xs
xsm
sm
md
lg

รมว.วิทย์ฯ คนใหม่ กำชับขับเคลื่อนด้วยงานวิจัยและนวัตกรรม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online



ดร.อรรชกา ศรีบุญเรือง รมว. วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตรวจเยี่ยม สำนักงานคณะกรรการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ หรือ สวทน. ในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่ เพื่อรับทราบข้อมูลการดำเนินงานและให้นโยบาย โดยมี กิติพงค์ พร้อมวงค์ เลขาธิการ สวทน. พร้อมผู้บริหารระดับสูง ให้การต้อนรับและนำเสนอข้อมูลผลการดำเนินงาน
ดร.กิติพงค์ กล่าวถึงผลงานเด่นและกิจกรรมเร่งด่วนของ สวทน. ใน 4 โครงการ ได้แก่ โครงการสตาร์ทอัพ สวทน. ร่วมกับมหาวิทยาลัยจำนวน 30 แห่งทั่วประเทศ ปรับปรุงหลักสูตรและการเรียนการสอน ให้นักศึกษาทุกคณะมีทักษะการธุรกิจนวัตกรรม โดยมีจุดมุ่งหมายให้นักศึกษากว่า 30,000 คน ทั่วประเทศ นอกจากนี้ยังได้เร่งผลักดันปรับปรุงกฎหมายและกฎระเบียบต่างๆ เพื่อให้ผู้ประกอบการสตาร์อัพสามารถก้าวมาสู่การเป็นนักรบเศรษฐกิจใหม่ ตามวิสัยทัศน์ Thailand 4.0 ได้
ดร.กิติพงค์ฯ กล่าวว่า อีกหนึ่งโครงการที่สำคัญคือ โครงการที่ให้โอกาสนักเรียนที่จบการศึกษาสายสามัญจากโรงเรียนในชนบท ได้มีโอกาสปฎิบัติงานจริงในตำแหน่งงานในสายการผลิต และนำเอาความรู้จากงานที่ทำเป็นส่วนหนึ่งของบทเรียน และวิชาเรียนในหลักสูตร คือ โครงการบูรณาการการเรียนกับการทำงาน (STI-WiL) โดย สวทน. ร่วมกับ สถานประกอบการอุตสาหกรรม วิทยาลัยเทคนิค มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยี โดยคาดการณ์ว่าในปีการศึกษา 2560 จะมีนักศึกษาเข้าโครงการกว่า 300 คน ปัจจุบันมีสถานประกอบการในอุตสาหกรรมด้านต่างๆ เข้าร่วมโครงการ 11 บริษัท และมี 5 บริษัทได้ขอรับสิทธิประโยชน์จาก โครงการซุปเปอร์คลัสเตอร์ของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ซึ่งมีมูลค่าการลงทุนรวมกันมากกว่า 35,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ สวทน. ยังได้นำเสนอโครงการการคาดการณ์อนาคตเทคโนโลยีตามห่วงโซ่อุปทานของผลิตภัณฑ์ที่สำคัญ ด้วยวิธีการคาดการณ์อนาคตเทคโนโลยี ที่เป็นการดำเนินงานร่วมกับภาคอุตสาหกรรมและภาคการศึกษา โดยการเริ่มต้นจากการวิเคราะห์หาผลิตภัณฑ์ที่สำคัญ และนำผลิตภัณฑ์นั้น ๆ มาวิเคราะห์ในรายละเอียดนำไปสู่โรดแม็ป สำหรับผลิตภัณฑ์ที่สำคัญของประเทศไทย ซึ่งจะมีส่วนช่วยสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมในเชิงเทคโนโลยี เลขา สวทน. กล่าว
สำหรับโครงการที่สำคัญที่จะเร่งดำเนินการขับเคลื่อน ในปี 2560 นั้น ดร.กิติพงค์ฯ กล่าวว่า คือ โครงการนวัตกรรมอาหาร โดยจะมีความร่วมมือกับหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชน มหาวิทยาลัยทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงหน่วยงานภายในของกระทรวงวิทยาศาสตร์ที่มีความพร้อมและศักยภาพสูง อาทิ สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน สถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ ศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ และสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ รวมถึง กระทรวงสาธารณสุข โดย สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก และโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ในช่วงเช้า ดร.อรรชกาฯ ได้เข้าร่วมประชุมเตรียมการจัดทำร่างแผนการขับเคลื่อนและปฏิรูประบบวิจัยแบบบูรณาการของประเทศและกรอบยุทธศาสตร์การวิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ 20 ปี โดยมีสวทน. เป็นฝ่ายเลขานุการร่วมของคณะทำงานฯ โดยเน้นย้ำให้เร่งดำเนินการร่างกฎหมายต่างๆ ที่จะช่วยผลักดันการปฏิรูประบบวิจัยและนวัตกรรมของประเทศ อาทิ พ.ร.บ. ส่งเสริมการใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยและนวัตกรรม กฎหมาย กฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการรับรองมาตรฐานและการให้ใบอนุญาต ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว นอกจากนี้ ยังเสนอให้ฝ่ายเลขานุการฯ ปรับปรุงแผนการขับเคลื่อนและปฏิรูประบบวิจัยแบบบูรณาการของประเทศให้สอดคล้องกับภารกิจของคณะอนุกรรมการภายใต้สภานโยบายวิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (นวนช.) แต่ละชุด เพื่อใช้เป็นกรอบการทำงานให้กับคณะอนุกรรมการฯ รวมถึงการเชิญภาคส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยและนวัตกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มประชารัฐมาร่วมดำเนินการ เพื่อให้กรอบยุทธศาสตร์การวิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ 20 ปี มีความชัดเจน ครอบคลุม และตอบสนองความต้องการของประเทศ ก่อนนำเสนอต่อ นวนช. และยังช่วยสร้างเครือข่ายกับหน่วยงานในภาคส่วนต่างๆ ซึ่งจะนำไปสู่การขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การวิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ อันจะเป็นผลดีต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทยต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น