บริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด ร่วมกับบริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ผนึกกำลังร่วมกันใน “โครงการบริหารจัดการยานยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจรเพื่อขนส่งสินค้า-พัสดุไปรษณีย์” นำยานยนต์ไฟฟ้าที่ขับเคลื่อนด้วยกำลังไฟฟ้า 100% มาทดลองขนส่งไปรษณีย์ภัณฑ์ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล
นับเป็นความร่วมมือภายใต้แนวคิด “ระบบขนส่งอย่างยั่งยืน” เพื่อลดปัญหาการเกิดมลภาวะทางอากาศ ตั้งเป้านำรถขนส่งไปรษณีย์ภัณฑ์ไฟฟ้าใช้งานกว่า 100 คันภายใน 4 ปี นำประเทศไทยสู่สมาร์ทซิตี้
กาหลง ทรัพย์สอาด รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานปฏิบัติการ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) กล่าวถึงแนวคิดที่มาของการนำรถยนต์ไฟฟ้ามาทดลองวิ่งให้บริการขนส่งไปรษณีย์ภัณฑ์ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล เนื่องจากปัจจุบันการคมนาคมขนส่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่ก่อให้เกิดมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม และยังมีปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM2.5ที่มีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปณท ในฐานะหน่วยงานด้านการขนส่งโลจิสติกส์ที่มีส่วนในการใช้เส้นทางคมนาคมเพื่อประกอบธุรกิจ ตระหนักถึงแนวคิดการนำระบบขนส่งอย่างยั่งยืน (Sustainable Transport) จึงได้จับมือกับกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีพลังงานของบริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ผู้นำธุรกิจพลังงานแบบครบวงจรแห่งภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ในการขับเคลื่อน “โครงการบริหารจัดการยานยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจรเพื่อขนส่งสินค้า-พัสดุไปรษณีย์”
ทั้งนี้ บ้านปูฯ ได้ส่งมอบยานยนต์ขับเคลื่อนด้วยกำลังไฟฟ้า 100% ให้ ปณท ทดลองใช้ขนส่งไปรษณีย์ภัณฑ์ ได้แก่ รถตู้ไฟฟ้า ที่สามารถขับเคลื่อนได้ในระยะทางประมาณ 250-300 กิโลเมตร บรรทุกสิ่งของได้ 300-700 กิโลกรัม มาให้ทดลองใช้ในพื้นที่คลองหลวง จ.ปทุมธานี และรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่สามารถขับเคลื่อนได้ในระยะทางประมาณ 60-80 กิโลเมตร บรรทุกสิ่งของได้ 30-80 กิโลกรัม มาให้ทดลองใช้ในพื้นที่สามเสนใน จ.กรุงเทพฯ เพื่อนำร่องการพัฒนาเทคโนโลยีที่มีการใช้พลังงานสะอาด และสนับสนุนแผนการลดมลภาวะทางอากาศให้เป็นศูนย์ ตลอดจนส่งเสริมการใช้เชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพ
“การทดลองใช้ยานยนต์ไฟฟ้านำจ่ายครั้งนี้ นอกจากช่วยประหยัดพลังงาน แล้วยังลดค่าซ่อมบำรุงและค่าเชื้อเพลิงได้มากกว่าปกติ เนื่องจากรถตู้ไฟฟ้าใช้เวลาในการชาร์จไฟฟ้าเพียง 4-6 ชั่วโมง และรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าใช้เวลาในการชาร์จเพียง 2 ชั่วโมง ก็สามารถใช้งานยานยนต์ดังกล่าวได้นานหลายวันขึ้นอยู่กับระยะทางที่วิ่ง ปณท ยังมีโครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาส่งเสริมการประหยัดพลังงานในการขนส่งไปรษณีย์ภัณฑ์ และจัดหาสถานที่สำหรับการติดตั้งสถานีจ่ายไฟ (Charging Station) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำรถจากพลังงานไฟฟ้ามาใช้ในระยะยาว ตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้งานให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด และตอกย้ำความพร้อมการเป็นฟันเฟืองหลักด้านโลจิสติกส์ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลและธุรกิจ e-Commerce ของไทย อีกทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็นสมาร์ทซิตี้”
ด้าน เจมส์ รามา ปัทมินทรวิภาส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู อินฟิเนอร์จี จำกัด กล่าวว่า บ้านปูฯ เดินหน้ามุ่งขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยคำนึงถึงประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการ หรือESG ควบคู่ไปกับการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีพลังงานให้ก้าวทันโลกยุคดิจิทัล และรองรับเทรนด์การใช้พลังงานสะอาดรูปแบบใหม่ในอนาคต ตามกลยุทธ์ “Greener & Smarter” ดังนั้น ความร่วมมือกับไปรษณีย์ไทย หรือ ปณท ในโครงการนำร่องนี้ จึงเป็นโครงการระดับแฟล็กชิพที่จะช่วยกระตุ้น และผลักดันให้ทุกภาคส่วนหันมาให้ความสำคัญ และใช้พลังงานสะอาดกันมากขึ้น โดยเฉพาะยานยนต์ที่ไม่ก่อให้เกิดมลพิษ (Green Vehicles) เพื่อช่วยอนุรักษ์พลังงาน ลดปัญหามลพิษทางอากาศในระยะยาว
“บ้านปูฯ ได้พัฒนาธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า ภายใต้แนวคิด Mobility as a service โดยถือเป็นผู้ให้บริการยานยนต์ไฟฟ้าและขนส่งแบบครบวงจร (Integrated Electric Vehicle Fleet Management) รายแรกของประเทศไทย พร้อมมอบโซลูชันและบริการแบบ one stop service ตั้งแต่ให้คำปรึกษา ศึกษารูปแบบความต้องการใช้งานและจัดหายานยนต์ที่เหมาะกับการดำเนินงานของแต่ละองค์กร ดูแลบริการหลังการขายให้กับลูกค้าอย่างดีที่สุด ตลอดจนนำเทคโนโลยีฮาร์ดแวร์ และเทคโนโลยีดิจิทัล อาทิ การใช้งานผ่านแอปพลิเคชัน มาผสานเข้าด้วยกันอย่างเป็นระบบ เพื่อเสริมประสิทธิภาพในบริการหลังการขายที่ตอบโจทย์การดำเนินงานในยุคดิจิทัล การได้รับความไว้วางใจจาก ปณท จึงสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพและความเชื่อมั่นในความเชี่ยวชาญของบ้านปูฯ ได้เป็นอย่างดี”
โครงการดังกล่าวได้คัดเลือกยานยนต์ไฟฟ้าที่เหมาะกับการนำจ่ายพัสดุ-สินค้า รวมถึงมีเทคโนโลยีการบริหารประสิทธิภาพ ที่แสดงผลการทำงาน สมรรถนะเครื่องยนต์ รวมถึงแจ้งเตือนเหตุขัดข้องแบบเรียลไทม์ ทำให้สามารถนำข้อมูลไปวิเคราะห์ และวางแผนการซ่อมบำรุงเชิงป้องกัน (Preventive Maintenance) เพื่อให้รถอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานอยู่เสมอ
นอกจากนี้ ยังให้บริการหลังการขายด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยในราคาที่เหมาะสม พร้อมยังเตรียมแผนพัฒนาแอปพลิเคชันให้กับ ปณท เพื่อเพิ่มศักยภาพการขนส่งพัสดุให้สะดวก รวดเร็ว และแม่นยำ พร้อมสามารถตรวจสอบความคุ้มค่าจากการประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยสนับสนุนแนวคิดด้านระบบขนส่งอย่างยั่งยืน โดยคาดการณ์ว่าหาก ปณท หันมาใช้จักรยานยนต์ไฟฟ้าในการขนส่งจำนวน 10,000 คัน ภายในระยะเวลา 1 ปี จะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้มากกว่า 130,000 ต้น หรือเท่ากับการปลูกป่าประมาณ 190 ไร่ และช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุง และค่าเชื้อเพลิงได้สูงสุด 200 ล้านบาทต่อปี
นอกจากความร่วมมือในครั้งนี้ บ้านปูฯ ยังเดินหน้านำเสนอยานยนต์ไฟฟ้าที่เหมาะกับการดำเนินงานของ ปณท อย่างต่อเนื่อง เช่น สามล้อไฟฟ้า (e-Tricycle) รถบรรทุกไฟฟ้าพร้อมตู้พ่วง (e-Truck) หรือ รถเข็นไฟฟ้า (e-trolley) เป็นต้น ขณะเดียวกันจะมุ่งมั่นวิจัย และพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีพลังงานสะอาด เพื่อมอบสินค้า บริการ และโซลูชันที่ตอบโจทย์ความต้องการของทุกองค์กรได้อย่างครอบคลุม