วันนี้ (17 ส.ค.2563) เพจเฟซบุ๊ค นายจำเป็น ผอมภักดี พนักงานพิทักษ์ป่า ส3 อุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี จ.กระบี่ ได้โพสต์ภาพฉลามหูดำกำลังแหวกว่ายบริเวณชายหาดเกาะห้องประมาณ 30 ตัว มีขนาดตั้งแต่ 50 ซม. จนถึงขนาดใหญ่ประมาณ 150 ซม.
ชมลิงก์
ฉลามหูดำ แหวกว่ายติดชายหาดเกาะห้อง
ซึ่งสะท้อนให้เห็นความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติ และความสวยงามของทัศนียภาพที่งดงามของธรรมชาติทางทะเล ซึ่งหลังจากเปิด อช.ธารโบกขรณี กว่า 1 เดือนครึ่ง โดยยังเปิดเฉพาะหน่วยพิทักษ์ฯที่ธบ.1 (เกาะห้อง) และหน่วยพิทักษ์ฯที่ธบ.3 (บ่อท่อ) ส่วนที่ทำการอุทยานฯ (น้ำตกธารโบกขรณี) ยังคงปิด ปรากฎการณ์ที่เป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวรักษ์โลก คือ การเข้ามาชมสัตว์น้ำหายาก อย่างฉลามหูดำ และการย้อนเวลากลับไปรำลึกวิถีชีวิตในอดีตที่หิ้วปิ่นโตใส่อาหาร (ยุคไร้ถุงพลาสติกใส่อาหาร)
ตอนนี้นักท่องเที่ยวส่วนหลักยังเป็นชาวไทยคงนิยมนำอาหารใส่ปิ่นโตมาเที่ยวพักผ่อนที่ชายหาดบนเกาะห้อง ซึ่งตอนนี้เสมือนเป็นวัฒนธรรมใหม่ของการท่องเที่ยวที่นี่ ซึ่งเป็นผลจากนโยบายของทางอุทยานฯ ที่ห้ามไม่ให้นักท่องเที่ยวนำถุงพลาสติก และโฟมเข้ามาภายในเขตอุทยานฯ ที่เริ่มต้นเมื่อปีที่แล้ว แต่จนถึงตอนนี้ยังได้รับความร่วมมืออย่างดีจากนักท่องเที่ยวคนไทย รวมถึงการมีมาตราการในการรักษาความปลอดภัยด้วยการท่องเที่ยวแบบนิวนอร์มอลในเขตอุทยานฯ
ฑีฆาวุฒิ ศรีบุรินทร์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี กล่าวว่า ช่วงนี้เป็นหน้ามรสุม ทางเกาะแก่งต่างๆ ประกอบด้วย เกาะห้อง เกาะเหลาลาดิง เกาะผักเบี้ย ในเขตอุทยานธารโบกขรณี ได้รับผลกระทบจากปัญหาขยะทางทะเลจำนวนมาก ลมเปลี่ยนทิศพัดขยะเข้าสู่ชายฝั่งกองเรียงรายตามแนวชายหาดจำนวนมาก บางส่วนลอยเป็นแพขยะอยู่กลางทะเล ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ต้องทำงานกันอย่างหนักเกือบทุกวัน เพื่อเก็บกวาดนำขยะเหล่านี้ไปทำลาย ก่อนเปิดให้นักท่องเที่ยว เข้าเยี่ยมชมธรรมชาติที่สวยงาม
หมู่เกาะห้อง เขตอุทยานธารโบกขรณี ยังได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวชาวไทยทั้งเป็นคนในจังหวัดกระบี่และจังหวัดอื่นๆ ที่ต้องการเข้ามาสัมผัสชื่นชมธรรมชาติ พร้อมกับหิ้วปิ่นโตมาร่วมรับประทานอาหาร ซึ่งถือว่าทุกคนได้ช่วยลดการสร้างปัญหาขยะ ที่จะเป็นขยะทะเล เพราะทุกวันนี้เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ยังต้องระดมเก็บกวาดกันอย่างเต็มที่ เพื่อให้ชายหาดทุกวันสะอาดตา
โดยเฉพาะในช่วงนี้ สัตว์น้ำหาดูยาก “ฉลามหูดำ” ยังเข้ามาแหวกว่ายติดชายหาดเกาะห้อง จากก่อนหน้าที่เห็นจากเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ได้บันทึกภาพไว้ตอนที่ช่วงอุทยานฯปิด ทำให้นักท่องเที่ยวที่เข้ามาสัมผัสจริง มีความประทับใจมาก จึงขอย้ำสั้นๆ เพียงทำตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ ทั้งในส่วนการสวมชูชีพก่อนลงเล่นน้ำเพื่อความปลอดภัย ท่องเที่ยวแบบนิวนอร์มอล รวมถึงการนำขยะคืนถิ่น ซึ่งเป็นการเที่ยวแบบรักษ์สิ่งแวดล้อมที่ไม่ทำลายธรรมชาติ
สำหรับปลาฉลามครีบดำ หรือ ปลาฉลามหูดำ ( Blacktip reef shark; ชื่อวิทยาศาสตร์: Carcharhinus melanopterus) วิกิพีเดีย อธิบายว่าเป็นปลาฉลามชนิดหนึ่ง มีรูปร่างเพรียวยาว ปากกว้าง มีแถบดำที่ครีบหลัง ครีบไขมัน ครีบก้น และครีบหางตอนล่าง เป็นที่มาของชื่อ กินปลาและสัตว์น้ำขนาดเล็กเป็นอาหาร มีนิสัยไม่ดุร้ายเมื่อเทียบกับปลาฉลามชนิดอื่นๆ นิยมอยู่รวมเป็นฝูงบริเวณใกล้ชายฝั่ง และอาจเข้ามาในบริเวณน้ำกร่อย หรือปากแม่น้ำ โดยสามารถเข้ามาหากินใกล้ชายฝั่ง แม้กระทั่งในพื้นที่ๆ มีน้ำสูงเพียง 1 ฟุต เป็นปลาหากินในเวลากลางคืน ในเวลากลางวันจะหลบซ่อนตัวพักผ่อนตามแนวปะการัง โดยจะหากินอยู่ในระดับน้ำความลึกไม่เกิน 100 เมตร ขนาดโตเต็มที่ประมาณ 2 เมตร ตัวเมียตั้งท้องนาน 18 เดือน ออกลูกเป็นตัว ครั้งละ 2-4 ตัว เมื่อโตขึ้นแล้วสีดำตรงที่ครีบหลังจะหายไป คงเหลือไว้แต่ตรงครีบอกและครีบส่วนอื่น
นับเป็นปลาฉลามชนิดที่พบได้บ่อยที่สุดในทะเล และเป็นต้นแบบของปลาฉลามในสกุลปลาฉลามปะการัง มีนิสัยเชื่องคน สามารถว่ายเข้ามาขออาหารได้จากมือ เป็นที่ชื่นชอบของบรรดาผู้ที่นิยมการดำน้ำ พบทั้งฝั่งอ่าวไทยและทะเลอันดามัน
ชมลิงก์
ฉลามหูดำ แหวกว่ายติดชายหาดเกาะห้อง