ฮิลลารี่ คลินตัน ประกาศว่าหากได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐอเมริกา เธอจะเปลี่ยนประเทศนี้ให้เป็นประเทศแห่งพลังงานทดแทน
สะท้อนถึงวิกฤติพลังงานอันเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนชีวิตและโลกธุรกิจอุตสาหกรรม ซึ่งขณะนี้เราต่างกำลังเผชิญภาวะวิกฤติพลังงานปิโตรเลียมที่เคยเป็นพลังงานหลักและกำลังจะหมดไปในอนาคตอันใกล้ ทั้งวิกฤติภาวะสิ่งแวดล้อมเสื่อมโทรมและภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลง ( Climate Change) ที่ส่งผลกระทบต่อนานาประเทศที่นับวันจะรุนแรงขึ้น
หลายประเทศมีการปรับเปลี่ยนพัฒนานโยบายสร้างความมั่นคงในพลังงานทางเลือกสู่ทิศทางที่ยั่งยืนเช่น ประเทศเยอรมนี มุ่งเน้นการใช้พลังงานทางเลือก (Renewable Energy) สนับสนุนงานวิจัยและการผลิต เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ เพราะราคาพลังงานไฟฟ้าในเยอรมันนั้น มีราคา 12 บาท ขณะที่ประเทศฝรั่งเศสอยู่ติดกันใช้พลังงานนิวเคลียร์ผลิตไฟฟ้าโดยสามารถลดค่าไฟฟ้าลงเหลือ 6บาท
ถ่านหินเป็นพลังงานที่สามารถใช้ได้ยาวนานไปอีก 200 ปี มีแหล่งสำรองอยู่ปริมาณมากและมีราคาคงที่ จึงเป็นอีกหนึ่งพลังงานที่นานาประเทศยังคงพึ่งพา เนื่องจากถ่านหินชนิดดีและการใช้ตัวกรองซัลเฟอร์ช่วยลดความกังวลด้านมลพิษได้
มองไปข้างหน้า ประเทศไทยเราควรส่งเสริมด้านการศึกษาในการผลิตบุคลากรด้านเทคโนโลยีพลังงานเพื่อปลุกความตื่นตัวด้านการศึกษาวิจัยและพัฒนาพลังงานทางเลือก รวมทั้งการคิดค้นนวัตกรรมที่ใช้พลังงานทางเลือกให้มากขึ้น ประเทศไทยมีโอกาสและข้อได้เปรียบหลายด้าน เนื่องจากเราตั้งอยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตรมีทรัพยากรหลากหลาย ทั้งเป็นแหล่งผลผลิตทางการเกษตร
ในระยะยาว เราต้องวางแผนลดการพึ่งพาก๊าซธรรมชาติซึ่งปัจจุบันใช้มากถึง 68% โดยควรกระจายสัดส่วนไปยังพลังงานอื่นๆ เช่น ถ่านหินสะอาด พลังงานลม และส่งเสริมการวิจัยพลังงานใหม่ๆที่น่าสนใจ ก็มี พลังงานคลื่นทะเล ความร้อนใต้ภิภพ สามารถนำไอนำมาปั่นเทอร์ไบน์ได้
วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมป์ (วสท.) ครบรอบ 72 ปี ของการเป็นเสาหลักด้านวิศวกรรมของประเทศ เราได้สร้างเสริมพัฒนาความเข้มแข็งด้านวิชาการของประเทศ การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมทำให้วิศวกรรมมีบทบาทต่อวิถีชีวิต ให้เติบโตอย่างมีคุณภาพ มั่นคงและปลอดภัย เป็นศูนย์รวมมันสมองด้านวิศวกรรมของประเทศในการสร้างมาตรฐานต่างๆ สำหรับประเทศไทยมีการจัดอบรมให้ความรู้และพัฒนาบุคลากรของไทย เพื่อปรับฐานความรู้กับเทคโนโลยีและโลกที่เปลี่ยนแปลงรวมทั้งกฎกติการะหว่างประเทศมาอย่างต่อเนื่อง
เรามุ่งมองอนาคตของประเทศไทยที่จะต้องก้าวไปในโลกศตวรรษที่ 21 ซึ่งเต็มไปด้วยความท้าทาย และความเสี่ยง หากเราไม่ปรับเปลี่ยนวิธีคิด และยุทธศาสตร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความมั่นคงทางพลังงานและการส่งเสริมเมืองให้เป็น Smart Cityใช้พลังงานอย่างชาญฉลาด
วสท.กำลังร่วมมือกับองค์กรหลายหน่วยงานจัดทำมาตรฐานของ Solar Rooftop สำหรับประเทศไทยขึ้น เพื่อส่งเสริมประชาชนได้ใช้อุปกรณ์ที่มีมาตรฐานและคุ้มค่ากับการลงทุน
ปัจจุบันยังมีคนไทยจำนวนมากที่ต้องการมีส่วนร่วมในการเป็นหน่วยผลิตไฟฟ้าพึ่งพาตนเอง แต่ยังไม่ทราบว่าอุปกรณ์นานาชนิดที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ จะให้ผลตามที่โฆษณาหรือไม่ คุ้มการลงทุนไหม ถ้าเรามีมาตรฐานของประเทศเราเองมากำกับ จะเป็นผลดีต่อสังคมและผู้บริโภค และที่สำคัญช่วยส่งเสริมการใช้ Solar Rooftop เปิดโอกาสให้หน่วยเล็กๆในสังคมได้พึ่งพาตนเองและใช้อย่างแพร่หลายในเวลารวดเร็วด้วย คาดว่าแนวมาตรฐานจะเสร็จในปลายปี 2558
ในการปรับพัฒนาองค์กรรองรับโลกที่เปลี่ยนแปลง วสท.กำลังจัดตั้งคณะกรรมการนโยบายพลังงาน วสท. ขึ้นเพื่อศึกษาการพัฒนาพลังงาน ให้คำชี้แนะแก่สังคม เช่น สัดส่วนการใช้พลังงาน การลดปัญหามลภาวะจาการใช้พลังงาน การพัฒนาเครื่องมือเครื่องใช้หรือเทคโนโลยีพลังงานสะอาด เป็นต้น จะเป็นอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนสังคมไทยสู่สังคม Renewable Energy Society ในอนาคต
“ในระยะยาว เราต้องวางแผนลดการพึ่งพาก๊าซธรรมชาติซึ่งปัจจุบันใช้มากถึง 68% โดยควรกระจายสัดส่วนไปยังพลังงานอื่นๆ”
ศาสตราจารย์ ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์
นายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย
และประธานมูลนิธิอาคารเขียวไทย
