กรมอุทยานฯ ชวนไปรู้จัก “เสือโคร่งวิจิตร” ที่ออกมาจากป่าห้วยขาแข้ง จนเป็นข่าวโด่งดัง ซึ่งล่าสุดทางจนท.ได้ตรวจพบเจอรอยเท้า และได้พยายามตามรอยเพื่อผลักดันกลับคืนสู่ป่าต่อไป
ถือเป็นอีกหนึ่งสัตว์ดาวดังในช่วงนี้ ไม่แพ้น้องช้าง “พังขวากรัก” และ “น้องฟ้าใส” สำหรับ “เสือวิจิตร” เสือโคร่งวิจิตร” ที่ออกมาจากป่าห้วยขาแข้ง จนเป็นข่าวโด่งดัง ซึ่งทางกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์ พืช ได้ออกมาให้ข้อมูล ของ เสือโคร่งวิจิตร ผ่านทางเพจ ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ดังนี้
#รู้จัก...”วิจิตร” เสือโคร่งจากป่าห้วยขาแข้ง และความคืบหน้าการติดตามกลับคืนป่าอนุรักษ์
Thailand Tiger Project DNP เปิดแฟ้มประวัติของ “วิจิตร” เสือห้วยขาแข้ง ว่า “วิจิตร” เกิดมาในช่วงเวลาที่เป็นขาลงของแม่เอื้องและพ่อธนากร ด้วยเพราะอายุอานามที่มากขึ้น ในครอกเดียวกันก็มีวิจิตรตัวเดียวที่เป็นตัวผู้ ส่วนอีกสองสาว คือ อภิญญาและผกา ซึ่งวิจิตรนี่เป็นหลานยาย บุบผา ด้วยนะ
“วิจิตร” เติบโตมาภายใต้การหาเลี้ยงของแม่เอื้อง จนวันหนึ่งก็ตกเป็นข่าวหน้าหนึ่งซะงั้น เพราะพาดหัวว่า “ชาวบ้านเจอเสือขณะเข้าเก็บหาของป่าที่ห้วยขาแข้ง” ไม่ใช่อะไรหรอก แม่เอื้องล่าวัวแดงได้ตัวเบ้อเริ่มเป็นเหตุให้ชาวบ้านมองเห็นได้แต่ไกล ช่วงเวลานั้นเดาว่า วิจิตรคงมีอายุราว ห้าหกเดือน
ต่อมาวิจิตรและน้องพี่ เติบโตในป่าใหญ่เรื่อยๆ จนวันหนึ่งเมื่ออายุเกือบสองปี ฮอร์โมนในกายพลุ่งพล่านนึกอยากผจญภัยจึงชวนกันไปเที่ยวเล่นที่ชุมชน ที่อยู่ติดกับบ้านของแม่ ก็ได้สนุกกันพักหนึ่งทั้งเสือและเจ้าหน้าที่ติดตาม แต่อะไรก็ไม่เด็ดเท่า ไม้เรียวในมือแม่เอื้องสั่นหนักมาก ต้องลงแรงออกไปตาม วิจิตรกับเจ๊ภิญญา ด้วยตนเอง เรื่องจึงสงบลง....
เมื่ออายุล่วงเลยสองขวบปี อภิญญาและผกา ก็ได้ยึดพื้นที่เพื่อครอบครองหากินในบริเวณข้างเคียงบ้านแม่เดิม โดยวิจิตรก็ใช้สิทธิ์ความเป็นพี่น้องร่วมครอกแอบอาศัยหากินตามแนวขอบบ้านของอภิญญา ซึ่งเป็นบริเวณที่ปราศจากความสงบ เพราะระงมไปด้วย เสียงเครื่องจักรทำงาน งานบุญ จุดบอลไล่สัตว์ป่าที่ออกมากินพืชไร่ แต่ วิจิตร ยังอยู่ได้สบาย
ในช่วงเวลาที่เป็นเล่นบทเสือแอบ เพราะอิงแอบหากินอยู่ในพื้นที่อภิญญา ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่แตกต่างจาก เพศผู้วัยรุ่นตัวอื่นๆที่มักรักการเดินทางไกลๆ สำหรับวิจิตรนั้นก็มีการเดินทางออกนอกพื้นที่บ้างเป็นครั้งคราว ทริปสั้นๆ แต่ก็ทำทีมงานใจสั่นได้เพราะลัดเลาะไปพื้นที่ที่เป็นหย่อมป่าที่ติดชุมชน ข้ามทางหลวงชนบทเป็นว่าเล่น...
แต่แล้วเมื่อมีโอกาสได้ดินเนอร์พูดจาประสาพ่อลูกกับธนากรในค่ำคืนหนึ่ง ชีวิตวิจิตรก็นิ่งขึ้นนัยว่าได้รับคำชี้แนะจากพ่อ จึงใช้ชีวิตส่วนใหญ่ตามแนวขอบติดชุมชน เพื่อเลี่ยงการเจอะเจอน้องเขย ที่อาจไม่พึงใจนักที่มันมาอิงแอบแบบนี้
วันเวลาผ่านไปจนวิจิตรมีโครงสร้างร่างกายที่ใหญ่โตขึ้น กล้ามเนื้อเป็นรูปที่ชัดเจนขึ้น รวมถึงความมั่นใจที่มาเต็มด้วยหรือปล่าว ก็ไม่แน่ใจ จนเมื่อกลางเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ท่าทีของวิจิตรเริ่มเปลี่ยนไป มันเริ่มออกเดินจากห้วยขาแข้ง มุ่งหน้าขึ้นเหนือไปเรื่อยๆ ทีมนักวิจัยก็จ้องเขม็งผ่านระบบดาวเทียม มันไปด้วยความมุ่งมั่น ไม่มีการลังเล จนข้ามเขตไปอยู่ฝั่งอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ แล้วดูเหมือนว่าน่าจะได้กินอะไรบางอย่าง(ไม่น่าใช่หน่อไม้) เพราะมีการหยุดพักอยู่พอสมควร เมื่อมีพลังงานสะสม มันก็ออกเดินทางต่อ ในที่สุดทะลุไปประชิดชุมชน จนเป็นเรื่องเป็นข่าวในขณะนี้
ล่าสุดเมื่อวันที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทีมลาดตระเวน ตรวจพบรอยเท้าเสือ "วิจิตร" บริเวณหมู่ที่ 2 บ้านคลองลึกเพื่อความปลอดภัยของชาวบ้านเจ้าหน้าที่จากฐานฯ 3 (ซับตามิ่ง) สายตรวจสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 ได้แจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านประกาศให้ลูกบ้านทราบพร้อมแนะนำการปฏิบัติตัวให้ถูกวิธี เพื่อเป็นการร่วมมือในการผลักดันให้เสือโคร่งวิจิตร กับคืนป่า ทั้งนี้หากท่านใดพบหรือมีเบาะแสให้รีบแจ้งเจ้าหน้าทันที....
ที่มา : Thailand Tiger Project DNP/สบอ.12 (นครสวรรค์)