xs
xsm
sm
md
lg

รองนายกฯ กำชับหน่วยงานขับเคลื่อนกลไกความร่วมมือในการฟื้นฟูและรักษาผลประโยชน์ทางทะเล

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ประชุมคณะกรรมการนโยบายการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล เพื่อขับเคลื่อนแก้ปัญหาความเสื่อมโทรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ขยายวงกว้างขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยที่ประชุมรับทราบสถานการณ์โลกและภูมิภาค ที่มีการใช้ประโยชน์ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมทางทะเลเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องแบบไม่มีทิศทาง ส่งผลต่อความเสื่อมโทรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งมากขึ้นและขยายวงกว้าง โดยเฉพาะประเทศไทย มีมูลค่าของเศรษฐกิจภาคทะเล ปี 2557 สูงถึง 24 ล้านล้านบาท แต่ปัจจุบันประเทศไทยเข้าสู่การสูญเสียผลประโยชน์ทางทะเล โดยเฉพาะการเสื่อมโทรมของทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอย่างต่อเนื่อง

รวมทั้งรับทราบโครงสร้างอัตรากำลังของศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลและแผนปฏิบัติการ ปี 2563-2565 ที่เน้นการดำเนินงานใน 5 กลยุทธ์ คือ การเพิ่มขีดความสามารถในการป้องกัน ปราบปราม ระงับ ยับยั้ง แก้ไขหรือบรรเทาปัญหา เหตุการณ์สาธารณภัยและการกระทำผิดกฎหมาย การพัฒนาขีดความสามารถและมาตรฐานของบุคลากร การพัฒนาสถานที่และสิ่งอำนวยความสะดวก การพัฒนาระบบควบคุมบังคับบัญชาและเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และการประชาสัมพันธ์และการสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน

นอกจากนี้ ที่ประชุมฯ เห็นชอบแต่งตั้งคณะอนุกรรมการที่ปรึกษาและจัดการความรู้เพื่อผลประโยชน์แห่งชาติทางทะเล เพื่อเป็นกลไกทางวิชาการ สนับสนุนข้อมูลทางนโยบายและการขับเคลื่อนการปฏิบัติ พร้อมทั้งรับทราบความคืบหน้าอนุบัญญัติรองรับพระราชบัญญัติการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล พ.ศ. 2562

ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร กล่าวย้ำให้หน่วยงานหลักของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ต้องบังคับใช้กฎหมายและให้ความสำคัญเดินหน้าขับเคลื่อนกลไกในความรับผิดชอบสนับสนุนการดำเนินงานภายใต้ พ.ร.บ.การรักษาผลประโยชน์แห่งชาติทางทะเลให้โปร่งใสและบังเกิดผลอย่างจริงจัง โดยต้องมีตัวชี้วัดสะท้อนกับสถานการณ์ความเป็นจริง มีการวางแผนเชิงพื้นที่ทางทะเล ขอให้ร่วมกันสร้างความปลอดภัยทั้งมิติในและนอกประเทศไปด้วยกัน รวมทั้งให้ปรับปรุงกฎหมายภายในให้สอดคล้องกับกฎหมายสากล โดยมุ่งเน้นความยั่งยืนและประโยชน์ต้องตกกับคนไทยส่วนใหญ่ คำนึงถึงทั้งมิติความมั่นคง มิติเศรษฐกิจทางทะเล และมิติของสุขภาพทางทะเลควบคู่ไปด้วยกัน ขณะเดียวกัน ต้องสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนและต้องไม่ละเลยรับฟังผู้ที่ได้รับผลกระทบหรือผู้มีส่วนได้เสีย เพื่อขยายพลังความร่วมมือในการฟื้นฟูและรักษาผลประโยชน์ทางทะเลไปด้วยกัน