ภาพ - งูหลามบอล โดย World Animal Protection/ Aaron Gekoski
เปิดรายงานสำคัญ เผยความเข้าใจผิด “งูหลามบอล” องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลกจัดทำสารคดีชื่อว่า “Ball pythons are wildlife #NotPets” แจ้งเตือน ระบุความทารุณ-แหล่งเพาะโรคร้าย “ธุรกิจค้าสัตว์แปลก” ระดับโลก
ปัจจุบัน “สัตว์ป่า” นานาชนิดนับล้านตัว กำลังถูกคุกคาม และตกเป็นเหยื่อ “ธุรกิจค้าสัตว์แปลก” ทั่วโลก ที่มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการลดจำนวนลงของประชากรสัตว์ป่าทั่วโลก ล่าสุด องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก (World Animal Protection) จัดทำสารคดีชื่อว่า “Ball pythons are wildlife #NotPets” เพื่อแจ้งเตือนเกี่ยวกับการค้าสัตว์ป่าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะ “สัตว์เลื้อยคลาน” คือ งูหลามบอลแอฟริกา (African Ball Pythons) มีการซื้อขายมากที่สุดในทวีปแอฟริกาเพื่อนำไปเป็นสัตว์เลี้ยง
สารคดีนี้เปิดเผยความน่าตกใจของอุตสาหกรรมลักลอบจับสัตว์ป่า พบว่าในช่วง 45 ปีที่ผ่านมา มี “งูหลามบอล” มากกว่า 3 ล้านตัวถูกส่งออกจากแอฟริกาตะวันตก เพื่อนำไปขายเป็นสัตว์เลี้ยงใน 3 ทวีป ได้แก่ ยุโรป เอเชีย และอเมริกา ซึ่งเป็นผู้นำเข้าสัตว์เลื้อยคลานรายใหญ่ที่สุดของโลก
องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก เผยว่า “การค้าสัตว์ป่าเป็นเสมือนระเบิดเวลาสำหรับการแพร่ระบาดของเชื้อโรคต่างๆ ที่เป็นอันตรายต่อชีวิตของมนุษย์” เนื่องจากสัตว์ที่ถูกจับจากป่าธรรมชาติ หรือถูกเพาะพันธุ์ในกรงขังแคบๆ ภายใต้สภาพแวดล้อมสกปรก เสื่อมโทรม อาจกลายเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคที่ร้ายแรงถึงแก่ชีวิต และในขณะเดียวกันก็สร้างความเจ็บปวด ทุกข์ทรมานอย่างโหดร้ายต่อสัตว์ป่าเช่นกัน
ภาพ - งูหลามบอล โดย World Animal Protection / Aaron Gekoski
จากการสำรวจพบว่า การค้าขายสัตว์เลื้อยคลานคิดเป็น 20% ในธุรกิจค้าสัตว์แปลกทั่วโลก ยังคงเป็นสัตว์ที่มักถูกเข้าใจผิดมากที่สุดประเภทหนึ่ง และผลจากการประเมินพบว่า มีงูมากกว่า 5,000 ตัวที่อยู่กับนักเพาะพันธุ์สัตว์ในอเมริกาเหนือและสหภาพยุโรป ถูกดูแลโดยไม่ได้มาตรฐานด้านสวัสดิภาพสัตว์ที่เหมาะสม เนื่องจากพวกมันถูกเลี้ยงอยู่ในภาชนะพลาสติกหรือกล่องแก้วขนาดไม่ใหญ่กว่าตัวมันนักเพื่อรอการจำหน่าย
โดยเฉพาะ “งูหลามบอล” ที่มักมีภาพปรากฏอยู่บนโปสเตอร์ขายสัตว์แปลก ร่วมกับสัตว์ป่าชนิดอื่นๆ จากการที่มนุษย์มักคิดว่า มันเป็นสัตว์ที่ไม่มีความรู้สึกจึงไม่เจ็บปวดหรือทรมาน และจากชื่อของมันที่ว่า “งูหลามบอล” ซึ่งมีสาเหตุมาจากพฤติกรรมของมันที่มักขดตัวเองจนกลมแน่นคล้ายลูกบอล เมื่อเกิดความรู้สึกตึงเครียดหรือหวาดกลัว รวมถึงความเข้าใจผิดที่ว่า พวกมันเป็นสัตว์ที่ไม่ต้องรับการดูแลเป็นพิเศษ ล้วนเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้พวกมันกลายมาเป็นสัตว์แปลกที่ถูกนิยมนำมาเลี้ยง
ใจความสำคัญของรายงานเรื่องนี้ ซึ่งทำการตรวจสอบในแอฟริกาตะวันตก สหภาพยุโรป และอเมริกาเหนือ พบว่า
•กว่า 99% ของงูหลามบอลทั่วโลก นำเข้ามาจาก 3 ประเทศในแอฟริกาตะวันตก ได้แก่ โตโก เบนิน
และกานา
•การทำฟาร์มงูหลามบอลในแอฟริกาตะวันตก มักเกิดจากการจับลูกงูหลามจากธรรมชาติ (โดยทำการขุดพวกมันออกจากโพรงอาศัย ก่อนจะยัดเข้าไปในกระสอบที่เต็มไปด้วยงูอื่นๆ) ซึ่งอาจส่งผลให้พวกมันเกิดการติดเชื้อโรค ทนทรมาน บาดเจ็บ และตายลง
•มีสัตว์แปลกมากกว่า 10 ล้านตัวที่ถูกเลี้ยงภายในบ้านทั่วโลก โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกาแห่งเดียว มีมากกว่า 51% ของสัตว์เลื้อยคลาน หรือประมาณเกือบ 9 ล้านตัวที่ถูกเลี้ยงโดยมนุษย์
•งูหลามบอล เป็นสัตว์ที่มีความต้องการที่ซับซ้อนและมีเอกลักษณ์ โดยเฉพาะเพื่อตอบสนองความต้องการขั้นพื้นฐานแม้ต้องถูกเลี้ยงในสถานที่กักขัง รวมถึงต้องการพื้นที่เพื่อที่จะเหยียดตัวเต็มความยาวของลำตัว ซึ่งสถานที่เดียวที่พวกมันจะแสดงพฤติกรรมทางธรรมชาติได้ดีที่สุดก็คือในป่า
•การกักขังงูหลามบอล มักถูกจำกัดในพื้นที่ขนาดเล็กกว่าแหล่งที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติของพวกมัน และโดยทั่วไปมักไม่สามารถเข้าถึงแหล่งน้ำ แหล่งอาศัย ถึงแม้ผู้เลี้ยงจะตกแต่งพื้นที่ให้ดูเป็นธรรมชาติ หรือให้การดูแลพวกมันอย่างเหมาะสม ก็ไม่สามารถทดแทนที่อยู่ตามธรรมชาติได้
ปัจจุบัน สื่อออนไลน์ต่างๆ มีส่วนทำให้เกิดกระแสความนิยม ซึ่งส่งผลต่อการค้าสัตว์แปลกที่โหดร้าย โดยมีช่องทางที่มีบทบาทสำคัญ ได้แก่ Facebook, YouTube และ Instagram ร้านค้าสัตว์เลี้ยงและเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซเหล่านี้ ยังเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ ตามความต้องการของผู้ซื้อและตลาดที่เกิดขึ้นสำหรับสัตว์เลี้ยงแปลกใหม่ เช่น งูหลามบอล ฯลฯ
ภาพ - งูหลามบอล โดย - ไทยรัฐทีวี
การยุติห้ามค้าสัตว์ป่าทั้งหมด เป็นการแก้ปัญหาเพียงทางเดียวที่เหมาะสมที่สุด ทั้งเพื่อปกป้องสัตว์ป่า ช่วยให้สัตว์ป่าไม่ต้องถูกกักขังอย่างทรมาน และช่วยป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดต่อและเชื้อโรคต่างๆ อีกด้วย ทั้งนี้ จากการระบาดของ “ไวรัสโคโรนา” และการระบาดของการติดเชื้อ “ซาลโมเนลลา” เป็นตัวชี้ให้เห็นว่า การที่สัตว์ป่ามีความตึงเครียดและได้รับบาดเจ็บ สามารถส่งผลกระทบที่เป็นอันตรายต่อชีวิตของมนุษย์ได้ ดังนั้น การยุติการค้าสัตว์แปลกจึงเป็นสิ่งจำเป็น ไม่เพียงเพื่อสวัสดิภาพและความหลากหลายทางชีวภาพของสัตว์ แต่ยังเพื่อปกป้องสุขภาพของมนุษย์เองด้วย
Edith Kabesiime ผู้จัดการแคมเปญสัตว์ป่า องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก แอฟริกา กล่าวว่า “เราเห็นผลกระทบจากการแสวงหาผลประโยชน์จากประชากรงูโดยธรรมชาติที่โหดร้าย และความทุกข์ทรมานจากสัตว์ป่าที่ต้องถูกพรากจากถิ่นที่อยู่เดิม และถูกจับยัดลงในกระสอบเพื่อนำมาเพาะพันธุ์ในที่กักขัง ซึ่งไม่ใช่วิถีชีวิตที่สัตว์ป่าจะมีชีวิตอยู่ได้ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการค้างูหลามบอลแอฟริการะหว่างประเทศ นับเป็นแหล่งรายได้ทางเศรษฐกิจที่สำคัญสำหรับชุมชนท้องถิ่นบางแห่ง แต่ในอนาคตเมื่องูไปหมด เงินก็จะหมดลงเช่นกัน ซึ่งจากการระบาดของไวรัสโคโรนา ทำให้เราก็เริ่มตระหนักถึงค่าใช้จ่ายในช่วงวิกฤต เนื่องจากความต้องการสัตว์เลี้ยงหรูหราเริ่มกลายเป็นราคาที่แพงเกินคุ้ม”
Cassandra Koenen หัวหน้าแคมเปญสัตว์ป่าไม่ใช่สัตว์เลี้ยง องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก กล่าวว่า “การค้างูหลามบอล ซึ่งเป็นสัตว์แปลกที่ได้รับความนิยมมากในตลาดสัตว์แปลกขนาดใหญ่ทั่วโลก กำลังส่งผลกระทบต่อสัตว์ป่านับล้านตัวในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา งูเหล่านี้ถือเป็นหนึ่งในสัตว์ที่ถูกเข้าใจผิดกันมากที่สุด ทำให้สัตว์ป่าเหล่านี้ต้องทนทุกข์ทรมานอย่างโหดร้ายจากการถูกจับไปกักขัง”
“ไม่ว่าจะเป็นการค้าที่ถูกกฎหมายหรือผิดกฎหมาย การมีสัตว์ป่าไว้เป็นสัตว์เลี้ยงถือเป็นการกระทำที่โหดร้าย อีกทั้งผู้ขายงูหลามบอลในอเมริกาเหนือและยุโรป ส่วนมากมักไม่ผ่านมาตรฐานการดูแลสัตว์ขั้นต่ำ งูเหล่านี้ต้องถูกยัดลงไปในภาชนะพลาสติกขนาดเล็ก คับแคบ ไม่มีแม้ที่ว่างให้ขยับตัวเคลื่อนที่ และไม่มีน้ำ ที่พักพิง หรือสภาพแวดล้อมที่จำเป็นสำหรับการควบคุมอุณหภูมิร่างกาย สภาพความเป็นอยู่ที่หดหู่เช่นนี้คือการทรมานสัตว์ทั้งสิ้น ซึ่งผู้ขายอาจจะลืมไปว่างูเหล่านี้เป็นสัตว์ป่า ไม่ใช่สินค้า และสัตว์ป่าไม่ใช่สัตว์เลี้ยง พวกมันสมควรที่จะได้อยู่ในป่าตามธรรมชาติ” Cassandra กล่าวปิดท้าย
องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก เรียกร้องให้ผู้คนไม่ซื้อหรือเพาะพันธุ์งูหลามบอล เพื่อนำมาเป็นสัตว์เลี้ยง เพราะชีวิตที่ถูกกักขังของงู เป็นโลกที่โหดร้ายและต่างจากชีวิตในป่าอย่างมาก ร่วมลงชื่อยุติการซื้อขายสัตว์แปลก และไม่นำสัตว์แปลก เช่น งูหลามบอล มาเป็นสัตว์เลี้ยง ได้ทาง https://www.worldanimalprotection.or.th/buy-exotic-pets
และชมสารคดีได้ที่ “Ball pythons are wildlife #NotPets” https://tinyurl.com/ycaz23sk