ระบบนิเวศทางทะเล เป็นระบบนิเวศที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อทุกชีวิตบนโลก และส่งผลต่อสมดุลโดยรวมของระบบนิเวศอื่นๆ อีกทั้งยังเป็นระบบนิเวศที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ครอบคลุมพื้นที่ 3 ใน 4 ส่วนของโลก นอกจากนี้ แนวปะการังในระบบนิเวศทางทะเลยังเป็นระบบที่มีความหลากหลายทางชีวภาพที่ซับซ้อนมากที่สุดอีกด้วย สำหรับประเทศไทย เว็บไซต์ฐานข้อมูลความรู้ทางทะเล ระบุว่า ฝั่งทะเลอ่าวไทยมีพื้นที่ปะการังรวมทั้งหมดประมาณ 75,590 ไร่ ในขณะที่ปัจจุบันแนวปะการังในประเทศไทยมีแนวโน้มจะมีความเสื่อมโทรมมากขึ้น
บริษัท แอกซ่าประกันภัย จำกัด (มหาชน) ตระหนักถึงความสำคัญของระบบนิเวศแนวปะการังจึงจัดกิจกรรม “พลังใจแอกซ่า ร่วมปลูกปะการัง ฟื้นฟูชายฝั่งแสมสาร” ซึ่งสร้างประโยชน์อย่างยั่งยืนแก่สิ่งแวดล้อมและชุมชน ขณะเดียวกันก็ให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของพนักงาน และชุมชนในพื้นที่จึงร่วมมือกับมูลนิธิรักษ์ไทย ฐานทัพเรือสัตหีบ ผู้แทนชุมชุนในอำเภอสัตหีบ ครูและนักเรียนจากโรงเรียนวัดพลา จังหวัดระยอง และพนักงานที่เป็นจิตอาสา รวมจำนวนกว่า 120 คน ร่วมกันปลูกปะการัง จำนวน 350 กิ่ง เพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศชายฝั่ง ณ บริเวณค่ายพระมหาเจษฎาราชเจ้า อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี
นางสาวสุรีรัตน์ โมฬีชาติ ผู้อำนวยการบริหาร สายงานการตลาด บริษัท แอกซ่าประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “แอกซ่าประกันภัย ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของสังคมไทย เดินหน้าสานต่อการทำประโยชน์เพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้จัดกิจกรรมปลูกปะการัง เพื่อช่วยฟื้นฟูระบบนิเวศใต้ท้องทะเลด้วยการสร้างบ้านให้กับปลา และยังเป็นการส่งเสริมจิตสำนึกรักษ์ธรรมชาติให้แก่พนักงานและเยาวชนในพื้นที่ ซึ่งเยาวชนเหล่านี้จะเป็นกำลังสำคัญในการช่วยดูแลท้องทะเลอ่าวไทยอย่างยั่งยืนต่อไป”
ทั้งนี้ ก่อนการปลูกปะการัง วิทยากรจากฐานทัพเรือสัตหีบ ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับความสำคัญของระบบนิเวศใต้ทะเลและปะการัง ตลอดจนวิธีการปลูกปะการังในแนวปะการังเทียมอย่างถูกต้องแก่พนักงานและนักเรียนจากโรงเรียนวัดพลา
นอกจากนี้ แอกซ่ายังมอบทุนการศึกษาและเลี้ยงอาหารกลางวัน พร้อมทำกิจกรรมที่สนุกสนานแฝงความรู้เรื่องการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมร่วมกับนักเรียนในโรงเรียนวัดพลา
แอกซ่าประกันภัย เป็นสมาชิกของกลุ่มแอกซ่า ยึดมั่นในการดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมมาอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งบำเพ็ญประโยชน์ใน 3 ด้านหลัก ได้แก่ 1. ด้านสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ (Environment and climate change) 2. ด้านสุขภาพและการป้องกันโรค (Health and disease prevention) และ 3. ด้านความไม่เท่าเทียมและการกีดกันทางสังคม (Inequalities and social inclusion) ทั้งนี้ ในปี 2561 พนักงานของแอกซ่า 34,000 คน ใน 38 ประเทศทั่วโลก ใช้เวลา 48,000 ชั่วโมงในการบำเพ็ญสาธารณกุศลต่างๆ ภายใต้โครงการ AXA Hearts in Action: พลังใจแอกซ่า