บริษัทชั้นนำในตลาดหุ้นทั่วโลกฝ่าด่านคำถามเจาะลึกกว่า 100 ข้อ
บริษัทที่สอบผ่านได้คะแนนสูงสุดด้านจริยธรรม และธรรมาภิบาล การบริหารนโยบายต่อสิ่งแวดล้อม
บจ.ไทย 14 บริษัท ได้เข้าเป็นสมาชิก DJSIกลุ่มตลาดเกิดใหม่ และมี 5 กิจการขึ้นแท่น DJSI World
K Bank เท่สุดเป็นธนาคารเดียวในไทยและของอาเซียนที่ขึ้นแท่นระดับโลก
ป.ต.ท. ติดอับดับ 5 ปีซ้อน
กระแสการตัดสินใจลงทุนของนักลงทุนทั่วโลกโดยเฉพาะกองทุนระดับโลกส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจที่ให้ความสำคัญสิ่งแวดล้อม สังคม และบริหารตามหลักบรรษัทภิบาล (Environmental, Social, Governance: ESG) เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จึงมีความมุ่งมั่นส่งเสริมให้บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงแนวทางดังกล่าวซึ่งเป็นองค์ประกอบของการพัฒนาอย่างยั่งยืน เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายของนักลงทุนระดับโลก
ปีนี้ บริษัทจดทะเบียน 33 บริษัท ได้รับเชิญให้เข้ารับการประเมินผลการดำเนินงานด้านความยั่งยืน ซึ่งมีบริษัทไทยเข้าร่วมประเมิน 24 บริษัท (คิดเป็น 73% จากบริษัทไทยที่ได้รับเชิญทั้งหมด 33 บริษัท) ปรากฎว่าผ่านเกณฑ์การพิจารณาให้เข้าเป็นสมาชิก DJSI 14 บจ.
เกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า กลยุทธ์ที่ตลาดหลักทรัพย์ฯมุ่งพัฒนาบริษัทจดทะเบียนไทยให้ดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม (Environmental) สังคม (Social) ตามหลักบรรษัทภิบาล (Governance) หรือ ESG เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน และส่งเสริมให้หลักทรัพย์ไทยได้รับการยอมรับเป็น asset class ที่มีความโดดเด่นด้านคุณภาพและน่าสนใจสำหรับผู้ลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันผู้ลงทุนได้นำเรื่องการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนมาเป็นประเด็นตัดสินใจลงทุนควบคู่กับการพิจารณาเรื่องผลประกอบการ บริษัทที่ดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึง ESG จะเป็นทางเลือกอันดับแรกของนักลงทุนโดยเฉพาะกองทุนระดับโลก เพราะได้รับความน่าเชื่อถือในเรื่องการดำเนินงานอย่างโปร่งใส การมีความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้เสีย การคำนึงถึงการบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ การปรับตัวและเตรียมพร้อมเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ
DJSI เป็นดัชนีหลักทรัพย์ของบริษัทชั้นนำระดับโลกที่ผ่านการประเมินความยั่งยืน แบ่งเป็น 24 กลุ่มอุตสาหกรรมหลัก ประกอบด้วย 60 อุตสาหกรรมย่อยที่มีผู้ลงทุนสถาบันและกองทุนต่างๆ ทั่วโลกให้ความสนใจลงทุนคิดเป็นมูลค่าเงินลงทุนกว่า 5 พันล้านเหรียญสหรัฐ
ปี 2559 DJSI คัดเลือกบริษัท 3,420 บริษัทในตลาดทุนทั่วโลกด้วยการพิจารณามูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด ซึ่งในจำนวนดังกล่าวเป็นบริษัทไทยจำนวน 33 บริษัท ในการเชิญเข้าร่วมรับการประเมินผลการดำเนินงานด้านความยั่งยืน ซึ่งบริษัทจดทะเบียนจากประเทศไทยเข้าร่วมประเมิน 24 บริษัท ถูกคัดเลือก จนเหลือ 14 บจ. ที่ได้เป็นสมาชิกใน DJSI ดังนี้
•กลุ่มดัชนี DJSI World 5 บริษัท ได้แก่ 1.บมจ.กสิกรไทย (KBANK) 2. บมจ.ปตท. (PTT) 3. บมจ.ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) 4. บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) และ 5. บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC)
•กลุ่มดัชนี DJSI Emerging Markets 14 บริษัท ได้แก่ 1. บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) 2. บมจ. ท่าอากาศยานไทย (AOT) 3. บมจ.บ้านปู (BANPU) 4. บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) 5. บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) 6. บมจ.ไออาร์พีซี (IRPC) 7. บมจ.กสิกรไทย (KBANK) 8. บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) 9. บมจ.ปตท. (PTT) 10. บมจ.ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) 11. บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) 12. บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) 13. บมจ.ไทยออยล์ (TOP) 14. บมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป (TU) (มีบริษัทไทยอีก 1 แห่งที่ได้รับการคัดเลือกเข้าดัชนีดังกล่าว คือ บมจ.ไทยเบฟเวอเรจ ซึ่งจดทะเบียนที่ตลาดหุ้นสิงคโปร์)
กสิกรไทย ชู green DNA ธงนำ
ความสำเร็จของธนาคาร กสิกรไทย นั้น เป็นเพราะบัณฑูร ล่ำซำ ประธานกรรมการ มีเป้าหมายดำเนินธุรกิจ ภายใต้การพัฒนาอย่างยั่งยืนจนผ่านเกณฑ์มาตรฐานระดับโลก คือ การดำเนินงานที่คำนึงถึงผลกระทบด้านเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม เพื่อประโยชน์สูงสุดต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม และมุ่งมั่นรักษามาตรฐานความยั่งยืนและพัฒนาอย่างต่อเนื่องให้ดีขึ้น
โดยการปลูกฝังแนวคิดเรื่องนี้ให้หยั่งรากลึกลงในจิตสำนึกของพนักงานทุกคนจนกลายเป็น “กรีน ดีเอ็นเอ” ให้การปฏิบัติงานภายใต้แนวคิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนซึมซับอยู่ในทุกกระบวนการธุรกิจ ซึ่งธนาคารจะเดินหน้าพัฒนากระบวนการทำงานในทุกมิติให้ได้มาตรฐานที่ดีขึ้น เพื่อขับเคลื่อนให้องค์กรเติบโตอย่างมั่นคง เป็นธนาคารแห่งความยั่งยืน นำไปสู่การพัฒนาประเทศในภาพรวม และสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนในระดับสากล
ทั้งนี้ ธ.กสิกรไทยครองมาตรฐานความยั่งยืนระดับโลก เป็นธนาคารแห่งแรกและแห่งเดียวในไทยและอาเซียน ที่ได้รับคัดเลือกเป็นสมาชิกดัชนีแห่งความยั่งยืน Dow Jones Sustainability Indices (DJSI) ประจำปี 2559 ทั้งในระดับโลก (World) และกลุ่มตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market) สะท้อนมาตรฐานการดำเนินงานด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก
การที่ธนาคารได้รับการคัดเลือกให้เป็นสมาชิกดัชนี DJSI สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จที่เกิดจากวิสัยทัศน์ของคณะกรรมการที่เล็งเห็นถึงเรื่องการพัฒนาเพื่อความยั่งยืนเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องดำเนินการให้บรรลุผลอย่างเป็นรูปธรรมนำไปสู่การกำหนดโครงสร้างการจัดการในองค์กรที่มีประสิทธิภาพมีการแต่งตั้งกรรมการผู้จัดการ 3คน ทำงานร่วมกันในการสร้างวัฒนธรรมของการพัฒนาเพื่อความยั่งยืน รวมถึงการดูแลและพัฒนาศักยภาพพนักงานอย่างต่อเนื่อง
ปตท.ติดอับดับ 5 ปีซ้อน
เทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) เปิดเผยว่า ท่ามกลางความท้าทายของอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซ ที่ต้องเผชิญกับสถานการณ์ราคาน้ำมันที่ตกต่ำและความผันผวนของเศรษฐกิจโลก ปตท.ได้ดำเนินธุรกิจตามแนวทางความยั่งยืน เสริมสร้างความเข้มแข็งและขีดความสามารถในการแข่งขันขององค์กร โดยยึดหลักการประเมินที่สำคัญทั้งการรักษาสมดุลของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย สร้างความมั่นคงทางพลังงานในราคาที่เป็นธรรม บนพื้นฐานของการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ โปร่งใส ตรวจสอบได้ โดยคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสังคม ชุมชนและสิ่งแวดล้อม
“การบริหารจัดการอย่างยั่งยืนจะเป็นภูมิคุ้มกันที่เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับองค์กรในระยะยาว การได้รับการจัดอันดับ DJSI ในครั้งนี้ ถือเป็นความภาคภูมิใจในฐานะบริษัทพลังงานแห่งชาติที่สามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืนในระดับโลก”
ทั้งนี้ ปตท.ได้รับการคัดเลือกให้ติดอยู่ในดัชนีความยั่งยืนของดาวโจนส์ (DJSI) อย่างต่อเนื่อง โดยในการประกาศรายชื่อล่าสุดประจำปี 2016 นั้น นับเป็นการติดกลุ่มดัชนี DJSI ต่อเนื่องกันถึง 5 ปีซ้อน ซึ่งนอกจากผลงานการติดอันดับของปตท.แล้ว บริษัทในกลุ่มปตท.ประกอบด้วย บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) บริษัท พีทีทีโกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ได้ผ่านการประเมินเป็นสมาชิก DJSI ต่อเนื่องครบทุกบริษัท นอกจากนี้ ปตท.สผ.ยังได้รับคัดเลือกเป็น Industry Leader ของอุตสาหกรรมพลังงาน ประเภท Upstream และไทยออยล์ ได้รับคัดเลือกเป็น Industry Leader ของอุตสาหกรรมพลังงาน ประเภท Refining อีกด้วย
ความยั่งยืนชี้อนาคต
ธีรพงศ์ จันศิริ ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป กล่าวว่า ความยั่งยืนมีความสำคัญต่ออนาคตของอุตสาหกรรมและโลก บริษัทจะดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใสและแนวปฏิบัติด้านจรรยาบรรณ เพื่อประโยชน์ของสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจและสังคม เพราะความยั่งยืนเป็นความจำเป็นระดับโลกที่ต้องการพันธกิจระดับโลก บริษัทต้องการส่งเสริมให้ทั้งอุตสาหกรรมอาหารทะเลทำงานร่วมกันเพื่อมุ่งสู่ความยั่งยืน
โดยผลักดันกลยุทธ์เพื่อความยั่งยืน SeaChange® การใช้จรรยาบรรณธุรกิจและแนวปฏิบัติด้านแรงงาน และแนวทางปฏิบัติที่สำคัญด้านอื่นๆ การที่องค์กรสากล ซึ่งเป็นหน่วยงานอิสระให้การยอมรับความพยายามและความเป็นเลิศด้านการดำเนินงาน