QS Quacquarelli Symonds สถาบันคลังสมองชั้นนำในแวดวงอุดมศึกษาระดับโลก ประกาศผลการจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลก QS World University Rankings ฉบับที่ 17 ซึ่งเป็นแหล่งข้อมูลเปรียบเทียบศักยภาพของมหาวิทยาลัยที่มีผู้นำไปเผยแพร่และค้นหาข้อมูลมากที่สุดในโลก โดยผลการจัดอันดับพบว่า มหาวิทยาลัยในเอเชียติด 100 อันดับแรกของโลกถึง 26 แห่ง ทำสถิติมากที่สุดเป็นประวัติการณ์
- Massachusetts Institute of Technology ครองตำแหน่งมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งของโลกเหนียวแน่นเป็นปีที่ 9 ติดต่อกัน ทำสถิติติดต่อกันนานที่สุดเป็นประวัติการณ์
- มหาวิทยาลัย 3 อันดับแรกของโลกยังคงเป็นของสหรัฐ โดยถัดจาก MIT ได้แก่ Stanford University (อันดับสอง) และ Harvard University (อันดับสาม)
- มหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งของอังกฤษได้แก่ University of Oxford ซึ่งตกไปเป็นอันดับห้าของโลก ส่วนมหาวิทยาลัยคู่แข่งอย่าง University of Cambridge ยังคงอยู่ที่อันดับเจ็ด
- สหรัฐมีมหาวิทยาลัยติดอันดับ 153 แห่ง ในจำนวนนี้มีถึง 112 แห่งที่มีอันดับลดลง และมีเพียง 34 แห่งที่อันดับสูงขึ้น เนื่องจากมีชื่อเสียงทางวิชาการและผลกระทบจากการวิจัยลดลงตามเกณฑ์วัดของ QS
- มหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งของยุโรปภาคพื้นทวีปคือ ETH Zurich (อันดับหกของโลก ไม่เปลี่ยนแปลงจากปีที่แล้ว)
- มหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งของเอเชียคือ National University of Singapore (อันดับที่ 11 ของโลก)
- มหาวิทยาลัย Tsinghua University ครองอันดับสูงสุดเท่าที่เคยติดอันดับมา (อันดับที่ 15)
- มหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งในลาตินอเมริกาคือ Universidad de Buenos Aires (อันดับที่ 66 ของโลก ขึ้นมา 8 อันดับ) ขณะที่ Universidad Nacional Autónoma de México (อันดับที่ 100) เป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของเม็กซิโกที่ติด 100 อันดับแรก
- มหาวิทยาลัยในรัสเซียและมาเลเซียยังคงมีอันดับดีขึ้น โดย Lomonosov Moscow State University (อันดับที่ 74) และ Universiti Malaya (อันดับที่ 59) มีอันดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ทั้งสองแห่ง
เบน โซวเทอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของ QS กล่าวว่า “สถาบันอุดมศึกษาของสหรัฐยังคงมีอิทธิพลลดลงเนื่องจากทั่วโลกมีการแข่งขันดุเดือดมากขึ้น โดยเป็นการแข่งขันที่ขับเคลื่อนด้วยการให้เงินทุนเชิงกลยุทธ์ ความพยายามในการทำให้เป็นสากล และสายสัมพันธ์อันเหนียวแน่นระหว่างการศึกษากับอุตสาหกรรม”
มหาวิทยาลัย 20 อันดับแรก จากผลการจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลก QS World University Rankings ประจำปี 2021