ในช่วงที่จีนสั่งปิดเมืองระงับการแพร่เชื้อไวรัส COVID-19 สร้างแรงกดดันต่อจีนในด้านความน่าเชื่อถือของการค้าที่ถูกกฎหมาย ตามรายงานของ Chinese Academy of Engineering ประเทศจีนได้สัญญาที่จะแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการค้าสัตว์ป่า ที่มีมูลค่าถึง 74,000 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ความเปลี่ยนแปลงในตอนนี้ปรากฎให้เห็นแค่เฉพาะส่วนที่เกี่ยวกับการบริโภคสัตว์ป่าเท่านั้น
เชื่อกันว่าตลาดขายอาหารทะเลฮั่วนาน เป็นที่แรกที่เกิดการแพร่ระบาดของ COVID-19 ได้ถูกสั่งปิดเพื่อทำการฆ่าเชื้อ ตลาดแห่งนี้เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องการค้าสัตว์ป่าอีกด้วย
เมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน เป็นเมืองระดับที่โด่งดังในด้านการค้าขายแบบ E-commerce และการขนส่งสินค้า กำลังถูกกดดันจากรัฐบาล และนักอนุรักษ์ให้หยุดปฏิบัติงาน เพราะเชื่อว่าเป็นที่แห่งนี้เป็นทางผ่านของการค้าขายสัตว์ป่า ข้อบังคับได้ออกมาในช่วงปลายเดือนมกราคมเนื่องจากการระบาดของ COVID-19 ในเมืองอู่ฮั่น ซึ่งคาดว่าการระบาดน่าจะมีต้นกำเนิดมาจากการค้าสัตว์ป่า และการส่งออกสู่ต่างประเทศ
อย่างไรก็ตามในขณะเดียวกันกลุ่มอนุรักษ์ก็ได้เรียกร้องให้จีนออกมาตรการอย่างจริงจัง ในการควบคุมธุรกิจการค้าสัตว์ป่าที่มีกำไรได้สูงมาก เพื่อความชัดเจน และเพิ่มความเกรงกลัวต่อการจัการกับธุรกิจที่ผิดกฎหมายนี้
ในเดือนแรกของการระงับแพลตฟอร์ม E-commerce ทำให้เกิดการสกัดกั้นผลิตภัณฑ์เกี่ยวข้องกับสัตว์ป่า 140,000 รายการ เช่น ผลิตภัณฑ์จำพวกเนื้อสัตว์ไปจนถึงชิ้นส่วนสัตว์ที่ใช้ในการแพทย์แผนจีน และได้ทำการปิดบัญชีประมาณ 17,000 บัญชีที่เกี่ยวข้องกับการค้าเหล่านั้น เจ้าหน้าที่จากสภาแห่งรัฐของจีนกล่าวเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์
กระทรวงคมนาคมของประเทศจีนได้ออกคำสั่งให้บริษัทจัดส่งสินค้าเป็นด่านแรกในการกลั่นกรอง เพื่อหยุดการขนส่งสัตว์ป่าที่ยังมีชีวิต และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ป่าอื่นๆ โดยบริษัทจัดส่งสินค้าต้องระมัดระวังเป็นพิเศษในการตรวจสอบพัสดุก่อนส่งมอบ
ตามรายงานของ Chinese Academy of Engineering ความเปลี่ยนแปลงในตอนนี้ปรากฎให้เห็นแค่เฉพาะส่วนที่เกี่ยวกับการบริโภคสัตว์ป่าเท่านั้น
หมายความว่าอุตสาหกรรมขนสัตว์และเครื่องหนัง รวมถึงการค้าชิ้นส่วนสัตว์ป่าที่จัดหาเพื่อการแพทย์แผนจีน สามารถดำเนินการได้ตามปกติ สิ่งนี้จะทำให้เกิดผลกระทบอย่างมากต่อสัตว์ป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ และยังก่อให้เกิดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรคที่มีที่มาจากสัตว์ป่าสู่มนุษย์อย่างเช่น COVID-19
Zhou Jinfeng ผู้อำนวยการมูลนิธิอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ และการพัฒนาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของจีน กล่าวว่า “ในตอนนี้กฎหมายที่มี ไม่เพียงพอที่จะครอบคลุมการค้าทางออนไลน์ ถ้ารัฐบาลไม่สามารถเพิ่มระบบการจัดการการค้าสัตว์ป่าทางออนไลน์ การจะหยุดการค้าสัตว์ป่านั้นจะเป็นเรื่องที่ยากมาก และฉันหวังว่ารัฐบาลจะมีมาตรการในการจัดการกับการต้าออนไลน์ได้ในเร็ววัน”
ในช่วงที่ผ่านมากลุ่มของ Zhou Jinfeng ได้ทำงานร่วมกับบริษัทค้าขายออนไลน์ต่าง ๆ เช่น Alibaba, Tencent, JD.com และอื่น ๆ ในหัวข้อการรณรงค์เรื่อง “Wildlife Free E-Commerce” โดยเป้าหมายคือการตรวจคัดกรองสินค้าไม่เพียงแต่สัตว์ป่า หรือชิ้นส่วนของสัตว์ป่า แต่ยังรวมไปถึงเครื่องมือในการล่าสัตว์ต่าง ๆ เช่น อวนจับนก อุปกรณ์เปิดสียงเพื่อเรียกสัตว์ป่า กับดักสัตว์ และไฟฉายเฉพาะที่ใช้สำหรับล่าสัตว์
กลุ่มของ Zhou Jinfeng ยังได้สร้างแรงกดดดันต่อเจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมาย ในการลงโทษต่อบริษัทที่เป็นรายใหญ่ในธุรกิจการค้าสัตว์ป่า และหวังว่าเมื่อจัดการกับรายใหญ่ได้แล้ว รายเล็กจะค่อยๆ ถอยกันไปเอง โดยเป้าหมายคือการลดการละเมิด และการเพิกเฉยต่อกฎหมายสิ่งแวดล้อม และกลุ่มของ Zhou Jinfeng ยังได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงนิเวศวิทยาและสิ่งแวดล้อมของจีนอีกด้วย
Grace Gabriel ผู้อำนวยการองค์กรกองทุนนานาชาติเพื่อสวัสดิภาพสัตว์ของทวีปเอเชีย (IFAW) กล่าวว่า “องค์กรได้มีการกำหนดมาตรการเพื่อต่อสู้กับการค้าสัตว์ป่ามานานแล้ว ตั้งแต่ ค.ศ.2007 ทางองค์กรได้ทำงานร่วมกับ Alibaba และ Taobao ในการเอางาช้าง กระดูกเสือ ถุงน้ำดีหมี และนอแรด ออกจากแพลตฟอร์มการซื้อขายสินค้า เช่นเดียวกันกับครีบฉลาม และตัวลิ่น
Richard Thomas โฆษกขององค์กร TRAFFIC (องค์กรเครือข่ายการสำรวจตรวจสอบการค้าสัตว์ป่า) ได้บอกว่า “ช่องโหว่กฎหมายการค้าสัตว์ป่าไม่ใช่ประเด็นหลักในการทำให้เกิดการระบาด แต่เป็นกรรมวิธี และคุณภาพของกระบวนการที่เป็นสาเหตุหลักไม่ใช่แค่ COVID-19 แต่รวมถึงการระบาดของโรคบางโรคในอดีตด้วย เช่น โรคซาร์ส และอีโบลา”
Richard Thomas ยังกล่าวอีกว่า “รัฐบาลทั่วโลกกำลังเจอกับปัญหาที่ยากต่อการตัดสินใจ หากรัฐพยายามห้ามการค้าขายสัตว์ป่า ตลาดการค้าสัตว์ป่าก็จะกลายไปเป็นตลาดมืดมุดลงใต้ดินอย่างผิดกฎหมาย ซึ่งสภาพที่รัฐบาลไม่สามารถควบคุมได้เหล่านี้มีแนวโน้มที่จะทำให้เกิดโอกาศการแพร่ระบาดของเชื้อโรคมากขึ้นเสียด้วยซ้ำ ความเป็นจริงแล้วสิ่งที่เรากำลังทำกันอยู่ก็เหมือนกับแค่รอเวลาให้โรคที่แพร่เชื้อจากสัตว์สู่คนอันใหม่เกิดระบาดขึ้นในอนาคต ในทางกลับกันกฎหมายควรควบคุม และตรวจสอบการค้าเหล่านี้อย่างละเอียด และเข้มงวด เพื่อที่จะลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของเชื้อโรคแบบที่เรากำลังประสบกันอยู่ในตอนนี้”
การค้าที่ได้รับการตรวจสอบ และควบคุมไม่ว่าในระดับใดก็ตาม จะปลอดภัยกว่าการค้าแบบตลาดมืดใต้ดินอย่างผิดกฎหมาย มันเป็นเรื่องสำคัญที่รัฐบาลจะต้องตัดสินใจว่าจะเดินทางไหน และไม่ว่าจะเป็นทางไหนก็จำเป็นต้องใช้งบประมาณที่มากขึ้นสำหรับการควบคุม และตรวจสอบ รวมไปถึงงบประมาณด้านความเสี่ยงต่อสุขภาพที่อาจเกิดขึ้น ไม่เพียงแต่ในกระบวนการค้าขายเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงในระหว่างกระบวนการผลิตทั้งหมดตั้งแต่เริ่มต้นการผสมพันธุ์สัตว์ไปจนถึงการขนส่ง และการกระจายสู่ผู้บริโภค
ข้อมูลอ้างอิง มูลนิธิสืบนาคะเสถียร