ทบทวนร่างกม.สิ่งแวดล้อม เพิ่มหลัก “โปร่งใส มีส่วนร่วม”

เมื่อเร็วๆ นี้ คณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย (คปก.) จัดประชุมรับฟังความคิดเห็น “ร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม” พร้อมเสนอแนวทางปรับปรุงกฎหมาย โดยเน้นหลักความโปร่งใส และให้ประชาชนมีส่วนร่วม
ไพโรจน์ พลเพชร กรรมการปฏิรูปกฎหมายและประธานอนุกรรมการปฏิรูปกฎหมายด้านสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า แนวทางปรับปรุงและพัฒนากฎหมายฉบับนี้อย่างน้อย 5 ประเด็นสำคัญ คือ
1.การเปลี่ยนแปลงแนวคิดสำคัญของกฎหมาย จากเดิมที่ให้หน่วยงานของรัฐเป็นบทบาทหลักที่ทำหน้าที่จัดการดูแลทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อม ควรมีการเปลี่ยนแปลงให้ประชาชน องค์กร ชุมชนและ ท้องถิ่น เข้ามาใช้อำนาจทางกฎหมายร่วมกับรัฐ
2.ในแง่กลไกการบริหาร ควรเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบใหม่ โดยเพิ่มองค์ประกอบตัวแทนชุมชน ท้องถิ่น ภาคประชาสังคมและภาคธุรกิจเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารจัดการ
3.การประเมินผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม จากปัจจุบันที่มีการประเมินในระดับโครงการและกิจกรรม ควรให้มีการประเมินในระดับยุทธศาสตร์ด้วย ขณะเดียวกันการประเมินผลกระทบในระดับโครงการหรือกิจกรรม ควรเพิ่มมิติการมีส่วนร่วมของประชาชนในทุกขั้นตอน อีกทั้งควรพิจารณาประเด็นปัญหาด้วยว่าใครจะเป็นผู้กำกับให้เป็นไปตามการประเมินและรายงานผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมนั้น ซึ่งส่วนตัวคิดว่า ควรเปิดให้ทุกฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วม
4.การประกาศเขตคุมครองพื้นที่สิ่งแวดล้อม ควรให้ประชาชน และชุมชนเข้ามามีส่วนร่วม และคำนึงถึงเรื่องแหล่งผลิตอาหารและความมั่นคงทางอาหาร เพื่อให้การประกาศเขตคุมครองพื้นที่สิ่งแวดล้อมดังกล่าวตอบสนองวัตถุประสงค์ ไม่เฉพาะเพียงแค่มิติเรื่องเศรษฐกิจและการลงทุนเท่านั้น แต่ควรพิจารณาถึงประเด็นเรื่องสิทธิชุมชน เศรษฐกิจภาคเกษตร และแหล่งผลิตอาหารด้วย เพื่อให้เกิดความสมดุลมากยิ่งขึ้น
และ 5.ประเด็นเรื่องการควบคุมมลพิษ มีความเห็นว่า ควรให้เปิดช่องทางประชาชนสามารถเปลี่ยนแปลงแก้ไขเนื้อหามาตรการให้มีความสอดคล้องกับสภาพปัญหาที่แท้จริง
“การรับฟังความคิดเห็นในครั้งนี้ คณะอนุกรรมการฯจะนำข้อมูลมาพิจารณาทบทวนว่าจะมีประเด็นที่ต้องปรับปรุงหรือไม่ เพื่อเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย(คปก.) ก่อนที่คปก.จะเสนอแนะในทางเนื้อหาต่อรัฐบาล ,สภาผู้แทนราษฎร,วุฒิสภา คาดว่าจะจัดทำความเห็นและข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลได้ภายใน 2-3 เดือนข้างหน้า” ไพโรจน์ กล่าวในที่สุด