รอยเตอร์ - สื่อต่างประเทศรายงานอ้างเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในวันจันทร์ (25 ม.ค.) เผยว่าไทยได้กักกันโรคประชาชน 32 รายในความพยายามป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนากลุ่มโรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง (เมอร์ส) ขณะที่รัฐมนตรีท่องเที่ยวยืนยันว่าภาคการท่องเที่ยวอันสำคัญของประเทศไม่ได้รับผลกระทบจากกรณีพบผู้ติดเชื้อหนล่าสุด
รอยเตอร์อ้างคำแถลงของ นพ.อำนวย กาจีนะ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ไวรัสชนิดนี้ถูกพบในชายชาวโอมานวัย 71 ปี ระหว่างเดินทางเข้ามายังกรุงเทพฯ โดยที่ลูกชายของเขา คนขับแท็กซี่ เจ้าหน้าที่ของโรงแรมและเหล่าผู้โดยสารที่เดินทางมาในเที่ยวบินเดียวกัน อยู่ในบรรดาผู้ที่ต้องถูกกักกันโรคเป็นเวลา 2 สัปดาห์
นพ.อำนวยบอกกับรอยเตอร์ว่านอกจากนี้แล้วยังสามารถระบุตัวผู้เสี่ยงติดเชื้อคนอื่นๆอีก 8 รายและทั้งหมดนี้จะถูกกักกันโรคเช่นกัน “เรายังคงกำลังสืบสวนในเชิงลึก ดังนั้นจึงเป็นไปได้ว่าอาจมีคนถูกนำตัวเข้าสู่การกักกันโรคเพิ่มเคิม” พร้อมเผยว่าชายชาวโอมานมีไข้ต่ำๆ ไอเล็กน้อยและหายใจเร็ว
รายงานข่าวของรอยเตอร์ระบุว่าหุ้นกลุ่มสายการบินและโรงแรมมีการเปลี่ยนแปลงในกรอบแคบๆในวันจันทร์ (25 ม.ค.) ผิดกับเมื่อครั้งพบผู้ติดเชื้อไวรัสมรณะชนิดนี้ครั้งแรกในเดือนมิถุนายนปีก่อน ที่ตอนนั้นหุ้นของทั้งสองกลุ่มร่วงลงอย่างหนัก
ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนากลุ่มโรคทางเดินหายใจตะวันออกกลางรายแรกในไทย ก็มาจากโอมานเช่นกัน โดยเป็นนักธุรกิจชาว 75 ปี ซึ่งเขารอดชีวิตและหายเป็นปกติ
ไวรัสโคโรนากลุ่มโรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง ถูกพบในมนุษย์ครั้งแรกในซาอุดีอาระเบียในปี 2012 และผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่อยู่ในตะวันออกกลาง
นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา บอกกับรอยเตอร์ว่าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยไม่ได้รับผลกระทบจากการพบผู้ติดเชื้อล่าสุด "เราเชื่อว่าเรามีสถานการณ์ที่อยู่ภายใต้การควบคุม เรามั่นใจว่ามันจะไม่ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวในไทย"
รอยเตอร์ระบุว่าการท่องเที่ยวคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 10 ของจีดีพี และไทยคาดหมายว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาเยือนในปี 2016 ราว 32 ล้านคน สูงสุดเป็นประวัติการณ์ เพิ่มขึ้นจาก 29.88 ล้านคนในปี 2015
ในข้อมูลปรับปรุงเพิ่มเติมล่าสุดขององค์การอนามัยโลกในวันที่ 7 มกราคม ยืนยันพบผู้ติดเชื้อเมอร์ส 1,626 คนใน 26 ประเทศ และมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 586 คน