จากกรณีแก๊งสามซ่าส์ ช้างป่าสีดอด้วนและช้างงาอีกสองหนุ่ม เข้าไปขอเกลือ กะปิ น้ำปลา ในหมู่บ้านแก่งดินสอ ที่ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ล่าสุด หน.อุทยานแห่งชาติทับลาน เตรียมหารือสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่าเพื่อส่งผู้เชี่ยวชาญลงพื้นที่ร่วมหาแนวทางผลักดันหรือเคลื่อนย้ายทั้งสามหนุ่มสู่ป่าลึกโดยเร็วที่สุด
เมื่อวานนี้ (25 ตุลาคม 2564) นายประวัติศาสตร์ จันทร์เทพ หัวหน้าอุทยานแห่งทับลาน เผยความคืบหน้าล่าสุด หลังได้รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 6 ตำบลทุ่งโพธิ์ ว่าพบช้าง1ตัว (ช้างงาตัวเล็กที่สูงราว 2 เมตรกว่า) แถวสำนักสงฆ์แสงธรรมส่องใจ เจ้าหน้าที่ อช.ทับลานและจิตอาสา ได้ร่วมกันเข้าผลักดันขึ้นเขาทับพริกจนไปเจออีก 1 ตัวซึ่งรออยู่ก่อนหน้านี้แล้ว (สีดอด้วน) จึงผลักดันช้างทั้ง 2 ตัวเข้าป่ารกทึบ แต่ยังไม่พบช้างอีกตัว (ชายกลาง ช้างงาสูงราว 3 เมตร) ต่อมาทีมลาดตระเวนพบทั้งสามตัว ยังคงกระจัดกระจาย เดินตามหากันไปมาในป่า
“พวกเราตระหนักดีว่าการผลักดันเข้าป่าเป็นเพียงการป้องกันความเสียหายแก่ชาวบ้านชั่วคราว ตราบใดที่ยังแก้ปัญหาขาดแคลนแหล่งอาหารในป่าไม่ได้ ทางจนท.มิได้นิ่งนอนใจ พร้อมลุยงานหนักเพื่อบรรลุเป้าหมายให้สัตว์ป่าและชาวบ้านแก่งดินสอ ทุ่งโพธิ์ ทุ่งแฝก คลองปลาดุกลาย ซึ่งอยู่รอบผืนป่าอยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืน”
เมื่อป่าที่สัตว์ป่าเคยอาศัยอยู่ได้เปลี่ยนสภาพไป ในผืนป่ามรดกโลกก็อยู่ยากขึ้นทุกวันจึงเป็นผลให้สัตว์ป่าออกหากินนอกพื้นที่อนุรักษ์เพิ่มมากขึ้นและทำลายพืชผลการเกษตรของราษฎรจนได้รับความเสียหาย ในทางกลับกันหากผืนป่านั้นกลับมาอุดมสมบูรณ์ไปด้วยพืชอาหารสัตว์ สัตว์ป่าก็จะกลับไปหากินในผืนป่าเดิมของเขาโดยไม่ยาก การปลูกพืชอาหารสัตว์ป่าเพิ่มเติมเข้าไปในพื้นที่รวมไปถึงการเสริมแหล่งน้ำและโป่งเทียมจึงมีความจำเป็นในมิติของการแก้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างคนกับสัตว์ป่า
ขณะนี้ทางอุทยานแห่งชาติทับลานได้จัดทำโครงการปลูกพืชอาหารสัตว์ ผืนป่าทับลาน บ้านสืบ นาคะเสถียร และได้ดำเนินการแล้วในบางส่วน เพื่อเป็นการแก้ปัญหาดังกล่าวในระยะยาว อช.ทับลานขอเชิญชวนทุกท่านร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการคืนความอุดมสมบูรณ์ให้กับผืนป่า โดยการเลือกสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ เพื่อกระจายรายได้สู่ชุมชนรอบผืนป่าและลดปัญหาความขัดแย้ง ส่งเสริมการอนุรักษ์และดูแลสัตว์ป่าให้คนอยู่กับป่าได้อย่างยั่งยืน
ข้อมูลอ้างอิง ผ้าขาวม้าติ่งป่า,อุทยานแห่งชาติทับลาน -ThapLan National Park
