xs
xsm
sm
md
lg

‘ครูลูกกอล์ฟ’ กับโปรเจกต์ Little Big Green “ขอเป็นอีกหนึ่งเสียงดังที่ชวนคนมาร่วมกรีนด้วยกัน”

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ครูลูกกอล์ฟเริ่มต้นจากการลงมือทำเอง แล้วแชร์ไลฟ์สไตล์ความกรีนเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวันให้คนเห็นว่า ทำได้จริง
วันนี้ ครูลูกกอล์ฟ-คณาธิป สุนทรรักษ์ ไม่คิดอยู่แค่ว่า ‘คนตัวเล็กๆ อย่างฉันจะทำอะไรได้’ เพราะเชื่อเหลือเกินว่าปัญหาที่ว่าใหญ่ เราทุกคนมีส่วนเปลี่ยนแปลงได้ด้วยพลังเล็กๆ ที่เราต่างมี เพียงการปรับเปลี่ยนสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวัน ก็เท่ากับได้ร่วมกันทำเรื่องยิ่งใหญ่เช่นการดูแลโลกใบนี้ได้แล้ว

หลายคนทราบดีในบทบาทครูลูกกอล์ฟ เป็นติวเตอร์สอนภาษาอังกฤษ ทำรายการ English Room จนทำให้เสียงของเขาสามารถเปลี่ยนโลกในการใช้ภาษาอังกฤษแก่ผู้คนมากมายในประเทศไทย

และจุดเปลี่ยนที่ติวเตอร์สอนภาษาอังกฤษสุดเก๋หันมาสนใจสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง เริ่มต้นจากคำถามในวัย 34 ปี ที่ตกตะกอนถึงขั้นที่ว่า...ฉันจะทำอะไรเพื่อโลกใบนี้ได้บ้าง?


“บวกกับการที่คบกับ พอล แฟนชาวอังกฤษมาสิบปี ซึ่งเราเห็นไลฟ์สไตล์กรีนของเขามาโดยตลอด เขาไม่กินเนื้อสัตว์ด้วยเหตุผลที่ว่า การกินเนื้อสัตว์ทำร้ายโลก ทุกอย่างที่เขาใช้ sustainableทั้งหมด เมื่อเทียบกับเขาแล้วเรากลายเป็นคนเลวคนหนึ่งที่เกิดมาทำร้ายโลก เอาง่ายๆ ว่า ถ้ามีคนอย่างเราเยอะๆ ที่ไม่เคยคิดถึงโลกใบนี้ สุดท้ายโลกที่เป็นบ้านหลังเดียวของเราก็จบ โดยเราไม่เคยถามตัวเองเลยว่า เราทำอะไรให้โลกใบนี้บ้าง จึงเป็นจุดที่ทำให้เราคิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องทำเพื่อโลกใบนี้”


“ตั้งแต่ที่ลูกกอล์ฟทำรายการ English Room รู้สึกว่าเรามีประโยชน์นะ เพราะฉะนั้นสิ่งแวดล้อมที่เมืองไทย ที่คนยังไม่ค่อยตระหนัก สังเกตได้ง่ายๆ จากนโยบายการหาเสียงเลือกตั้ง ปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นปัญหาท้ายๆ ที่ถูกหยิบยกขึ้นมา ทั้งที่ถึงวันหนึ่งเราจะสู้อยู่กับอะไรก็ตาม มันไม่มีประโยชน์เลยนะเมื่อโลกใบนี้อยู่ไม่ได้ เราจึงอยากเริ่มทำตรงนี้ และถ้าเราจะโน้มน้าวคนอื่นว่า ลองมาเปลี่ยนวิถีชีวิตดูบ้างไหม เราลองกรีนดูก่อนไหม แต่เราต้องทำเองให้ได้ก่อน"




ครูลูกกอล์ฟเริ่มต้นจากการลงมือทำเอง แล้วแชร์ไลฟ์สไตล์ความกรีนเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวันให้คนเห็นว่า ทำได้จริง

“เริ่มเองง่ายๆ จากลองวิเคราะห์ว่า วันนี้มีอะไรบ้างที่เราจะลดได้ ก็เริ่มจากลดหลอดพลาสติก ลามไปแก้วพลาสติก แก้วกระดาษ ฝาพลาสติก หายไปหมดจนเปลี่ยนการกินกาแฟไปเลย โดยเริ่มมาพวกขวดน้ำ แล้วเห็นว่าเราซื้อน้ำน้อยลงมาก แล้วก็เริ่มพกปิ่นโต แล้วเห็นเลยว่า ถือปิ่นโตไปร้านที่เคยซื้อแล้วลดแพ็คเกจจิ้งได้ทั้งกล่องพลาสติก ถุงพลาสติก ช้อนส้อมพลาสติก ลดเยอะมากจริงๆ จนสุดท้ายลามไปถึงว่าไม่สั่งของเดลิเวอรี่ให้กับตัวเอง นอกจากเหตุการณ์ที่จำเป็นจริงๆ พอทำไปก็กลายเป็นวิถีชีวิตแล้ว”

แล้วมาวันหนึ่งเส้นทางของครูลูกกอล์ฟก็ขีดให้มาพบกับ เชอร์รี่-เข็มอัปสร สิริสุขะ ไอดอลด้านความกรีนที่ได้ติดตามมาตลอด จากการพบกันในครั้งนั้นกลายเป็นจุดเริ่มต้นของโปรเจ็กต์ Little Big Green ที่เป็นการรวมตัวกันของ เชอร์รี่-เข็มอัปสร และครูลูกกอล์ฟ จาก The Flight 19 Agencyที่ตั้งใจนำเสนอข้อมูลข่าวสารสิ่งแวดล้อมและสร้างคอมมูนี้สำหรับคนไลฟ์สไตล์กรีนๆ ภายใต้คอนเซ็ปต์ As Green As You Can หรือการมีไลฟ์สไตล์กรีนๆ เท่าที่คุณทำได้ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้ทุกคนเริ่มเปลี่ยนเพื่อโลกใบนี้ไปพร้อมกัน

“คือเราอยากให้คุณตระหนักว่า สิ่งที่คุณทิ้งจำนวนมาก มันไม่เคยหายไปไหน ท้ายที่สุดมันก็หมุนเวียนกลับมาที่ตัวคุณ ขยะที่ทิ้งไปเมื่อไม่มีการจัดการที่ดี มันก็ลงทะเล กลายเป็นไมโครพลาสติก สัตว์ทะเลกินเข้าไปมีไมโครพลาสติกในตัวเต็มไปหมด แล้วก็มันก็กลับมาที่ตัวเรา วนเวียนอยู่อย่างนี้”

ครูลูกกอล์ฟ เล่าถึงคอนเซ็ปต์ As Green As You Can ที่คิดกันขึ้นมาเพราะรู้สึกว่า ก่อนที่เราจะให้คนเป็นเขียวเข้ม เราต้องให้เขาเริ่มเป็นต้นกล้าก่อน ทุกเขียวเข้มต้องเป็นเขียวอ่อนมาก่อน และทุกเฉดสีมีความหมาย วันนี้ยังทำไม่ได้ไม่เป็นไร แต่ถ้าวันไหนคุณเริ่มตระหนักว่า ไม่ต้องใช้หลอดก็ได้นี่ ร้านนี้แก้วสะอาด หรือพกหลอด พกขวดมาเอง วันนี้พกปิ่นโตได้ ถ้าวันนี้ตระหนักได้มากที่สุด เราถือว่าเราสำเร็จแล้วนะ เพราะเมื่อไรที่คนเริ่มเขียว เขาก็จะไปของเขาเอง สังเกตไหมว่าคนที่พกปิ่นโต เขาก็เริ่มมาจากลดหลอดนี่แหละ”

ใครจะรู้ว่า เบื้องหลังโปรเจ็กต์เล็กๆ นี้ พาร์ทเนอร์ทุกคนทุ่มเทอย่างเต็มที่ ทั้งแรงใจ แรงกาย เวลา และทุนทรัพย์ที่เต็มใจทุ่มทุนกันเอง

“เราต้องบอกตรง ๆ ว่า แคมเปญเหล่านี้ต้องใช้เงิน พาร์ทเนอร์ที่ร่วมกันทำเขาก็ควักเงินกันเองเป็นล้านนะ ไม่ใช่อยู่ดี ๆ มารวมตัวกันทำ เราต้องรีเสิร์ช นัดคุยทีม ทำข้อมูลในเว็บไซต์ ทำคลิป ทุกอย่างต้องใช้เงินทุนทั้งนั้น เราต้องจ้าง แม้ทุกคนมาทำด้วยใจ แต่เขาทำงานก็ต้องได้ค่าตอบแทน ทุกอย่างมี cost ทั้งนั้น แล้วเราไม่ได้เป็นองค์กรที่หาเงินหรือขายของ เงินที่เราทุ่มไป ผลตอบแทนคือ เพื่อโลก กำไรคือ คนมีวิถีชีวิตที่กรีนขึ้น ถ้าโลกนี้ได้กำไรก็จบแล้ว"


ส่วนพี่เชอร์รี่เป็นความ amazing มาก ตอนนี้เขาขอเบรกไปเรียนต่อปริญญาโทด้านสิ่งแวดล้อมที่มหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด เขาอินและทุ่มเทมากจนต้องไปเรียนเพื่อให้รู้ว่าสิ่งที่เขาทำนั้นถูกหรือผิด

จากต้นกล้าเล็กๆ ที่เพิ่งปลูกลงดิน วันนี้ Little Big Green เริ่มมีงอกงามดังใจ และพร้อมเติบโตเป็นต้นไม้ใหญ่ที่แผ่กิ่งก้านสาขา
“อีกไม่นานเราก็จะมีงานร่วมกับพาร์ทเนอร์อื่นๆ เพิ่มขึ้น ที่กำลังจะเกิดขึ้นคือการจัดงานให้เจ้าของแคมเปญด้านสิ่งแวดล้อมทั้งหมดในเมืองไทยมาเจอกัน ไม่ว่าจะเป็น Greenery Challenge, Environman, Chula Zero Waste, Zero Waste Thailand และอีกเยอะมากประมาณ 60 คน เราให้ทุกคนพกปิ่นโตมากินข้าวกัน และแลกเปลี่ยนกันว่าคุณทำอะไรอยู่บ้าง ธีมงานคือจะไม่มีขยะ ทุกอย่างถ้าไม่มีต้องยืมมา คนเรามีของเหลือเฟือนะ เมื่อก่อนคนไทยเรามีงานก็ยืมกันได้ เป็นความน่ารัก และการยืมก็ sustainability สุดๆ แล้ว”

ครูลูกกอล์ฟเป็นอีกคนที่เริ่มต้นดูแลโลกใบนี้อย่างจริงจัง จึงพร้อมเป็นอีกหนึ่งเสียงดังที่ชวนคนมาร่วมกรีนด้วยกัน และแนะนำวิธีง่ายๆ ในการชักชวนคนรอบข้างที่อาจไม่เคยใส่ใจเรื่องนี้มาลองมีวิถีชีวิตแบบกรีนๆ ว่า

“ต้องพูดจาดีๆ กับเขา อย่างน้อยอย่าให้เขาปิดประตูใส่ด้วยการไปด่า เราไม่ไปชี้ว่าเขาผิดหรือถูก แค่บอกว่า มีวิธีนี้นะ ลดได้นะ ลองดู แค่นี้เอง พูดจาดีๆ หว่านล้อม แต่ถ้าเพื่อนสนิทเราก็ดุเลยนะ ไม่เอา!ไม่ให้ใช้! เราจะตั้งคำถาม เช่น วันนี้มีวิธีอื่นไหมทีจะซื้อผลไม้โดยไม่รับถุงพลาสติก ใส่กล่องได้ไหม แต่ถ้าไม่มีไม่เป็นไร แต่ถ้าวันไหนมีต้องลดนะ ไม่ใช่ว่าเขาถือถึงพลาสติกอยู่แล้วไปด่าเขา “ชั่ว ฆ่าวาฬ!” เขาไม่เก็ตหรอก เราต้องโน้มน้าวให้เขาเป็นเขียวอ่อนก่อน

การไปสู่จุด Zero Waste อาจเป็นเรื่องใหญ่และยากที่กว่าจะไปถึง แต่หากวันนี้ทุกคนเริ่มตระหนักถึงว่าตัวเองมีส่วนช่วยโลกได้ ก็นับเป็นก้าวแรกที่ยิ่งใหญ่ ที่จะนำไปสู่การมีส่วนในการดูแลโลกอย่างยั่งยืน


“การจะไปสู่ความยั่งยืน เราต้องอดทนเหมือนดูแลต้นไม้นั่นแหละ ต้องดูแล ใส่ปุ๋ย พรวนดิน ปลูกเพิ่ม วันนี้เป็นแค่สวน แต่วันหนึ่งต้องเป็นป่า แต่ปลูกป่าเป็น 20 ปีอาจยังไม่เป็นป่าเลยก็ได้ บางทีมีคนมาถางไปอีก หรือเจอไฟป่า ก็ต้องปลูกเพิ่มไปกันไป เป้าหมายสูงสุดของเรา ณ วันนี้คือ การตระหนัก ถ้าคุณตื่นมาแล้วตระหนักว่า ทุกการบริโภคของเรา เรากำลังใช้ทรัพยากรในบ้านนี้ นับเป็นความสำเร็จของเราแล้ว คิดดูว่าถ้า Little Big Green ทำให้คนเป็นล้านหรือสิบล้านคนตระหนักได้ หรือทำให้ทุกคนในประเทศไทยตระหนักเรื่องนี้ได้ ผลจะเป็นอย่างไร”

ลิงก์ชม
little big green คอมมูนิตี้ที่รวบรวมคนสีเขียวไว้ด้วยกัน
ภายใต้คอนเซปต์As Green as you can เพื่อช่วยโลกในแบบที่ทุกคนทำได้


ข้อมูลอ้างอิง https://www.lips-mag.com/lips/lips-interview/loukgolf/


กำลังโหลดความคิดเห็น