หลายคนอาจจะไม่ทราบว่า สินค้าที่ขายในร้านสะดวกซื้อ เซเว่น อีเลฟเว่น มีสินค้าของธุรกิจ SME ที่ขายดิบขายดีอยู่ด้วย และ 3 ผลิตภัณฑ์ SME ที่ขายดี ได้แก่ ‘มะม่วงแปรรูป ‘วรพร’ กล้วยแปรรูป ‘กล้วยเมืองลุง’ และเครื่องสำอาง สมูทโตะ’
ถามว่าทำไมขายดี และได้รับความนิยมจากผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ก็ตอบได้ไม่ยาก ว่าส่วนสำคัญมาจากผู้ประกอบการเองที่มีการศึกษาผลิตภัณฑ์และพฤติกรรมของผู้บริโภคมาเป็นอย่างดี พอมาได้ช่องทางจำหน่ายที่มีศักยภาพอย่างร้านเซเว่นฯ ที่กระจายสินค้าไปทั่วประเทศได้ในเวลารวดเร็ว จึงเป็นการสร้างโอกาสให้ผู้บริโภคจำนวนมากได้เห็นและซื้อสินค้า
นั่นคือปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้ SME ประสบความสำเร็จ อีกทั้งยังช่วยสร้างงาน สร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับชุมชน และกลุ่มเกษตรกรด้วย
สำหรับธุรกิจ SME เกษตรแปรรูปในท้องตลาดที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ใครจะรู้ว่าพลังของความกล้าที่จะแตกต่าง ความทุ่มเท และการได้รับโอกาสทางธุรกิจ สามารถเป็นแรงผลักดันทำให้ SME ประสบความสำเร็จได้ ปัจจุบันธุรกิจมะม่วงดองพร้อมทานเจ้าแรกในประเทศไทย แบรนด์ “วรพร” ได้เปลี่ยนวิธีกินมะม่วงแบบเดิมๆ มาใช้นวัตกรรมในการแปรรูป เพิ่มมูลค่า จากภูมิปัญญาท้องถิ่นสู่ธุรกิจผลไม้ดองฉีกซองพร้อมทานที่มีมาตราฐานสากล และยังสร้างความมั่นคงให้เกษตรกรในจังหวัดฉะเชิงเทรา
“นวัตกรรมมะม่วงดองพร้อมรับประทานนี้ เกิดจากการเข้ามาร่วมทำธุรกิจกับร้านเซเว่น อีเลฟเว่นเมื่อ 20 กว่าปีก่อน ทางเซเว่นฯ ได้ติดต่อให้ไปวางขาย จากนั้นทางทีมงาน ได้เข้ามาช่วยพัฒนาสินค้าและบรรจุภัณฑ์ คอยให้คำแนะนำตั้งแต่การออกแบบผลิตภัณฑ์ ขนาดซอง วัสดุที่ใช้ การจัดวางสินค้า รวมไปถึงการวางแผนการตลาด และยังผลักดันให้ “วรพร” ก้าวเข้าสู่มาตราฐานสากล จนได้ส่งออกตลาดต่างประเทศ ปัจจุบันวรพรรับซื้อมะม่วงจากชาวสวนมากกว่า 5 ล้านกิโลกรัมหรือราว ๆ 25 ล้านผลต่อปีจากชาวสวนในพื้นที่ เป็นความภูมิใจที่ได้สร้างรายได้ สร้างความมั่นคง ให้เกษตรกรชาวฉะเชิงเทรา” ชัยพร โสธรนพบุตร ทายาทธุรกิจมะม่วงแปรรูปวรพรกล่าว
ด้าน “กล้วยเมืองลุง”ธุรกิจสแน็คกล้วยไข่ ผลิตภัณฑ์จากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านลำสินธุ์ ตำบลลำสินธุ์ อำเภอศรีนครินทร์ จังหวัดพัทลุง ที่ได้เพิ่มมูลค่าจากกล้วยไข่ราคากิโลกรัมละเพียง 3 บาท สร้างสรรค์เป็นสแน็คกล้วยชั้นเยี่ยม รสชาติหลากหลาย ตอบโจทย์คนรักสุขภาพในยุคปัจจุบัน ได้โอกาสเข้าไปขายในร้านเซเว่นฯ ได้ไม่นาน ลูกค้าต่างชื่นชอบ สร้างรายได้ให้กลุ่มวิสาหกิจชุมชนกว่า 400,000 บาทต่อเดือน และยังทำให้สมาชิก 15 ครัวเรือนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และที่สำคัญชาวสวนกล้วยไข่ยังมีรายได้ต่อเนื่องตลอดทั้งปี
หากย้อนไปดูที่มาของความสำเร็จของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนแห่งนี้จะพบว่า เกิดจากความมุ่งมั่นในการช่วยเหลือเกษตรกร ของผู้นำในชุมชนบ้านลำสินธุ์ ตำบลลำสินธุ์ อำเภอศรีนครินทร์ จังหวัดพัทลุง และโอกาสจากบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน)
ประทิน นาคมิตร ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านลำสินธุ์ เล่าว่า “ในปี พ.ศ. 2552 ขณะทางกลุ่มฯ กำลังอยากเพิ่มช่องทางจัดจำหน่ายและยกระดับสินค้าให้เป็นที่รู้จัก มีผู้บริหารเซเว่นฯ เข้ามาสอบถามว่า อยากลองนำกล้วยกรอบแก้วมาขายในเซเว่นฯไหม จึงไม่รอช้ารีบตอบตกลงทันที “กล้วยเมืองลุง” ได้นำไปวางขายที่ร้านเซเว่นฯ เริ่มสาขาภาคใต้ก่อนจะกระจายไปภาคอื่น ๆ ปัจจุบันจำหน่ายในร้านเซเว่นฯ 1,500 สาขา โดยทีมงานเซเว่นฯ เข้ามาแนะนำเรื่องของการตลาด การพัฒนาคุณภาพสินค้า และบรรจุหีบห่อให้น่าสนใจ สะดุดตาผู้บริโภค ทำให้มียอดขายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และมีโอกาสขยายตลาดไปจำหน่ายในประเทศเวียดนาม จีน สิงคโปร์ รวมถึงญี่ปุ่นอีกด้วย ปัจจุบันทางกลุ่มฯ รับซื้อกล้วยไข่จากเกษตรกรวันละ 300 กิโลกรัมนำมาแปรรูป ประกันราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 7-12 บาท ด้วยออร์เดอร์จากร้านเซเว่นฯ นี้เองทำให้คนในชุมชนมีอาชีพ มีรายได้ เลี้ยงดูตัวเองได้ และยิ้มได้อีกครั้ง”
ความสำเร็จของสินค้า SME ที่ไม่ใช่ของกิน แต่เป็นเครื่องสำอางของคนรุ่นใหม่ที่สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภค จนได้รับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมกับทีมงานของซีพี ออลล์ อย่าง “สมูทโตะ”(SMOOTO) ‘ครีมซอง’ ฝาเปิด-ปิดแบบ Easy Cap สไตล์ญี่ปุ่น
เบื้องหลังความสำเร็จของผลิตภัณฑ์ความงามสัญชาติไทยแบรนด์ดังกล่าว คือ ภญ.อัญชลี ชุติไพจิตร และ ภญ.นิษฐกานต์ ภัทรกานต์ สองเภสัชกรเพื่อนรักศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยมหิดล ผู้ก่อตั้ง บริษัท โกล บอล เมดดิคัล (ประเทศไทย) จำกัด
“เราประเมินความสามารถตัวเองต่ำไป คิดว่ารับจ้างผลิตสินค้าให้คนอื่นก็เพียงพอแล้ว แต่ทาง ทเวนตี้โฟร์ ช้อปปิ้ง เข้ามาช่วยดึงศักยภาพ พร้อมสนับสนุนองค์ความรู้ต่างๆ ทั้ง การพัฒนาบรรจุภัณฑ์ให้เป็นแบบซองน่ารักน่าใช้ สีสันสดใสออกแบบฝาเปิด-ปิดสะดวกสบาย การตั้งราคาที่ซื้อง่าย จากเดิมตั้งใจจะขายกระปุกละ 500 บาท ถูกปรับเป็นแบบซอง ราคา 39 บาท ภายใต้แบรนด์ที่สะท้อนถึงคุณภาพความเป็นญี่ปุ่น ด้วย “สมูทโตะ” กระทั่งในปี 2557 ได้รับโอกาสนำครีมซองมาทดลองขายในร้านเซเว่น อีเลฟเว่น จำนวน 100 สาขา” ภญ.อัญชลี เล่า
โอกาสที่ได้นำสินค้าไปวางขายที่ร้านเซเว่นฯ นี้เองทำให้กิจการทะลุเป้าหมายอย่างรวดเร็ว จาก 100 สาขา ขยายไป 9,000 สาขา ด้วยพลังนี้ทำให้บริษัทหลุดพ้นคำว่าขาดทุน และกลายเป็นกิจการที่มีรายได้กว่า 600 ล้านบาทในปี 62 ความสำเร็จที่เกิดขึ้นจากบริษัท ซีพี ออลล์และทเวนตี้โฟร์ ช้อปปิ้งเข้ามามีบทบาททุกห้วงเวลาของธุรกิจ อยู่ในทุกกระบวนการ นับตั้งแต่ พัฒนาสินค้า เข้าใจพฤติกรรมคนซื้อ กำหนดราคา กลยุทธ์การขาย โปรโมชั่น และปัจจุบันกำลังการผลิตของ “สมูทโตะ” อยู่ที่ราว 5 ล้านซองต่อเดือน จำหน่ายทั้งในร้านเซเว่นฯ และช่องทางของทเวนตี้โฟร์ ช้อปปิ้ง และยังได้มีโอกาสส่งออกต่างประเทศ อาทิ ลาว กัมพูชา เมียนมาร์ ไต้หวัน อินโดนีเซียอีกด้วย
ลิงก์ชมเรื่องจริงของ 3SME คู่ค้าขายดีในร้าน 7ELEVEN