ภาพ-นายจาร์รอด ทรัสเลอร์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ดาว โพลียูรีเทน (พียู)
Dow เปิดตัวผลิตภัณฑ์เคลือบพื้นผิวล้ำสมัย รุกตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และไทย ชูคุณสมบัติหลากหลายพร้อมเอกลักษณ์เฉพาะตัวสำหรับเคลือบหลังคาและพื้น ตอบโจทย์ความยั่งยืนและมาตรฐานอาคารเขียว
นายจาร์รอด ทรัสเลอร์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ดาว โพลียูรีเทน (พียู) ผู้นำด้านแมททีเรียล ไซแอนซ์ (Materials Science) ระดับโลก เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์เคลือบผิวเพื่อการปกป้องของดาวมีหลากหลายรูปแบบ สามารถประยุกต์ใช้ให้สอดคล้องกับงานแต่ละประเภท โดยส่วนประกอบสำคัญของผลิตภัณฑ์ปราศจากสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่ายที่ไม่สามารถตรวจได้ (VOCs) หรือมีส่วนผสมดังกล่าวในสัดส่วนที่น้อยมาก ซึ่งตรงตามมาตรฐานสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนสากล
โดยผลิตภัณฑ์เคลือบพื้นผิวใช้ชื่อทางการค้าว่า TRAFFIDECK™ และ VERDISEAL™ เป็นเทคโนโลยีที่มีหลายรูปแบบเหมาะสำหรับโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐานและการก่อสร้างประเภทต่างๆ เช่น ระบบคมนาคมขนส่ง ท่าเรือ คลังสินค้าและห้องเย็น สนามกีฬา และสวนลอยฟ้าบนอาคาร เป็นต้น
ผลิตภัณฑ์ TRAFFIDECK™ สามารถใช้กับพื้นผิวหลายชนิด ซึ่งส่วนใหญ่มักใช้กับคอนกรีต เหล็ก ไม้ และยางมะตอย อีกทั้ง มีประโยชน์อื่น เช่น ทำให้พื้นผิวทนทานใช้งานได้นาน ช่วยปกป้องโครงสร้าง ใช้เคลือบกันลื่นสำหรับพื้นผิวที่มีเนื้อวัสดุและความยืดหยุ่นแตกต่างกัน โดยมีตัวอย่างของการใช้งานจริง เช่น การใช้ผลิตภัณฑ์เคลือบคุณภาพสูงสำหรับท่าเรือหรือดาดฟ้าเรือ ซึ่งต้องแบกรับการขนส่งที่มีน้ำหนักบรรทุกสูง และต้องมีคุณสมบัติกันลื่นเพื่อเพิ่มความปลอดภัย หรือการใช้ผลิตภัณฑ์เคลือบผิวรถยนต์หรือสะพานลอย ซึ่งผลิตภัณฑ์ต้องมีความยืดหยุ่นสูงเพื่อให้สามารถเคลื่อนที่ไปบนโครงสร้างได้
การใช้เทคโนโลยีนี้มีส่วนส่งเสริมภาพรวมด้านความยั่งยืนของโครงการ สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ประเมินมาตรฐานอาคารเขียว LEED โดยเมื่อเร็วๆ นี้ มีการใช้เทคโนโลยีนี้สำหรับการก่อสร้างสำนักงานใหญ่ของคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งอาคารดังกล่าวถูกจัดอยู่ในระดับแพลตินัม
“สำนักงานใหญ่ของโอลิมปิกเป็นตัวอย่างที่ดีมาก เราจึงนำเสนอเทคโนโลยีนี้ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นในตลาดเอเชียแปซิฟิกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากตลาดสาธาณูปโภคพื้นฐานและการก่อสร้างในภูมิภาคนี้ยังมีพื้นฐานแข็งแกร่ง”
สำหรับผลิตภัณฑ์เคลือบผิว VERDISEAL™ คือ เทคโนโลยีเคลือบพื้นผิวในระดับเดียวกัน ซึ่งมีการใช้สำหรับโครงการสวนลอยฟ้าทั่วโลก เพื่อปกป้องโครงสร้างก่อนการก่อสร้างสวนบนดาดฟ้าของตัวอาคาร ผลิตภัณฑ์นี้มีศักยภาพในการเติบโตในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งมีจำนวนสวนลอยฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างแพร่หลาย โดยในประเทศไทย ในขั้นตอนออกแบบอาคาร พบว่ามีการรวมสวนบนดาดฟ้าเข้าไว้ด้วยเสมอ
ผลิตภัณฑ์นี้มีประโยชน์หลายอย่างเมื่อใช้กับดาดฟ้าก่อนการสร้างสวน โดยประโยชน์สำคัญคือ การสร้างแนวป้องกันที่แข็งแรง ทะลุหรือซึมผ่านได้ยาก เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับดาดฟ้า จากปัญหาน้ำรั่วซึม ผลิตภัณฑ์นี้ มีความทนทานสูง ยืดหยุ่นได้คล้ายยาง และรองรับน้ำหนักสูงได้ ทั้งนี้ เมื่อใช้อย่างเหมาะสมถูกต้องจะช่วยป้องกันไม่ให้รากต้นไม้ทำลายหรือแทงผ่านชั้นเคลือบ ซึ่งในที่สุดสามารถป้องกันพื้นคอนกรีตและดาดฟ้าไม่ให้เสียหาย
นอกจากนวัตกรรมเทคโนโลยีเคลือบพื้นผิวแล้ว Dow ยังนำเสนอเทคโนโลยี “สารยึดเหนี่ยว” ภายใต้ชื่อ HYPOL™ ที่ใช้เป็นตัวกลางสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงสำหรับอุตสาหกรรมเกษตรและการปลูกพืชในเรือนกระจก รวมถึงสวนลอยฟ้า เนื่องจากเทคโนโลยี HYPOL™ จะนำดินและส่วนผสมเพื่อเพิ่มการเติบโต มาสร้างเป็นตัวกระตุ้นการเติบโตและช่วยเพิ่มผลผลิต โดยผลิตภัณฑ์สารยึดเหนี่ยว HYPOL™ จะเพิ่มความสามารถในการอุ้มน้ำและความพรุน ทำให้พื้นผิวอุ้มน้ำได้มากขึ้น ซึ่งความพิเศษนี้ทำให้สวนสามารถกักเก็บน้ำในตัวเอง หมายความว่า สามารถรดน้ำต้นไม้น้อยลง ไม่ต้องดูแลรักษามาก
“เทคโนโลยีนี้เป็นสิ่งใหม่สำหรับตลาดเอเชียแปซิฟิก เราจะนำความรู้จากการใช้งานในตลาดอเมริกาเหนือมาปรับใช้กับตลาดในภูมิภาคนี้” นายจาร์รอด กล่าว