xs
xsm
sm
md
lg

ยืนยันรอยเสือโคร่ง "วิจิตร" เข้าพื้นที่ป่าอนุรักษ์แม่วงก์แล้ว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์





ทีมติดตามเสือโคร่ง "วิจิตร" ชี้จุดร่องรอยเดินข้ามรั้วผ่านเข้าพื้นที่ป่าอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ พร้อมเสริมกำลังเฝ้าระวังบริเวณชุมชนคลายความกังวลใจ

วันนี้ (6 ธ.ค. 2564) นายธวัชชัย เพชระบูรณิน นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 เปิดเผยจากการรายงานของทีมติดตามเสือโคร่ง “วิจิตร” ที่ออกจากพื้นที่ป่าอนุรักษ์ห้วยขาแข้ง จังหวัดอุทัยธานี ว่าเมื่อช่วงเช้าวันนี้ พบว่ารอยตีนสุดท้ายของเสือโคร่ง “วิจิตร” ได้ข้ามรั้วผ่านเข้าป่าอนุรักษ์ของอุทยานแห่งชาติแม่วงก์แล้ว

อย่างไรก็ตาม สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 ได้จัดกำลังของอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ อุทยานแห่งชาติคลองลาน และฐานปฏิบัติการป้องกันรักษาป่าที่ 3 (ซับตามิ่ง) เฝ้าระวังบริเวณชุมชนที่ติดต่อกับป่าแม่วงก์ เพื่อคลายความกังวลใจของราษฎรใกล้ป่า และเสริมกำลังจากกลุ่มงานวิชาการ สถานีวิจัยสัตว์ป่าเขานางรำ ตรวจรับสัญญาณวิทยุเสือโคร่ง อีกทางหนึ่งด้วย


ขณะที่เพจเฟซบุ๊ค Thailand Tiger Project DNP เปิดแฟ้มประวัติของ "วิจิตร" เสือห้วยขาแข้ง ว่า "วิจิตร" เกิดมาในช่วงเวลาที่เป็นขาลงของแม่เอื้องและพ่อธนากร ด้วยเพราะอายุอานามที่มากขึ้น ในครอกเดียวกันก็มีวิจิตรตัวเดียวที่เป็นตัวผู้ ส่วนอีกสองสาว คือ อภิญญาและผกา ซึ่งวิจิตรนี่เป็นหลานยาย บุบผา ด้วยนะ

"วิจิตร" เติบโตมาภายใต้การหาเลี้ยงของแม่เอื้อง จนวันหนึ่งก็ตกเป็นข่าวหน้าหนึ่งซะงั้น เพราะพาดหัวว่า “ชาวบ้านเจอเสือขณะเข้าเก็บหาของป่าที่ห้วยขาแข้ง” ไม่ใช่อะไรหรอก แม่เอื้องล่าวัวแดงได้ตัวเบ้อเริ่มเป็นเหตุให้ชาวบ้านมองเห็นได้แต่ไกล ช่วงเวลานั้นเดาว่า วิจิตรคงมีอายุราว ห้าหกเดือน

ต่อมาวิจิตรและน้องพี่ เติบโตในป่าใหญ่เรื่อยๆ จนวันหนึ่งเมื่ออายุเกือบสองปี ฮอร์โมนในกายพลุ่งพล่านนึกอยากผจญภัยจึงชวนกันไปเที่ยวเล่นที่ชุมชน ที่อยู่ติดกับบ้านของแม่ ก็ได้สนุกกันพักหนึ่งทั้งเสือและเจ้าหน้าที่ติดตาม แต่อะไรก็ไม่เด็ดเท่า ไม้เรียวในมือแม่เอื้องสั่นหนักมาก ต้องลงแรงออกไปตาม วิจิตรกับเจ๊ภิญญา ด้วยตนเอง เรื่องจึงสงบลง....

เมื่ออายุล่วงเลยสองขวบปี อภิญญาและผกา ก็ได้ยึดพื้นที่เพื่อครอบครองหากินในบริเวณข้างเคียงบ้านแม่เดิม โดยวิจิตรก็ใช้สิทธิ์ความเป็นพี่น้องร่วมครอกแอบอาศัยหากินตามแนวขอบบ้านของอภิญญา ซึ่งเป็นบริเวณที่ปราศจากความสงบ เพราะระงมไปด้วย เสียงเครื่องจักรทำงาน งานบุญ จุดบอลไล่สัตว์ป่าที่ออกมากินพืชไร่ แต่ วิจิตร ยังอยู่ได้สบาย

ในช่วงเวลาที่เป็นเล่นบทเสือแอบ เพราะอิงแอบหากินอยู่ในพื้นที่อภิญญา ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่แตกต่างจาก เพศผู้วัยรุ่นตัวอื่นๆที่มักรักการเดินทางไกลๆ สำหรับวิจิตรนั้นก็มีการเดินทางออกนอกพื้นที่บ้างเป็นครั้งคราว ทริปสั้นๆ แต่ก็ทำทีมงานใจสั่นได้เพราะลัดเลาะไปพื้นที่ที่เป็นหย่อมป่าที่ติดชุมชน ข้ามทางหลวงชนบทเป็นว่าเล่น...

แต่แล้วเมื่อมีโอกาสได้ดินเนอร์พูดจาประสาพ่อลูกกับธนากรในค่ำคืนหนึ่ง ชีวิตวิจิตรก็นิ่งขึ้นนัยว่าได้รับคำชี้แนะจากพ่อ จึงใช้ชีวิตส่วนใหญ่ตามแนวขอบติดชุมชน เพื่อเลี่ยงการเจอะเจอน้องเขย ที่อาจไม่พึงใจนักที่มันมาอิงแอบแบบนี้

วันเวลาผ่านไปจนวิจิตรมีโครงสร้างร่างกายที่ใหญ่โตขึ้น กล้ามเนื้อเป็นรูปที่ชัดเจนขึ้น รวมถึงความมั่นใจที่มาเต็มด้วยหรือปล่าว ก็ไม่แน่ใจ จนเมื่อกลางเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ท่าทีของวิจิตรเริ่มเปลี่ยนไป มันเริ่มออกเดินจากห้วยขาแข้ง มุ่งหน้าขึ้นเหนือไปเรื่อยๆ ทีมนักวิจัยก็จ้องเขม็งผ่านระบบดาวเทียม มันไปด้วยความมุ่งมั่น ไม่มีการลังเล จนข้ามเขตไปอยู่ฝั่งอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ แล้วดูเหมือนว่าน่าจะได้กินอะไรบางอย่าง(ไม่น่าใช่หน่อไม้) เพราะมีการหยุดพักอยู่พอสมควร เมื่อมีพลังงานสะสม มันก็ออกเดินทางต่อ ในที่สุดทะลุไปประชิดชุมชน จนเป็นเรื่องเป็นข่าวในขณะนี้

ข้อมูลอ้างอิง

Thailand Tiger Project DNP

ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ
สัตว์ป่า และพันธุ์พืช



กำลังโหลดความคิดเห็น