เมื่อเร็วๆ นี้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ประกาศผลสุดยอดโรงเรียนลดใช้พลังงานระดับจังหวัด (ภาคตะวันออก) โครงการ “พลังคิด สะกิดโลก” แผนการลดใช้พลังงานในโรงเรียนของภาคตะวันออก ที่เข้าร่วมโครงการในครั้งนี้สามารถลดใช้ไฟฟ้าได้กว่า 1.8 ล้านหน่วย (กิโลวัตต์/ชั่วโมง) คิดเป็นเงินที่ประหยัดได้ จำนวนกว่า 8.4 ล้านบาท
สุชาลี สุมามาลย์ รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กระทรวงพลังงาน กล่าวว่า โครงการ “พลังคิด สะกิดโลก” ได้โรงเรียนลดใช้พลังงานระดับจังหวัดของภาคตะวันออก รวมจำนวน 14 โรงเรียน แบ่งเป็นระดับอนุบาล-ประถมศึกษา จำนวน 7 โรงเรียน และระดับมัธยมศึกษา หรือเทียบเท่า จำนวน 7 โรงเรียน จากโรงเรียนที่ผ่านเกณฑ์การแข่งขันทั้งหมด 403 โรงเรียน ทั้งนี้โรงเรียนที่สมัครเข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมดในภาคตะวันออกจำนวน 659 โรงเรียน สามารถลดปริมาณการใช้ไฟฟ้าในสถานศึกษาได้รวมจำนวน 1,827,351.34 หน่วย (กิโลวัตต์/ชั่วโมง) คิดเป็นมูลค่าเงินที่ประหยัดค่าไฟฟ้าได้ 8,460,636.70 บาท
โครงการ “พลังคิด สะกิดโลก” ภาคตะวันออก ประกอบด้วย 7 จังหวัด คือ จังหวัดจันทบุรี จังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดชลบุรี จังหวัดตราด จังหวัดปราจีนบุรี จังหวัดระยอง และจังหวัดสระแก้ว โดยโรงเรียนที่ผ่านเกณฑ์ทั้งหมด 403 แห่ง ได้ส่งแผนรณรงค์การลดใช้พลังงานของสถานศึกษา ให้คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิระดับจังหวัด พิจารณาคัดเลือกสุดยอดโรงเรียนลดใช้พลังงาน ผลการตัดสินของคณะกรรมการปรากฏว่ามีสุดยอดโรงเรียนลดใช้พลังงานระดับจังหวัด ดังนี้
ประเภทอนุบาล-ประถมศึกษา ได้แก่ 1.โรงเรียนวัดเกาะโตนด (จันทร์ศีลราษฏร์ประสิทธิ์) จังหวัดจันทบุรี 2.โรงเรียนสุเหร่าสมอเซ จังหวัดฉะเชิงเทรา 3.โรงเรียนเทศบาลบ้านศรีมหาราชา จังหวัดชลบุรี 4.โรงเรียนเทศบาลบ้านอ่างกะป่อง จังหวัดตราด 5.โรงเรียนวัดลิรัญดอน จังหวัดปราจีนบุรี 6.โรงเรียนวัดพลงไสว จังหวัดระยอง 7.โรงเรียนบ้านเขาน้อยสามัคคี จังหวัดสระแก้ว
ประเภทมัธยมศึกษา หรือเทียบเท่า ได้แก่ 1.โรงเรียนบ่อวิทยาคาร จังหวัดจันทบุรี 2.โรงเรียนเบญจมราชรังสฤษฎิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา 3.โรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา จังหวัดชลบุรี 4.โรงเรียนเขาสมิงวิทยาคม (จงจินต์รุจิรวงศ์อุปถัมภ์) จังหวัดตราด 5.โรงเรียนประจันตราษฎร์บำรุง จังหวัดปราจีนบุรี 6.โรงเรียนบ้านซำฆ้อ จังหวัดระยอง 7.โรงเรียนวัดพวงนิมิต จังหวัดสระแก้ว พร้อมรับทุนสนับสนุนการศึกษาโรงเรียนละ 250,000 บาท
ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลาของการแข่งขันสุดยอดโรงเรียนลดใช้พลังงานในระดับจังหวัด ได้มุ่งเน้นมาตรการลดใช้พลังงานอย่างยั่งยืน โดยเริ่มจากผู้บริหารโรงเรียนเป็นผู้นำในการกำหนด นโยบาย และเป้าหมายการประหยัดพลังงาน รวมถึงการบูรณาการประหยัดพลังงานเข้ากับหลักสูตรการเรียนการสอน เพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วมระหว่างครู นักเรียน และบุคลากรภายในโรงเรียน โดยการจัดตั้งคณะทำงานขึ้นมาทำหน้าที่และรับผิดชอบที่ชัดเจน เพื่อให้การปฎิบัติงานมีระบบและง่ายต่อการติดตามผล และผลักดันนโยบายประหยัดพลังงาน ให้เกิดความการปฏิบัติจริง เช่น การควบคุมระยะเวลาใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้า การปรับอุณหภูมิของเครื่องปรับอากาศ และถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าหลังการใช้งาน รวมถึงดูแลรักษาเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างสม่ำเสมอ
นอกจากมาตรการลดการใช้ไฟฟ้าที่ไม่จำเป็นแล้ว ยังจัดกิจกรรมรณรงค์ที่สร้างสรรค์เพื่อสร้างการเรียนรู้ และสร้างจิตสำนึกในการประหยัดพลังงานภายในโรงเรียนอย่างต่อเนื่อง อาทิ จัดทำสื่อรณรงค์ภายในโรงเรียน กิจกรรมสร้างจิตสำนึก และกิจกรรมสายตรวจพลังงานต่างๆ เพื่อการพิชิตความเป็นหนึ่งสุดยอดโรงเรียนลดใช้พลังงานในครั้งนี้และโรงเรียนเหล่านี้ คือ สุดยอดโรงเรียนลดใช้พลังงานระดับจังหวัด ที่มุ่งมั่นฝ่าฟันจนได้เป็นหนึ่งในตัวแทน 152 โรงเรียน จากจำนวน 8,478 แห่งทั่วประเทศ ที่จะต้องเดินทางเข้าสู่การแข่งขันลดใช้พลังงานในระดับภูมิภาคและระดับประเทศต่อไป ซึ่งจากความโดดเด่นของแผนงานข้างต้น สอดรับกับเป้าประสงค์ของ สนพ. ทั้งทางตรงและทางอ้อม ที่ต้องการปลูกจิตสำนึกให้เกิดพฤติกรรมลดใช้พลังงานอย่างเป็นนิสัยกับกลุ่มเยาวชน
“สนพ. คาดหวังว่า โครงการ “พลังคิด สะกิดโลก” จะมีส่วนช่วยกระตุ้นและสร้างกระแสการอนุรักษ์พลังงานให้กับเยาวชน จนนำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการประหยัดพลังงานในกลุ่มเยาวชนจนเป็นนิสัย และขยายผลไปยังครอบครัว และชุมชน อันนำไปสู่การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ลดรายจ่ายด้านเชื้อเพลิงที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ” รองผู้อำนวยการ สนพ. กล่าว
แบรนด์แอมบาสเดอร์ โครงการ “พลังคิด สะกิดโลก”
คือ เจมส์ มาร์ ก็ได้กล่าวแสดงความยินดีกับโรงเรียนที่ได้รับรางวัลสุดยอดโรงเรียนลดใช้พลังงานระดับจังหวัด ในโครงการ “พลังคิด สะกิดโลก” ซึ่งรางวัลและความสำเร็จที่โรงเรียนได้รับเกิดจากความร่วมมือร่วมใจของผู้บริหาร นักเรียน ครู อาจารย์ และเจ้าหน้าที่ในโรงเรียนทุกคน ส่วนโรงเรียนใดที่พลาดรางวัลในครั้งนี้ก็ขอเป็นกำลังให้น้องๆ และทุกคนร่วมกันอนุรักษ์พลังงานต่อไป เพราะการอนุรักษ์พลังงานเป็นประโยชน์กับทุกคนและเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติด้วย