xs
xsm
sm
md
lg

ถอดรหัส SET Social Impact ผสานพลังธุรกิจหนุนสังคม/ ดร.สุวัฒน์ ทองธนากุล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ถ้าสังเกตให้ดีผู้บริหารยุคนี้ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กำลังตอกย้ำความชัดเจนของหมุดหมายการสร้างความยั่งยืนแก่ภาคธุรกิจและภาคสังคมที่ต้องไปด้วยกัน
แม้หน้าที่หลักตลอด 40 กว่าปีที่ผ่านมาของการเป็นศูนย์กลางการซื้อขายและการดำเนินธุรกรรมของตราสารต่างๆ ในตลาดทุนที่เชื่อมโยงความต้องการของบริษัทจดทะเบียนและผู้ลงทุนอย่างมีบทบาทสำคัญในระบบเศรษฐกิจไทย
การเปิดตัวโครงการ SET Social Impact เมื่อเร็วๆ นี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ดำเนินการให้เป็นเวทีแรกที่ช่วยให้ภาคธุรกิจโดยเฉพาะบริษัทจดทะเบียน (บจ.) มีช่องทางแบ่งปันทรัพยากรที่มีพร้อมทั้งกำลังเงิน คนและความรู้ความชำนาญของภาคธุรกิจสู่ภาคสังคม และกิจการเพื่อสังคม (Social Enterprise) เพื่อการแก้ไขปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อม

ทั้งนี้ เกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ก็ชี้ให้เห็น อีกบทบาทหนึ่งของตลาดหลักทรัพย์ฯ คือการส่งเสริมตลาดทุนที่มีคุณภาพ ทั้งการสร้างองค์ความรู้ทางการเงินแก่ผู้ที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งการทำงานคู่ขนานกับบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอในการพัฒนากระบวนการทางธุรกิจที่มุ่งสร้างความยั่งยืน โดยมิได้คำนึงถึงแต่ผลการดำเนินงานที่เป็นตัวเงินเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับการแสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม สังคมและบรรษัทภิบาลหรือเรียกย่อว่า ESG เพื่อมุ่งสร้างผลลัพธ์ที่ดีทางสังคมด้วย
“ปัจจุบันมีธุรกิจจำนวนมากที่ดำเนินกิจการโดยคำนึงถึงสังคมและสิ่งแวดล้อม มีทรัพยากรที่ต้องการแบ่งปัน ขณะที่ยังมีองค์กรภาคสังคมและกิจการเพื่อสังคมจำนวนไม่น้อยที่พบอุปสรรคในการดำเนินงาน เนื่องจากขาดปัจจัยหลายด้าน อาทิ ด้านการเงิน การตลาด กฎหมาย การบริหารบุคคล ช่องทางการจำหน่าย ดังนั้น โครงการ SET Social Impact จึงเกิดขึ้นเพื่อเติมเต็มการทำงานซึ่งกันและกัน โดยภาคธุรกิจจะมีช่องทางในการแบ่งปันทรัพยากรสู่ภาคสังคม อันเป็นส่วนหนึ่งของการลงทุนเพื่อสังคม (Social Impact Investment) ที่ก่อให้เกิดผลลัพธ์ทางสังคม ไม่ว่าจะเป็นการลดผลเชิงลบหรือเพิ่มผลเชิงบวกก็ตาม” เกศรากล่าว
เกศรา มัญชุศรี
การทำให้ทั้งสองภาคส่วนได้เชื่อมโยงการทำงานร่วมกันเพื่อสร้างผลลัพธ์ทางสังคม จึงเป็นจุดเริ่มต้นของโครงการนี้ โดยดำเนินการผ่านเว็บไซต์ www.setsocialimpact.com และกิจกรรมส่งเสริมความรู้และสื่อสารการตลาดในหลายรูปแบบ

นี่เป็นการเปิดพื้นที่ออนไลน์ให้มีการนำเสนอทั้งข้อมูลของภาคธุรกิจและภาคสังคม โดยด้านภาคธุรกิจจะมีพื้นที่เรียกว่า ImpactBiz สำหรับนำเสนอข้อมูลเด่นของการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคมและบรรษัทภิบาล (ESG) ทั้งที่อยู่ในกระบวนการธุรกิจ และนอกกระบวนการธุรกิจที่สำคัญ โดยแสดงตัวว่าพร้อมสนับสนุนทั้งที่เป็นเงินทุนและที่ไม่ใช่เงินทุน อาทิ ยินดีซื้อสินค้าหรือบริการของกิจการเพื่อสังคม การสนับสนุนสถานที่ ช่องทางการจัดจำหน่ายหรือสนับสนุนความรู้จากความเชี่ยวชาญของบุคลากร เช่น ด้านการตลาด กฎหมายและการบริหารทรัพยากรบุคคล เป็นต้น

ขณะเดียวกัน www.setsocialimpact.com ก็มีเมนู ImpactCreator เป็นพื้นที่ให้องค์กรภาคสังคมและกิจการเพื่อสังคมได้นำเสนอข้อมูลเด่นในการดำเนินงานที่มุ่งแก้ไขปัญหาสังคม พร้อมทั้ง สามารถระบุความต้องการสนับสนุนเพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ยังมีเมนู Impactopia ที่เป็นศูนย์รวมข้อมูลการแบ่งปันทั้งในระดับองค์กรและบุคคล เมนู ImpactViewfinder และ ImpactBuzz เป็นศูนย์รวมข้อมูลความรู้และข่าวสารที่เป็นประโยชน์ ซึ่งเปิดรับจากทุกองค์กรที่ร่วมเป็นเครือข่าย ขณะนี้ได้แสดงตัวอย่างความสำเร็จของโครงการกิจการเพื่อสังคมของบมจ.บางจาก ปูนซิเมนต์ไทย และบริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)

เมื่อภาคธุรกิจแสดงความประสงค์จะสนับสนุนภาคสังคม ฝ่ายพัฒนาเพื่อสังคมของตลาดหลักทรัพย์ฯ จะเป็นตัวกลางติดต่อภาคสังคม เพื่อเชื่อมโยงให้เกิดการทำงานร่วมกัน ซึ่งถือเป็นการสร้างความเข้มแข็งให้กับภาคสังคมที่ยังมีความต้องการความสนับสนุน

ในขณะที่ภาคสังคมหรือกิจการเพื่อสังคม ที่ต้องการปัจจัยสนับสนุน ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะพิจารณาว่าเหมาะที่จะเชื่อมโยงกับกิจการธุรกิจใด และต้องมีการส่งเสริมในด้านใดบ้าง เพื่อให้สามารถทำงานกับภาคธุรกิจได้อย่างสอดคล้องกัน เพราะเท่าที่ดูจากข้อมูลในเว็บนี้หลายกิจการเพื่อสังคมก็ไม่ต้องการเงินทุน แต่อยากให้ช่วยด้านการตลาด เป็นต้น

ข้อคิด...
การริเริ่มโครงการ SET Social Impact ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ครั้งนี้นับเป็นจังหวะที่ดี เพราะภาคธุรกิจชั้นนำต่างก็กำลังหาแนวทางและบทบาทออกตัวในบริบทใหม่ของ CSR ที่มุ่งสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เพื่อให้สอดคล้องกับ 17 เป้าหมายเพื่อความยั่งยืนของโลก (SDG 2030) ตามที่สหประชาชาติคาดหมายไว้
ในขณะที่กระแสสังคมโลกหลายมิติล้วนมุ่งหวังการมีส่วนร่วมจากภาคธุรกิจให้ช่วยแก้ปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อมสู่ความยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นด้านการลงทุน การผลิต การบริโภค ล้วนมีคำว่า “ยั่งยืน” เป็นตัวกระตุ้นให้ตระหนักในความสมดุล ซึ่งต้องคำนึงถึง (E) ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (S) ส่งเสริมสังคม และ (G) มีธรรมาภิบาล

SET Social Impact จึงเป็นการเติมเต็มความประสงค์ซึ่งกันและกัน ที่จะก่อให้เกิดผลลัพธ์ทางสังคม ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งทั้งต่อภาคธุรกิจในการสร้างความสมดุล 3 มิติเพื่อพัฒนาสู่ความยั่งยืนแก่ธุรกิจและสังคมควบคู่กัน ขณะเดียวกันยังเป็นการสร้างความเข้มแข็งแก่องค์กรภาคสังคมและกิจการเพื่อสังคม เพื่อให้มีบทบาทแก้ไขปัญหาสังคมได้อย่างยั่งยืนด้วย
suwatmgr@gmail.com
กำลังโหลดความคิดเห็น