xs
xsm
sm
md
lg

สัมผัสวิถีชาวคลองดั้งเดิม! “เกษตรคนเมือง เศรษฐกิจสีเขียว” ยังหลงเหลือ!! ย่านฝั่งธนบุรีที่ชุมชนพูนบำเพ็ญ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



คงปฏิเสธไม่ได้ ว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจและขยายโครงสร้างพื้นฐานของกรุงเทพมหานครที่ผ่านมา ส่งผลต่อวิถีชีวิตริมคลองในกรุงเทพฯ ซึ่งยังคงเหลืออยู่ไม่มาก พื้นที่ริมคูคลองถูกเปลี่ยนเป็นพื้นที่อยู่อาศัย บางพื้นที่รกร้างขาดคนดูแล การขยายของถนนทำให้การสัญจรด้วยคลองถูกลดความสำคัญลง

คนยุคนี้ให้ความสำคัญกับการออกไปทำงานภาคอุตสาหกรรมและงานรับจ้างมากขึ้น เกษตรในชุมชนลดลง การพึ่งพาน้ำใช้ตามธรรมชาติจากคลองเริ่มน้อยลง และค่อยๆ เลือนหายไปจากกรุงเทพฯ




ชุมชนเก่าแก่ริมคลองฝั่งธนบุรี

ขณะเดียวกันยังมีชุมชนริมคลองและวิถีชีวิตชาวคลองแบบดั้งเดิมหลงเหลืออยู่ อย่างชุมชนพูนบำเพ็ญ ซึ่งเป็นชุมชนเล็ก ๆ ริมคลองบางเชือกหนัง คลองฝั่งธนบุรี ที่มีเนื้อที่ประมาณ 80 ไร่ แต่ถูกล้อมรอบด้วยอาคารที่อยู่อาศัย และอาคารพาณิชย์ ชุมชนแห่งนี้เป็นชุมชนริมคลองที่เก่าแก่มีอายุมากกว่า 100 ปี ตั้งอยู่ในซอยบางแวก 116 เขตภาษีเจริญ มีประชากรประมาณ 800 คน 183 หลังคาเรือน อยู่ร่วมกันในลักษณะกึ่งชนบทกึ่งเมืองส่วนใหญ่ใช้พื้นที่หลังบ้านทำการเกษตรแบบพึ่งตนเองด้วยภูมิปัญญาที่ถ่ายทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น มีบ้านเรือนตั้งอยู่ริมน้ำตลอดแนวคลอง และยังคงวิถีชีวิตริมน้ำไว้ มีการใช้พาหนะเรือในการสัญจร และค้าขายสินค้าสามารถพบได้ตลอดแนวลำคลอง ทำให้ชุมชนมีความเป็นเอกลักษณ์ คงมีเสน่ห์และสามารถอนุรักษ์วัฒนธรรมคนคลองมาจนถึงทุกวันนี้

นอกจากนี้ ชุมชนพูนบำเพ็ญมีความร่วมมือกับหน่วยงานวิชาการร่วมกันจัดทำแผนผังภูมินิเวศในการขับเคลื่อนการพัฒนาตามแนวทางเศรษฐกิจสีเขียว (Green economy) ซึ่งพร้อมจะปรับตัวเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงด้วยภาพลักษณ์ใหม่บนฐานของทุนทางสังคมและทุนทางนิเวศ




กลไกเครือข่ายเกษตรเมือง แหล่งอาหารปลอดภัย

“เกษตรคนเมือง วิถีชาวคลอง” ถูกริเริ่มขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการเกษตรของชุมชน การปรับปรุงดิน การลดต้นทุนการผลิต ผลิตปุ๋ยหมักชีวภาพ และปุ๋ยไส้เดือน ลดต้นทุนการผลิต สมาชิกชุมชนร่วมกันพัฒนาโรงปุ๋ยหมักชีวภาพส่วนกลางของชุมชน โดยสร้างถังหมักปูน คัดแยกขยะไปหมัก สร้างโรงปุ๋ยไส้เดือน เพื่อลดต้นทุนการซื้อปุ๋ย การปรับปรุงดินบริเวณพื้นที่ส่วนกลาง และสวนส่วนบุคคล โดยได้รับความร่วมมือจากสำนักงานเขตภาษีเจริญเป็นอย่างดี ส่วนสมาชิกได้ลงแรงช่วยกันทำเกษตรในพื้นที่ส่วนกลาง ผลิตผลส่วนใหญ่แบ่งปันกันในกลุ่มสมาชิก และอยู่ระหว่างการสร้างศูนย์การเรียนรู้เกษตรอินทรีย์ เพื่อเป็นสถานที่รองรับการทำกิจกรรมในอนาคต

ปัจจุบันนี้สมาชิกร่วมกันออกแบบเพิ่มพื้นที่และวางแผนพืชผักที่ปลูกในแต่ละพื้นที่ เพื่อเป็นอาหารของครอบครัว
ลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน และสามารถจำหน่ายผลผลิตเหล่านี้ให้กับนักท่องเที่ยว เช่น โครงการธนาคารอาหาร (Food bank) ชุมชนพูนบำเพ็ญ ซึ่งได้ริเริ่มกิจกรรมดังกล่าวขึ้นในช่วงเวลาที่การแพร่ระบาดของโควิด 19 ตั้งแต่เดือนเมษายน 2564 และกำลังขยายผลสู่การแลกเปลี่ยนสินค้าเกษตรกับผลิตภัณฑ์อื่นๆ ระหว่างชุมชน

บทความโดย กรรณิการ์ จันทร์ชิดฟ้า และ สันธิลา ปิณฑะคุปต์ คณะนักวิจัย สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย


กำลังโหลดความคิดเห็น