xs
xsm
sm
md
lg

“พลังเปลี่ยนแปลงเพื่อสังคม” ปีที่ 6 คัด 9 กิจการเพื่อสังคมที่ตอบโจทย์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

The Guidelight
Yellow Hello
Yellow Hello
Phak Ta-Yai, Peace by Piece & Relationflip ทั้ง 4 ทีมกิจการเพื่อสังคม ผ่านคัดเลือกเข้ารอบรองชนะเลิศ ซึ่งสะท้อนเทรนด์ของผู้สมัคร SE ในปีนี้ที่สนใจแก้ปัญหาสังคมในหลากหลายแง่มุม ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม (Saving the Environment) การศึกษา (Learning)สุขภาพและการใช้ชีวิต (Health & Lifestyle Improvement)
•บ้านปูฯ หนุนกิจการเพื่อสังคม ฟันเฟืองขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมไทยที่ยั่งยืน
•เผย 9 กิจการที่ผ่านกระบวนการคัดเลือก ตอบโจทย์ทั้งด้านธุรกิจและสังคม
•กิจกรรมพิเศษ “พลังเปลี่ยนแปลงเพื่อสังคม Keep on Growing ต่อยอด SE

ความคืบหน้าโครงการ “พลังเปลี่ยนแปลงเพื่อสังคม” ปีที่ 6 หรือ “Banpu Champions for Change 6” โดย บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านธุรกิจพลังงานแห่งเอเชียร่วมกับสถาบัน Change Fusion องค์กรไม่แสวงหากำไรภายใต้มูลนิธิบูรณะชนบทแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ซึ่งส่งเสริมให้ผู้ประกอบกิจการเพื่อสังคมรุ่นใหม่ อายุระหว่าง 20-35 ปี เข้ามาสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีในสังคม ชุมชนหรือสิ่งแวดล้อม ด้วยการเสนอแผนธุรกิจเพื่อสังคมที่มีเป้าหมายชัดเจนในการแก้ไขปัญหา หรือพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม และมีความเป็นไปได้ในเชิงธุรกิจ
หมายความว่ากิจการที่นำเสนอจะต้องสามารถสร้างผลกำไรและดำเนินอยู่ได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว ล่าสุดได้ผลคัดเลือกกิจการเพื่อสังคม หรือ Social Enterprise 9 โครงการ ซึ่งทั้งหมดล้วนสร้างแผนธุรกิจได้ชัดเจนและสามารถตอบโจทย์ด้านพัฒนาสังคมในหลากหลายมิติมากที่สุด
กิจการที่เข้ารอบสุดท้ายดังกล่าวต่างมีความโดดเด่นในการนำเทคโนโลยีและสื่อใหม่ๆ มาปรับใช้เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อตัวธุรกิจ สังคมและไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมายอย่างน่าสนใจ ได้แก่
•Peace by Piece บริการที่ช่วยให้เด็กนักเรียนและนักศึกษาสามารถลดภาวะความเครียดด้วยเพื่อนที่ตั้งใจรับฟังด้วยหัวใจผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์
•Relationflip เทคโนโลยีที่ช่วยให้คนวัยทำงานสามารถเข้าถึงนักจิตวิทยามืออาชีพได้อย่างง่ายๆ
•Pack Solution ภาชนะที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของผู้บริโภค เพิ่มทางเลือกแก่แม่ค้าและผู้บริโภค
•Via Bus แอปพลิเคชันบอกตำแหน่งรถขนส่งสาธารณะแบบเรียลไทม์
•Saturday School ส่งเสริมทักษะการคิดเชิงวิเคราะห์แก่เยาวชนผ่านการเรียนโปรแกรมมิ่ง
•Phak Ta-Yay (ผักตายาย) สร้างชุมชนน่าอยู่ด้วยการส่งเสริมการปลูกผักเพื่อแก้ความเหงาคนชราในชุมชน
•Yellow Hello ผลิตปุ๋ยจากกากถั่วเหลือง
•Listen by Heart วิดีโอสอนภาษามือ - ภาษาอเมริกันกลาง สำหรับผู้พิการทางหู
•The Guidelight ออดิโอบุ๊กสำหรับคนพิการทางสายตา

ชนินท์ ว่องกุศลกิจ
สำหรับขั้นต่อไปจะเป็นการตัดสินรอบสุดท้าย พร้อมเลือกเฟ้นกิจการเพื่อสังคมที่ได้รับรางวัลชนะเลิศอย่างเป็นทางการ โดยมีคณะกรรมการประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญจากแวดวงกิจการเพื่อสังคม ซึ่งจะทำการคัดเลือกทีมชนะเลิศจากผลงานโดดเด่นตรงกับเกณฑ์การตัดสิน 5 ข้อ คือ 1) ผลทางสังคม หมายถึงความเป็นไปได้ที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงทางสังคมอย่างเป็นรูปธรรม 2) ทีมงาน โดยดูจากความสามารถและความทุ่มเทที่เกิดขึ้น 3) ความคืบหน้า สะท้อนถึงการดำเนินกิจการเพื่อสังคมได้อย่างรุดหน้าชัดเจนในช่วง 3 เดือน หลังจากได้รับทุนสนับสนุน 50,000 บาทในรอบแรก 4) ความยั่งยืนของธุรกิจ โดยพิจารณาจากฐานะทางการเงินและการเข้าถึงตลาด และ 5) การขยายผล ซึ่งสามารถพัฒนาต่อไปได้อย่างเป็นรูปธรรมทั้งในด้านธุรกิจและสังคม
ยันหนุนเสริมสร้างและพัฒนา SE ต่อเนื่อง
ชนินท์ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการบริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากการดำเนินโครงการมาถึงปีที่ 6 เราได้เรียนรู้และจะเดินหน้าต่อไปอย่างไร หลากหลายกิจการที่เข้าร่วมโครงการและประสบความสำเร็จในวันนี้ ได้สร้างผลกระทบในทางที่ดีแก่สังคม และเป็นที่รู้จักมากขึ้นในแวดวงกิจการเพื่อสังคม รวมทั้งกลุ่มเป้าหมาย ขณะเดียวกันก็ยังคงมีโอกาสแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์และคำปรึกษาผ่านเครือข่ายกิจการเพื่อสังคมจากบ้านปูฯ เพื่อนำไปต่อยอดการดำเนินกิจการต่อไปอย่างยั่งยืน
“หัวใจของความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการเพื่อสังคมและกิจการสตาร์ตอัพ คือ การยื่นมือออกไปหา “ผู้รู้” หรือคนที่จะสามารถเข้ามาอุดช่องว่างด้านความรู้หรือความเชี่ยวชาญ เพื่อให้กิจการดำเนินต่อไปได้อย่างราบรื่น บ้านปูฯ เรายินดีให้ความช่วยเหลือและคำปรึกษากิจการเพื่อสังคมอย่างเต็มที่ ด้วยเครือข่ายทั้งหมดที่เรามี และหวังเป็นอย่างยิ่งว่ากิจการเพื่อสังคมทั้งในและนอกโครงการฯ จะมีโอกาสพัฒนาไปเป็นกิจการที่สามารถขยายผลเพื่อให้เติบโตต่อไปได้ และสร้างสรรค์สิ่งดีๆกลับคืนแก่ชุมชน สังคม และประเทศ”
ชูกระบวนการคัดสรร SE
สำหรับแผนธุรกิจที่ส่งเข้าร่วมโครงการฯ จะได้รับการพิจารณาโดยคณะกรรมการ ซึ่งประกอบด้วยผู้แทนจากสถาบัน Change Fusion บ้านปูฯ และผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาต่างๆ โดยผู้ประกอบการที่ผ่านการพิจารณาในรอบแรกจำนวน 20 ราย จะได้รับการอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาแนวคิดและรูปแบบเชิงธุรกิจ ในจำนวนนี้ คณะกรรมการจะคัดเลือกแผนธุรกิจที่มีเป้าหมายชัดเจนในการแก้ไขปัญหาหรือพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม และมีความเป็นไปได้ในเชิงธุรกิจ ให้เหลือจำนวน 10 โครงการ (ในปีนี้ได้ 9 กิจการ) เพื่อรับทุนโครงการละไม่เกิน 50,000 บาท นำไปดำเนินงานในช่วง 3 เดือนแรก จากนั้นจะมีการคัดเลือกแผนธุรกิจที่โดดเด่นและมีความคืบหน้ามากที่สุดจำนวน 4 โครงการ ซึ่งจะได้รับทุนโครงการละไม่เกิน 200,000 บาท สำหรับดำเนินกิจการต่อเนื่องอีก 5 เดือน
อุดมลักษณ์ โอฬาร ผู้อำนวยการสายอาวุโส - องค์กรสัมพันธ์ บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าตลอดระยะเวลาที่เข้าร่วมโครงการฯ ผู้ประกอบกิจการเพื่อสังคมจะได้รับคำปรึกษา เข้าร่วมฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการด้านธุรกิจ การตลาด การสร้างแบรนด์ การเงินและการวัดผลทางสังคมกับวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ (Mentor) เพื่อพัฒนาศักยภาพพื้นฐานที่จำเป็นต่อการดำเนินกิจการเพื่อสังคมให้เติบโตอย่างยั่งยืน ลงมือดำเนินกิจการจริงตามแผนที่วางไว้ และสร้างสังคมการเรียนรู้ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และการต่อยอดเชิงธุรกิจกับเครือข่ายที่ปรึกษาและรุ่นพี่ที่เคยเข้าร่วมโครงการฯ
"บ้านปูฯ มุ่งมั่นที่จะดำเนินโครงการต่อไป เพราะเชื่อว่าโครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยจุดประกายให้คนรุ่นใหม่ที่อยากจะทำกิจการเพื่อสังคม แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร และไม่มีความรู้ในเรื่องนี้เท่าที่ควร กล้าที่จะเริ่มและสามารถพัฒนากิจการของตนให้อยู่ได้อย่างยั่งยืน และทำประโยชน์ให้สังคม เราเชื่อมั่นว่าพลังคนรุ่นใหม่ประกอบกับพลังความรู้ที่บ้านปูฯมอบให้จะกลายเป็น "พลังแห่งการเปลี่ยนแปลงและพัฒนา" ที่มีความหมายอย่างยิ่งต่อการพัฒนาประเทศ"
ตั้งแต่ปี 2554 ที่บ้านปูฯ เริ่มโครงการซึ่งต่อยอดมาจากการส่งเสริมการสร้างผู้ประกอบการทางสังคมรุ่นใหม่ (Young Social Entrepreneur) ที่ให้การสนับสนุนมาตั้งแต่ปี 2549 ทำให้ได้เรียนรู้เพิ่มเติม รับฟังคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ซึ่งกันและกัน และนำความรู้ที่ได้ไปต่อยอด ขยายผล ทั้งในด้านการสร้างการเติบโตทางธุรกิจแบบก้าวกระโดด และประโยชน์แก่สังคมในด้านต่างๆ ซึ่งการเรียนรู้เช่นนี้ ทำให้ผู้ประกอบกิจการเพื่อสังคมเกิดความรู้ที่ได้จากการวิเคราะห์ด้วยตนเอง และสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับกิจการของตนเองได้อย่างยั่งยืน สอดคล้องกับแนวคิดของบ้านปูฯ ที่ว่า “พลังความรู้ คือพลังแห่งการเปลี่ยนแปลงและพัฒนา”
กิจกรรมต่อยอด “พลังเปลี่ยนแปลงเพื่อสังคม Keep on Growing: เติบโต ต่อเนื่อง ยั่งยืน ” เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการกิจการเพื่อสังคมอื่นๆ ทั้งในและนอกโครงการฯ ได้มีโอกาสเข้ารับฟังการบรรยายในหัวข้อที่จะเป็นประโยชน์สำหรับนำไปพัฒนากิจการเพื่อสังคมของตนเอง พลังเปลี่ยนแปลงเพื่อสังคม Keep on Growing เติบโต ต่อเนื่อง ยั่งยืน
Keep on Growing
ต่อยอดความสำเร็จ SE
บ้านปูฯ จัดกิจกรรมพิเศษ “พลังเปลี่ยนแปลงเพื่อสังคม Keep on Growing : เติบโต ต่อเนื่อง ยั่งยืน” เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการกิจการเพื่อสังคมอื่นๆ ทั้งในและนอกโครงการฯ ได้มีโอกาสเข้ารับฟังการบรรยายในหัวข้อที่จะเป็นประโยชน์สำหรับนำไปพัฒนากิจการเพื่อสังคมของตนเอง อาทิ เครื่องมือทางธุรกิจที่จำเป็นต่อการต่อยอดกิจการเพื่อสังคมอย่างยั่งยืน แหล่งเงินทุนและคุณสมบัติที่นักลงทุนมองหาในผู้ประกอบการเพื่อสังคม
รวมถึงการจับกลุ่มทำเวิร์กชอป แลกเปลี่ยนความคิด ปัญหาที่ประสบ เพื่อรับคำปรึกษาและคำแนะนำจากเหล่าผู้เชี่ยวชาญ ได้แก่ ชนินท์ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการ บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) วรวรรณ ธาราภูมิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมบัวหลวง จำกัด และนายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน ดร.กุลภัทรา สิโรดม กรรมการตรวจสอบธนาคารไทยพาณิชย์และรองประธานศูนย์เพิ่มศักยภาพในการแข่งขันทางธุรกิจ ทิพย์สุคนธ์ ศุภสินธุ์ ผู้อำนวยการศูนย์เพิ่มศักยภาพในการแข่งขันทางธุรกิจ และเพ็ญศรี สุธีรศานต์ ผู้อำนวยการสมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย เป็นต้น
“ปัจจุบันกิจการเพื่อสังคมถือเป็นอีกหนึ่งฟันเฟืองที่จะช่วยขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมไทยที่รัฐบาลได้ให้ความสำคัญมากขึ้น จุดมุ่งหมายของกิจกรรมพลังเปลี่ยนแปลงเพื่อสังคม Keep on Growing : เติบโต ต่อเนื่อง ยั่งยืน ในวันนี้ เพื่อเปิดโอกาสให้กิจการเพื่อสังคมที่มีผลการดำเนินงานคืบหน้ามากที่สุดจากแต่ละรุ่นในโครงการพลังเปลี่ยนแปลงเพื่อสังคม” ชนินท์ ว่องกุศลกิจ กล่าว
ผลสำเร็จในการสนับสนุนดังกล่าว สมศักดิ์ บุญคำ ผู้ก่อตั้งกิจการเพื่อสังคม บริษัท โลเคิล อะไลค์ จำกัด ศิษย์เก่าโครงการปีที่ 2 ยืนยันว่า “แม้กิจการโลเคิล อะไลค์ เริ่มดำเนินการไปได้ระยะเวลาหนึ่งแล้ว แต่ก็ยังมีช่องว่างให้ต้องพัฒนาและปรับปรุงอีกมาก การสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจากบ้านปูฯ คำปรึกษาต่างๆ และโอกาสในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับผู้รู้และผู้ที่อยู่ในแวดวงกิจการเพื่อสังคมได้ช่วยต่อยอดให้กับกิจการของเราได้ในอีกหลากหลายมิติ และก่อให้เกิดผลกระทบด้านบวกต่อชุมชนที่เรากำลังดูแลได้อีกมาก รวมถึงรุ่นน้องในโครงการที่มาในวันนี้ก็ยังเป็นแรงบันดาลใจ ให้เกิดแนวคิดและมุมมองใหม่ๆ ในการพัฒนากิจการต่อไป”
กำลังโหลดความคิดเห็น