DITP เร่งช่วยผู้ประกอบการไทยสู้ภัยโควิด-19 รุกปรับแผนจัดสัมมนาจาก “ห้องเรียน” สู่ “ไลฟ์สตรีมมิ่ง” พร้อมแบ่งปันกลยุทธ์การค้าผ่านหลักสูตรออนไลน์ มุ่งสร้างความพร้อมหลังผ่านวิกฤตให้ธุรกิจดำเนินได้ทันที
นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กล่าวว่า กรมฯ ตระหนักถึงความสำคัญที่จะต้องเดินหน้าพัฒนาผู้ประกอบการให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ภายใต้วิกฤตการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด - 19 ด้วยการประชุมหารือร่วมกันภายในกระทรวง ถึงการยกระดับมาตรการรองรับขั้นสูงสุด 3 มาตรการ ได้แก่ 1.ลดโอกาสการแพร่เชื้อเข้าสู่ประเทศไทยและชะลอการระบาด 2. เตรียมความพร้อมและป้องกันการระบาดในระดับบุคคลและข้าราชการ ด้วยการรณรงค์และประชาสัมพันธ์ให้ทราบถึงวิธีการป้องกันการแพร่เชื้อที่ถูกต้อง และ3.เร่งหาแนวทางแก้ไขปัญหาและผลกระทบทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นหลังจากวิกฤตดังกล่าวได้ผ่านพ้นไป
ดังนั้น งานสัมมนาที่กำหนดจัดขึ้นทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ได้มีการปรับแผนโครงการต่างๆ ให้เปลี่ยนมาเป็นรูปแบบออนไลน์เพื่อสะดวกในการเข้าถึงประชาชนทุกกลุ่ม ทุกระดับ ในรูปแบบดิจิทัลที่มีคุณภาพ ซึ่งเป็นการดำเนินการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ตามมาตรการของรัฐบาลเพื่อลดความเสี่ยงจากความใกล้ชิด และความเสี่ยงต่อการติดเชื้อในขณะนี้
นายนันทพงษ์ จิระเลิศพงษ์ ผู้อำนวยการ สถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ (NEA) กล่าวว่า “NEA ในฐานะหน่วยงานภายใต้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ มีภารกิจในการพัฒนาศักยภาพด้านการค้าระหว่างประเทศแก่ผู้ประกอบการในทุกระดับ มีความตระหนักถึงความสำคัญของการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส
จึงปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดสัมมนาจากเดิมซึ่งเป็นการจัดในรูปแบบห้องเรียน (Offline) มาเป็นรูปแบบถ่ายทอดสด (Live Streaming) 100 % ถือเป็นโอกาสปรับตัวสู่การเรียนรู้การทำการค้าระหว่างประเทศในรูปแบบเศรษฐกิจดิจิทัล และเพื่อให้สามารถเข้าถึงผู้ประกอบการในภูมิภาคต่างๆ ได้ในคราวเดียวกัน เป็นการนำเทคโนโลยีในรูปแบบดิจิทัลมาปรับใช้ และยังคงรักษามาตรฐานที่ดีในการจัดสัมมนา
สถาบันฯ ได้เตรียมปรับแนวทางการจัดโครงการอบรมและสัมมนาออนไลน์ ผ่าน 2 ช่องทาง ได้แก่ 1.Facebook Live ของเพจสถาบัน ที่เข้าถึงได้ง่ายและสะดวก และ2.การสื่อสารแบบสองทาง ผ่านช่องทาง Webinar ด้วยการเพิ่มระบบ Live Chat ให้สามารถมอนิเตอร์คำถามและข้อสงสัยตรงจากผู้ชมสัมมนาออนไลน์ได้แบบเรียลไทม์ รวมถึงเพื่อเป็นการรวบรวมสถิติการเข้าร่วมโครงการสัมมนา เพื่อสอดรับนโยบายของรัฐในการส่งมอบองค์ความรู้ให้กับผู้ประกอบการได้อย่างเต็มศักยภาพ โดยโครงการทั้งหมดตามแผนเดิมนั้น ยังคงดำเนินการจัดต่อไป เพียงแต่ปรับเปลี่ยนเป็นแบบออนไลน์ 100 %