนและครู ข้ามทางม้าลายอย่างปลอดภัย จากนั้นเดินผ่านทางแยกถนนเจริญราษฎร์ ทางแยกถนนปั้น ผ่านวินมอเตอร์ไซด์ จนถึงบริเวณแยกสาทร-นราธิวาส ไปสิ้นสุดบน Skywalk ช่องนนทรี โดยมีพี่ๆ เจ้าหน้าที่เทศกิจของเขตบางรักและ เขตสาทร รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ยานนาวา คอยอำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยให้กับน้องๆ ตลอดเส้นทาง
ดร.อุดม หงส์ชาติกุล ประธานเครือข่ายเป็นหูเป็นตาเพื่อสังคม กล่าวว่า กิจกรรมเดินรณรงค์ เพื่อความปลอดภัยทางถนนในวันวาเลนไทน์ เป็นความตั้งใจที่จะขอบคุณทุกคนที่ใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย เพื่อตัวเอง เพื่อคนที่เขารัก และคนที่รักเขา โดยมีเด็กๆ มาร่วมทำให้ผู้คนที่ผ่านไปมาส่งรอยยิ้ม และความปรารถนาดีร่วมกัน และจุดสำคัญคือการชักชวนให้เด็กๆ ลุกขึ้นเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง เพราะเด็กมักจะได้รับความเอ็นดูจากผู้ใหญ่เมื่อไปขอความร่วมมือ ทำให้การสื่อสารเกิดผลดีตามเป้าหมาย
การรณรงค์ที่ผ่านมาเริ่มจากการสะกิดเตือนคนที่เรารัก และคนที่รักเรา ตามแผนงานของเครือข่ายเป็นหูเป็นตาเพื่อสังคม ได้ศึกษามาว่า มี 4 จุดเสี่ยง ที่ต้องชวนคนไทยให้ความระมัดระวัง ได้แก่ ระวังทางข้าม ระวังความเร็ว ระวังทางแยก และระวังน็อก โดยการสื่อสารเป็นส่วนสำคัญให้เกิดความเข้าใจ ตระหนักรู้ถึง พิษภัยที่จะเกิดขึ้น และทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ในที่สุด และหลังจากรณรงค์อย่างต่อเนื่องมาประมาณ 2 เดือน จนถึงวันนี้มีความสำเร็จก้าวแรก คืออัตราการสวมหมวกกันน็อกเพิ่มขึ้นชัดเจนในโรงเรียนวัดยานนาวาและโรงเรียนวัดดอน ซึ่งเป็นโรงเรียนนำร่อง
“เป้าหมายใหญ่ที่จะช่วยป้องกัน และลดอุบัติเหตุทางถนน คือ การสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนนให้เกิดขึ้นในสังคม โดยถนนสาทรถูกกำหนดให้เป็นถนนทดลองปฏิบัติการ มีการเชิญชวนผู้คนที่สัญจรไปมาร่วมพัฒนาให้เป็น “ต้นแบบถนนปลอดภัย” หรือ “ปลอดอุบัติเหตุ” ด้วยกิจกรรมและการรณรงค์ต่างๆ เริ่มตั้งแต่เดือนมกราคมและจะต่อเนื่องไปถึงเดือนสิงหาคมปีนี้ ซึ่งระหว่างทางจะมีการเก็บข้อมูล และถอดบทเรียน เพื่อนำไปสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยและขยายผลในวงกว้างต่อไป และจากที่ดำเนินการมา ณ เวลานี้ ได้เรียนรู้ว่าการสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยเป็นเรื่องซับซ้อน ไม่ง่าย เพราะมีปัจจัยที่เกี่ยวข้องมาก รวมถึงผู้คนที่หลากหลายมาร่วมใช้ทาง ท่ามกลางเมืองใหญ่ที่เร่งรีบ ซึ่งการจะสะกิดเตือนกันต้องมีความกล้าหาญเล็กน้อย และความปรารถนาดีอย่างจริงจัง เพื่อให้ทุกคนไปถึงจุดหมาย หรือกลับถึงบ้านอย่างปลอดภัยทุกวัน”
ดังนั้น กิจกรรมที่ทำจึงหวังให้เกิดผลในระยะยาว เป็นการปลูกฝังวัฒนธรรมการอยู่ร่วมกัน เป็นค่านิยมความปลอดภัยในทุกขณะที่ใช้ชีวิต โดยต่อจากนี้ จะร่วมกับผู้ปกครอง คุณครู เพื่อสร้างชุมชนแห่งความปลอดภัย จะมีกิจกรรมในรูปแบบต่างๆ ทั้งในโรงเรียน ในชุมชนรอบโรงเรียน เช่น การให้ความรู้ การสะกิดเตือนด้วยความรัก พร้อมกับการใช้สื่อต่างๆ รวมทั้ง สื่อสังคมออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น Facebook Youtube และ TikTok เป็นหูเป็นตาเพื่อสังคม โดยร่วมกับพันธมิตรต่างๆ ที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นทั้งภาครัฐ และเอกชน และจะมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องต่อไป
ด้าน นางณิชชา ขออาพัด ผอ.โรงเรียนวัดยานนาวา กล่าวว่า แคมเปญ “ระวังหมดอายุ” ที่เริ่มด้วยการรณรงค์ให้ทุกคนสวมหมวกกันน็อก เมื่อเดินทางด้วยจักรยานยนต์ สำหรับโรงเรียนฯ สำเร็จมาก เพราะคุณครูมีการให้ความรู้ และเน้นย้ำต่อเนื่องกับนักเรียนทุกคน ตั้งแต่อนุบาลถึงประถม 6 รวมทั้ง มีการแจกหมวกกันน็อกให้กับนักเรียนที่เดินทางด้วยจักรยานยนต์ ทั้งยังสื่อสารไปถึงผู้ปกครองให้เห็นความสำคัญ และรวมถึงการมีมาตรการหักคะแนนความประพฤติ หากไม่ปฏิบัติหรือไม่ให้ความร่วมมือเมื่อถูกเตือนเกิน 3 ครั้ง
“ที่ผ่านมา โรงเรียนฯ ยังต่อยอดการเรียนรู้ด้วยการจัดประกวดคลิปสั้นและท่าเต้นในเพลง “ระวังหมดอายุ” และจะมีการประกาศผลประมาณปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้ ซึ่งประโยชน์ที่นักเรียนได้รับ นอกจากจะทำให้ได้เรียนรู้และมีทักษะในการสื่อสารมากขึ้น ยังทำให้เด็กนำการเรียนรู้เรื่องความปลอดภัยทางถนนไปเผยแพร่ให้ครอบครัว และสังคมทั่วไป ผ่านสื่อออนไลน์ของโรงเรียน และของนักเรียนเอง ส่วนการเดินรณรงค์ ในครั้งนี้ให้นักเรียนชั้นประถม 6 ทั้งหมด 54 คน เข้าร่วม เป็นกิจกรรมที่ทำให้เด็กมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คน ได้ประสบการณ์เรียนรู้นอกห้องเรียนที่ดี” นางณิชชา กล่าว
นายสุเทพ อ่อนสอาด รองผู้อำนวยการโรงเรียนวัดดอน กล่าวว่า การให้นักเรียนร่วมกิจกรรมเดินรณรงค์เป็นประสบการณ์ที่ดี ทำให้เกิดความภูมิใจว่า อย่างน้อยเป็นหนึ่งเสียงที่สามารถช่วยบอกต่อ มีการแจกแผ่นพับให้ผู้ใช้รถใช้ถนน เพื่อกระตุ้นให้ทุกคนรักตัวเองก่อนและรักคนในครอบครัว รวมทั้งคนรอบข้างในสังคมด้วย ที่ผ่านมาในโรงเรียนมีการสอนในบทเรียน การอบรมหน้าเสาธง การใช้โฮมรูมทุกเช้า เพื่อเน้นย้ำซ้ำทวนบ่อยๆ ให้เด็กจำ และนำไปบอกผู้ปกครอง ดังนั้นทุกคนต้องเฝ้าระวัง ในส่วนของโรงเรียนเชื่อว่าทำได้ครบร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ในสังคมโดยรวมอาจจะยากที่จะทำได้ทั้งหมด
ฟังเสียงสะท้อนจากตัวแทนนักเรียนที่ร่วมเดินรณรงค์ เด็กชายอภิรักษ์ ชั้นประถม 5 จากโรงเรียนวัดดอน กล่าวว่า “ประทับใจกับกิจกรรมวันนี้ เพราะมีประโยชน์มาก เราสามารถบอกคนอื่นได้ว่า การขับขี่ปลอดภัยมีผลดีต่อตัวเราทุกคน ถ้าเรารู้จักระมัดระวังจะเกิดความปลอดภัยแน่นอน แต่ถ้าไม่ระวังจะมีโอกาสเสี่ยงตายสูง”
เช่นเดียวกับ เด็กหญิงกชนุช เขมะสุทธิพงษ์ นักเรียนชั้นประถม 6 จากโรงเรียนวัดยานนาวา กล่าวว่า วันนี้สนุกมาก ได้เดินแจกใบปลิว ได้เตือนสติผู้ใหญ่ให้ขับขี่ด้วยความระมัดระวัง อย่าใช้ความเร็วมากเกินไป เพราะอาจเกิดอุบัติร้ายแรงจะถึงขั้นทำให้เสียชีวิตได้ และบริเวณหน้าโรงเรียนของหนูมีทางม้าลาย แต่อันตรายมาก เพราะรถขับเร็ว และไม่ค่อยจอดให้ข้าม อยากขอให้ช่วยจอดเพื่อเด็กๆ ได้ข้ามถนนอย่างปลอดภัย ส่วนที่รร.คุณครูคอยสอน และเตือนทุกให้ใส่หมวกกันน็อกเพื่อความปลอดภัยขณะเดินทาง
ด้วยเป้าหมายการสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนนให้เกิดขึ้นในสังคมไทย “เครือข่ายเป็นหูเป็นตาเพื่อสังคม” เชิญชวนทุกคน เริ่มที่ตนเอง สะกิดเตือนคนใกล้ชิดด้วยความรัก เพื่อให้ทุกชีวิตเดินทางกลับถึงบ้านด้วยความปลอดภัยในทุกวัน พร้อมเปิดกว้างให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วม เพื่อช่วยกันเป็น หูเป็นตา ร่วมสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนนไปด้วยกัน มาเป็นเพื่อน เป็นเครือข่าย กันได้ที่ FaceBook Page: เป็นหูเป็นตาเพื่อสังคม https://www.facebook.com/penhoopentar