เอสซีจี เคมิคอลส์ ย้ำความเป็นผู้นำนวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน เปิดศูนย์เรียนรู้การจัดการของเสียอินทรีย์ด้วยไส้เดือนดินครบวงจร เพื่อเผยแพร่นวัตกรรมการผลิตมูลไส้เดือนดินจากกากตะกอนจุลินทรีย์ของโรงงานปิโตรเคมีด้วยวิธีทางธรรมชาติตลอดทั้งกระบวนการรายแรกในไทย เดินหน้าพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชน เพื่อนำไปประยุกต์ใช้กับการจัดการของเสียในครัวเรือน เสริมสร้างรายได้ และสามารถดูแลพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน (Beyond CSR)
เจริญชัย ประเทืองสุขศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาร์ไอแอล 1996 จำกัด ในเอสซีจี
เคมิคอลส์ กล่าวว่า การบริหารจัดการทรัพยากรและกากของเสีย รวมถึงการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีของชุมชน และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เป็นนโยบายที่เอสซีจี เคมิคอลส์ ให้ความสำคัญเพื่อมุ่งสู่การเป็นต้นแบบอุตสาหกรรมเชิงนิเวศเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน (Eco Factory) โดยเอสซีจี เคมิคอลส์ ได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยแม่โจ้ทำการทดลองนำกากตะกอนจุลินทรีย์จากการบำบัดน้ำเสียของโรงงานมาเป็นอาหารของไส้เดือนดิน ผลปรากฏว่า คุณสมบัติของมูลและปัสสาวะไส้เดือนดินนั้นผ่านเกณฑ์มาตรฐานปุ๋ยอินทรีย์ ของกรมวิชาการเกษตร และสามารถนำมาใช้ในงานด้านการเกษตรได้ นับเป็นการจัดการของโรงงานปิโตรเคมีของเสียด้วยวิธีทางธรรมชาติตลอดทั้งกระบวนการรายแรกในประเทศไทย
“นวัตกรรมการจัดการของเสียอินทรีย์ด้วยไส้เดือนดิน เป็นกระบวนการเปลี่ยนกากตะกอนเป็นมูลไส้เดือนดิน ซึ่งไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนโดยรอบ พร้อมนำมูลไส้เดือนดินไปใช้ประโยชน์ได้ นอกจากนี้ ยังพบว่ามูลไส้เดือนดินที่กินกากตะกอนจุลินทรีย์มีธาตุอาหารสูง โดยเฉพาะธาตุไนโตรเจน และยังมีฮอร์โมนพืชที่ช่วยในการเจริญเติบโตของพืชทั้งในการแตกยอด และออกราก การผลิตปุ๋ยอินทรีย์ด้วยไส้เดือนดินจึงเป็นวิธีการทางธรรมชาติที่ใช้เวลาน้อยกว่าการหมักปุ๋ยอินทรีย์แบบอื่นๆ”
เพื่อต่อยอดองค์ความรู้ด้านการจัดการของเสียไปสู่ชุมชน เอสซีจี เคมิคอลส์ จึงจัดตั้ง ศูนย์เรียนรู้การจัดการของเสียอินทรีย์ด้วยไส้เดือนดิน ที่นิคมอุตสาหกรรมอาร์ไอแอล จ.ระยอง ให้เป็นศูนย์การเรียนรู้เพื่อให้ชุมชนใกล้เคียง หน่วยงานหรือผู้ที่สนใจเข้ามาศึกษาดูงานและสามารถนำความรู้เรื่องการจัดการขยะอินทรีย์ไปต่อยอดได้ ภายในศูนย์ฯ มีสาธิตการเลี้ยงหลากหลายแบบ อาทิ บ่อวง บ่อรางซีเมนต์ และแบบคอนโด ผู้สนใจสามารถเรียนรู้กระบวนการเพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในครัวเรือนได้ด้วย โดยนำของเสียอินทรีย์ เช่น เศษอาหาร ผัก ผลไม้ มาใช้เป็นอาหารของไส้เดือนดิน นับเป็นการเพิ่มมูลค่าด้วยวิธีการธรรมชาติ รวมทั้งยังเป็นการสร้างรายได้และอาชีพเสริมให้ชุมชนอีกด้วย
นอกจากนี้ เอสซีจี เคมิคอลส์ และนิคมอุตสาหกรรมอาร์ไอแอล ยังได้เผยแพร่องค์ความรู้ดังกล่าวไปยังสถาบันการศึกษา ซึ่งได้ดำเนินโครงการนำร่องที่โรงเรียนวัดห้วยโป่ง เขตเทศบาลเมืองมาบตาพุด ด้วยการสร้างบ่อสาธิตการเลี้ยงไส้เดือนดินต้นแบบ พร้อมทั้งถ่ายทอดองค์ความรู้และประสบการณ์การเลี้ยงไส้เดือนดินให้กับครูและนักเรียน ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างจิตสำนึกด้านการจัดการสิ่งแวดล้อมที่ดีให้กับเยาวชนในพื้นที่นิคมฯ และยังช่วยให้เห็นมุมมองใหม่ของตัวอย่างการเปลี่ยนของเสียให้มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้นด้วย
“เพื่อการดูแลชุมชนในจังหวัดระยองอย่างบูรณาการ เมื่อผลการวิจัยออกมาแล้วมีประโยชน์ในวงกว้าง เอสซีจี เคมิคอลส์ จึงอยากให้เพื่อนบ้านชาวระยองของเราได้นำองค์ความรู้ในการจัดการขยะอินทรีย์ไปใช้ในครัวเรือนด้วยเช่นกัน ซึ่งนอกจากจะสร้างความตระหนักในเรื่องการดูแลสิ่งแวดล้อมไปพร้อมๆ กันแล้ว ยังสามารถสร้างอาชีพเสริมและสร้างรายได้ เพราะมูลไส้เดือนดินนั้นจัดเป็นปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูง และตลาดที่มีการขายมูลไส้เดือนดินก็มีราคาสูง ถือเป็นการเปลี่ยนขยะอินทรีย์ในบ้านให้กลายเป็นมูลไส้เดือนดิน ซึ่งองค์ความรู้ดังกล่าวย่อมส่งผลดีต่อทั้งเศรษฐกิจสังคมและสิ่งแวดล้อม” เจริญชัย กล่าวในที่สุด
