หลังจาก พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน คนปัจจุบันเข้าตรวจเยี่ยมความพร้อม และมอบหมายแนวทางปฏิบัติงานให้กรมพัฒนาพลังงานทดแทน (พพ.) เมื่อเร็วๆ นี้ พพ. ยันเป้าหมายการใช้พลังงานทดแทนจากปัจจุบันประมาณ 12% ของพลังงานทุกชนิด ต้องได้ 30% ในปี 2579
คุรุจิต นาครทรรพ ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า แผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก พ.ศ.2558-2579 หรือ Alternative Energy Development Plan : AEDP 2015 ซึ่งเป็น 1ใน 5 แผนบูรณาการพลังงานระยะยาว เพื่อลดการพึ่งพาการนำเข้าน้ำมันและสร้างความมั่นคงทางด้านพลังงานให้กับประเทศ ด้วยราคาที่ประชาชนยอมรับ และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน รวมทั้งการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกซึ่งเป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อน
“ที่ผ่านมากระทรวงพลังงานได้จัดสัมมนากลุ่มย่อย (Focus Group) ให้กับผู้รับบริการและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียด้านพลังงานทดแทน เพื่อระดมความคิดเห็นและสร้างการมีส่วนร่วมในการจัดทำร่าง AEDP 2015 ซึ่งภายใต้แผนดังกล่าวได้วางเป้าหมายว่าจะเกิดการใช้พลังงานทดแทนจากปัจจุบันที่มีการใช้ประมาณ 12% ของพลังงานทุกชนิด ให้เพิ่มเป็น 30% ของการใช้พลังงานในขั้นสุดท้ายในปี 2579 โดยได้กำหนดเป้าหมายที่จะเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานทดแทน อาทิ การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน จาก 9% ก็จะเพิ่มเป็น 15-20%.”
ด้าน ธรรมยศ ศรีช่วย อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) กล่าวว่า ขณะนี้การดำเนินงานด้านการพัฒนาพลังงานทดแทน และด้านการอนุรักษ์พลังงาน มีความคืบหน้าในการดำเนินงานไปแล้วหลายส่วน และถือเป็นนโยบายหลักของกระทรวงพลังงานที่จะต้องมีการขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่อง
ขณะนี้อยู่ระหว่างขับเคลื่อนโครงการที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการที่ยังไม่ได้ยื่นแสดงความจำนงผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนพื้นดิน หรือโซล่าร์ฟาร์มค้างท่อ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ยังไม่ได้รับการตอบรับซื้อไฟฟ้า โดย พพ. ได้ดำเนินการต่อเนื่องจากมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.) ซึ่งปัจจุบันโครงการนี้ถือว่าประสบความสำเร็จ และสามารถช่วยให้ผู้ประกอบการได้สัญญาซื้อขายไฟฟ้าหรือ PPA แล้วทั้งสิ้น 148 โครงการ คิดเป็นกำลังผลิตทั้งหมด 843.95 เมกะวัตต์ แต่จะต้องจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบ (ซีโอดี) ภายในเดือนธันวาคม 2558 นี้ไม่เช่นนั้นจะถูกตัดสิทธิทันที เรียกว่าใกล้ได้ผลสัมฤทธิ์ตามเป้าหมายของโครงการ
ทั้งนี้ หากโครงการโซลาร์ค้างท่อครั้งนี้ไม่สำเร็จก็จะยังไม่มีนโยบายเปิดให้ลงทุนโครงการโซลาร์ฟาร์มเพิ่มเติมแน่นอน เพราะปัจจุบันมีกำลังการผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์สูงถึง 3,000 เมกะวัตต์แล้ว จากที่กำหนดกรอบไว้ท้ายแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าระยะยาวของประเทศ หรือพีดีพี 2015 ไว้ที่ 6,000 เมกะวัตต์ ในปี 2579 (ดูรูปกราฟฟิกประกอบ) พร้อมกันนี้ พพ.จะมุ่งเพิ่มการผลิตไฟฟ้าในชุมชนมากขึ้นทั้งไบโอแก๊ส ไบโอแมส โดยเฉพาะขยะ เพื่อให้มีไฟฟ้าที่สามารถพึ่งพิงตนเองได้
นอกจากนี้ พพ. ยังมีโครงการสำคัญ คือโครงการส่งเสริมการปรับเปลี่ยนเครื่องปรับอากาศชนิด Variable speed/Inverter ทดแทนของเดิมในอาคารควบคุมภาครัฐ โดยเบื้องต้น พพ. จะนำร่องเปลี่ยนเครื่องปรับอากาศทดแทนของเดิมที่มีอายุการใช้งานไม่ต่ำกว่า 10 ปี ในอาคารควบคุมภาครัฐ จำนวนรวม 50,079 เครื่อง ( 1,309 ล้านBTU) รวมทั้งผลักดันให้เกิดการยกระดับเกณฑ์ประสิทธิภาพในวงกว้างต่อไป โดยคาดว่าจะเกิดผลประหยัดรวม 165 ล้านหน่วย/ปี (14 ktoe/ปี) หรือคิดเป็นเงินประมาณ 660 ล้านบาท/ปี ลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์(CO2)ได้ประมาณ 108,917 ตัน