ปธ.วิปรัฐฯ เผยหลังถกรอง ปธ.สภาฯ เรื่องระเบียบวาระประชุม แจง 1 ส.ค. พิจารณากระทู้-กม. มี พ.ร.บ.กองทุนอดีตสมาชิกสภาฯ แทรก 24 ก.ค. ประชุมวิปรัฐฯ กำหนดทิศทางกู้ 2 ล้านล้าน ล้างผิด “เจริญ เชื่อกู้ 2 ล้านล้านเข้าสภาไร้ปัญหา แม้ คปก. ชี้ขัด รธน. เหตุยังไม่ใช่ กม. มั่นใจนายกฯ ไม่ใช่ พ.ร.ก.นิรโทษฯ เสี่ยงถูกร้องศาล รธน. แนะผู้เสนอร่างที่ค้าง คุยกันเอายังไง ส.ส.แดง หวังดันล้างผิดเข้าไปด้วย แนะงบฯ 57 ผ่านก่อน หวั่นผิดข้อบังคับ
วันนี้ (10 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.30 น.วันที่ 10 ก.ค. นายอำนวย คลังผา ประธานวิปรัฐบาล พร้อมด้วยนายอุดมเดช รัตนเสถียร ประธานที่ปรึกษาวิปรัฐบาล ได้เข้าปรึกษานายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ในฐานะรักษาการประธานสภาผู้แทนราษฎร ต่อกรณีระเบียบวาระช่วงเปิดสมัยประชุมสภาฯ ทั้งนี้ ประธานวิปรัฐบาลเปิดเผยว่า การประชุมสภาฯสัปดาห์แรก วันที่ 1 ส.ค.จะเป็นการพิจารณากระทู้ต่างๆ และกฎหมาย โดยจะมีวาระกฎหมายแทรก คือ พระราชบัญญัติกองทุนเพื่อผู้เคยเป็นสมาชิกรัฐสภา พ.ศ. 2556 เนื่องจากมีความจำเป็น และความเดือดร้อนจากผู้เคยเป็นสมาชิกรัฐสภา ที่เรียกร้องสิทธิตาม พ.ร.บ.ดังกล่าวรออยู่ ซึ่งจะได้มีการตั้งคณะกรรมการกองทุนฯขึ้นจำนวน 23 ตำแหน่ง ประกอบด้วยประธานรัฐสภา รองประธานรัฐสภา ประธานคณะกรรมาธิการกิจการสภาฯ ประธานคณะกรรมาธิการกิจการวุฒิสภา ปลัดกระทรวงการคลัง ผอ.สำนักงบประมาณ เลขาธิการสภาและวุฒิสภา นอกจากนี้ยังมีโควตาสัดส่วนคณะกรรมการของผู้เป็น ส.ส.5 ตำแหน่ง ส.ว.3 ตำแหน่ง ผู้เคยเป็น ส.ส.3 ตำแหน่ง และผู้เคยเป็น ส.ว.อีก 2 ตำแหน่ง
นายอำนวยกล่าวอีกว่า ส่วนในวันที่ 24 ก.ค.นี้จะมีการเรียกประชุมวิปรัฐบาล เพื่อกำหนดทิศทางระเบียบวาระสมัยประชุมสภาสามัญทั่วไป โดยคาดว่าเมื่อถึงวันดังกล่าวน่าจะทราบเรื่องต่างๆ ที่ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญแต่ละคณะพร้อมส่งให้สภาฯบรรจุเป็นระเบียบวาระ ทั้งร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้าน ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ รวมถึงร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ร่างกฎหมายนิรโทษกรรม ปรองดอง เป็นต้น ขณะที่นายเจริญกล่าวว่า การที่คณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย (คปก.) ระบุว่า พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท มีปัญหาความชอบด้วยรัฐธรรมนูญนั้น คิดว่าไม่น่าจะกระทบต่อการพิจารณาเข้าสู่ในชั้นที่ประชุมสภาฯ เนื่องจากยังไม่มีการออกเป็นกฎหมาย แต่เป็นเรื่องของกู้ยืมเงิน แต่ทั้งนี้ จะสามารถทันเข้าสู่การพิจารณาในสภาตามปฏิทินสัปดาห์ที่สองหรือไม่ ตนไม่สามารถตอบแทนได้
นายเจริญยังกล่าวถึงความเป็นไปได้ในการเสนอให้ออก พ.ร.ก.นิรโทษกรรมแทนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมว่า เป็นไปได้ยาก และเชื่อว่านายกรัฐมนตรีจะไม่ดำเนินการเช่นนั้น เพราะสุ่มเสี่ยงต่อการถูกยื่นร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากการเสนอกฎหมายเป็นพระราชกำหนดจะต้องเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงและเศรษฐกิจ เกิดผลกระทบกับรัฐและประชาชน รวมทั้งมีความจำเป็นเร่งด่วน ซึ่งกฎหมายนิรโทษกรรมไม่ใช่เรื่องที่ต้องเร่งรีบ และขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างขั้นตอนของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ดำเนินการไปอย่างถูกต้อง
นายเจริญกล่าวว่า หากนำร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมมาพิจารณาก่อนนั้น ต้องมีการพิจารณาในรายละเอียดด้วยว่าจะนำไปรวมกับร่างกฎหมายอื่นที่เสนอเข้ามาในเนื้อหาที่คล้ายคลึงกันหรือไม่ เพราะขณะนี้ร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ พ.ศ.... ฉบับที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เสนอร่วมกับคณะ และร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ จำนวน 4 ฉบับยังคาอยู่ในระเบียบวาระ
“หากพิจารณาสาระร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับนายวรชัยจะไม่เข้าพวกกับร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมของ ร.ต.อ.เฉลิม และอีก 4 ฉบับที่คาอยู่ แต่ทั้งนี้ในส่วนของผู้เสนอร่างกฎหมายต้องไปคุยกันให้ดีๆ ว่าจะเอาอย่างไร เพราะเปรียบร่างนิรโทษกรรมของนายวรชัย คือ จักรยานยนต์ ส่วนร่าง พ.ร.บ.ปรองดองของ ร.ต.อ.เฉลิมคือรถสิบล้อ ดังนั้นสามารถนำร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับนายวรชัยไปรวมกับร่าง พ.ร.บ.ปรองดองของ ร.ต.อ.เฉลิมได้ แต่การจะให้นำร่างของ ร.ต.อ.เฉลิมไปรวมกับฉบับของนายวรชัยไม่ได้ ดังนั้นทางฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องไปคุยกันให้ดีๆ” นายเจริญกล่าว
นายเจริญยังได้สำรวจพื้นที่บริเวณห้องโถงอาคารรัฐสภา โดยเฉพาะห้องสื่อมวลชน ที่จะมีการปรับปรุงใหม่เพื่อให้เกิดความเหมาะสม โดยยอมรับว่าการดำเนินการของเจ้าหน้าที่เป็นไปด้วยความล่าช้าจึงกำชับเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรให้เร่งทำสัญญากับผู้รับเหมาเพื่อให้ดำเนินการปรับปรุงพื้นที่ให้แล้วเสร็จทันก่อนเปิดประชุมสภาสมัยสามัญทั่วไปวันที่ 1 สิงหาคมนี้ ซึ่งคาดว่าวันพรุ่งนี้ (11 ก.ค.) น่าจะมีความคืบหน้าในการลงนามเพื่อดำเนินการ
ด้าน นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในฐานะ ส.ส.เสื้อแดงตนก็ไม่ได้ยึดติด แต่ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้มีการพิจารณาวาระ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม วาระแรกก่อน เพราะต้องเข้าใจประชาชนที่ร่วมต่อสู้กันมา ขณะที่เรื่องการพิจารณางบประมาณ ตามข้อบังคับขีดเวลาการพิจารณา 105 วัน ซึ่งถ้าเวลาการพิจารณาไม่ทันจริงๆ เราในฐานะ ส.ส.ก็ต้องเร่งพิจารณางบประมาณให้เสร็จก่อนเช่นกัน เพราะถ้าไม่ทันตามข้อบังคับเท่ากับรัฐบาลมีความผิด อาจถึงขั้นต้องยุบสภาได้ ซึ่งถ้าเป็นเช่นนี้การพิจารณากฎหมายนิรโทษกรรมจะเลื่อนไปอีกสักสัปดาห์ก็ไม่น่าเสียหาย แต่อาจเสียความรู้สึกนิดหน่อย แต่ทั้งนี้เชื่อว่าเสียงส่วนใหญ่ของพรรคสนับสนุนกฎหมายนิรโทษกรรมอยู่แล้ว คงไม่ทิ้งเรื่องนี้ และทางพรรคน่าจะมีความชัดเจนในช่วงสัปดาห์สุดท้ายก่อนเปิดประชุมสภาฯ
