บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ยักษ์ใหญ่ค่ายรถยนต์มีกิจกรรมสร้างสรรค์สังคมและส่งเสริมสิ่งแวดล้อมที่ดีมากมายหลายโครงการตามแนวทางขององค์กรที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม หรือ CSR (Corporate Social Responsibility)
แต่ที่น่าชื่นชม คือ การมีการพัฒนาความ “เก่งและดี” ที่เริ่มจากตัวเอง คือองค์กรธุรกิจอุตสาหกรรมของ “โตโยต้า” แล้วได้สร้าง “เครือข่ายเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน” (Toyota Eco Network)
ผมเคยเห็นรูปแบบโฆษณาเพื่อสื่อสารประชาสัมพันธ์เครือข่ายดังกล่าวนี้ แสดงให้เห็นว่า โตโยต้าเสมือนเป็นต้นไม้ใหญ่ที่เครือข่ายทางธุรกิจที่เกี่ยวข้องเป็นรากที่แผ่ขยายหนุนความเติบใหญ่ของบทบาทเพื่อสิ่งแวดล้อม
เครือข่ายเหล่านี้ ได้แก่ บริษัทในเครือ ผู้แทนจำหน่าย พนักงานและครอบครัว ผู้ผลิตชิ้นส่วน เครือข่ายกิจกรรมปลูกป่านิเวศ องค์กรเครือข่าย เครือข่ายโครงการลดเมืองร้อนด้วยมือเรา เครือข่ายกิจกรรมปลูกป่าชายเลน ลูกค้าโตโยต้า e-Toyota Club และ เครือข่าย Toyota CSR Facebook
นั่นเท่ากับมีการชักชวนองค์กรและบุคคลที่เกี่ยวข้อง และขยายวงกว้างไปถึงองค์กรที่มีแนวคิดเห็นความสำคัญของการลดการย่ำยีสภาพแวดล้อมธรรมชาติ ช่วยกันปลูกป่าชายเลนเพื่อฟื้นฟูธรรมชาติ และลดปัจจัยที่สร้างภาวะโลกร้อน
เมื่อปลายปี 2554 โฆษณาชิ้นที่แนะนำ “เครือข่ายเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน” ประกาศว่า “เราได้ช่วยลดคาร์บอนไดออกไซด์ให้โลกได้แล้วกว่า 375,000 ตัน”
ผ่านมาอีกปีหนึ่งแล้วผลการลดการปล่อยก๊าซที่เป็นต้นเหตุให้เกิดภาวะโลกร้อนก็น่าจะได้ผลดีมากขึ้นอีก
ทั้งนี้ เป็นผลมาจากตลอดเวลากว่า 6 ปี เครือข่ายนี้มีการลดการใช้พลังงานและลดการก่อมลภาวะของโรงงานโตโยต้า รวมทั้งผู้แทนจำหน่ายและผู้ผลิตชิ้นส่วน ขณะเดียวกันโครงการลดเมืองร้อน โครงการปลูกป่านิเวศ และโครงการปลูกป่าชายเลนดังกล่าว
วุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ชี้แจงว่า กิจกรรมส่งเสริมสังคมของโตโยต้าให้ความสำคัญด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมผ่านเครือข่ายสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน (Toyota Eco Network) ซึ่งอาสาทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางของเครือข่ายทำความดี สำหรับผู้สนใจในการรักษาสิ่งแวดล้อมให้ได้มีโอกาสร่วมแสดงพลังและความคิดสร้างสรรค์ในการดูแลสิ่งแวดล้อมร่วมกัน
Toyota Eco D.I.Y. Contest ก็เป็นหนึ่งในกิจกรรมภายใต้ Toyota Eco Network เป็นการประกวดผลงานจากวัสดุเหลือใช้ นำมาเติมแต่งความคิดสร้างสรรค์ให้กลายเป็นสิ่งประดิษฐ์รักษ์โลกซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกเพื่อรณรงค์ให้เยาวชนตลอดจนประชาชนทั่วไปหันมาให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อรักษาโลกใบนี้ของเราน่าอยู่
การแข่งขันแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ 1) หมวดของใช้ในชีวิตประจำวัน 2) หมวดของประดับตกแต่ง
ปรากฎว่ามีผลงานเข้าร่วมโครงการระหว่างวันที่ 15 ตุลาคม-18 พฤศจิกายน 2555 จำนวนกว่า 400 ชิ้น และได้รับการคัดเลือกเหลือ 20 ผลงานสุดท้าย เพื่อจัดแสดงใน โตโยต้า อีโค ทาวน์ (Toyota Eco Town by Toyota Eco Network ) ณ เอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟร้อนท์
จากนั้น เจ้าของ 20 ผลงานสุดท้ายได้นำเสนอแนวความคิดและผลงานของตนเองกับคณะกรรมการเพื่อคัดเลือกให้รับรางวัลชนะเลิศเพียง 10 ราย ซึ่งจะได้เดินทางไปร่วมสัมผัสประสบการณ์พิเศษและเยี่ยมชม หมู่บ้านมรดกโลกชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go) ที่ประเทศญี่ปุ่น โดยมีเกณฑ์การตัดสินรางวัลชนะเลิศ ดังนี้

ผลงานชนะเลิศ ECO D.I.Y. ประเภทของใช้ในชีวิตประจำวัน
1.ผลงาน "ตู้รับจดหมาย printer"
ผู้ส่งผลงาน : ศักดิ์ดา จารุโกน
แนวคิด: เนื่องจากเครื่อง printer ที่ชำรุด ไม่สามารถใช้งานได้ ส่วนมากจะถูกนำไปทิ้งเป็นขยะ ทั้งๆ ที่สภาพภายนอก ยังมีสภาพดี จึงเกิดแนวคิดนำเครื่อง printer มาใช้ประโยชน์ พัฒนาให้เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่สามารถนำไปใช้งานได้จริง ซึ่งก็คือ ตู้รับจดหมาย
โดยมีลักษณะที่สามารถนำไปประยุกต์ได้ เช่น ที่ใส่กระดาษก็นำไปเป็นที่ใส่จดหมาย ช่องกระดาษออกก็เป็นที่ไขรับจดหมาย จึงเป็นการช่วยลดขยะได้ขณะที่ต้นทุนการผลิตต่ำ จึงเป็นการลดรายจ่าย เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

2.ผลงาน "โคมไฟประหยัดพลังงาน"
ผู้ส่งผลงาน : อภิสิทธิ์ โฉมไธสง
แนวคิด: พลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานธรรมชาติ ประเภทหมุนเวียนที่ใช้แล้วเกิดขึ้นใหม่ ดังนั้น การนำพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้ให้เกิดประโยชน์ ถือว่าเป็นทางเลือกที่ชาญฉลาดในการประหยัดพลังงาน
เนื่องจากปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมและมลภาวะต่างๆที่เกิดขึ้นทำให้เล็งเห็นถึง ปัญหาและความจำเป็นที่จะประดิษฐ์ผลงาน ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ช่วยลดภาวะโลกร้อน จึงได้คิดประดิษฐ์ โคมไฟประหยัดพลังงานจากวัสดุที่เหลือใช้ โดยการใช้เซลล์แสงอาทิตย์เป็นตัวเปลี่ยนพลังงานจากแสงอาทิตย์เป็นพลังงานไฟฟ้า

3.ผลงาน "Eco boxes style"
ผู้ส่งผลงาน : อรรคพงษ์ สินเธาว์
แนวคิด : จากกล่องกระดาษธรรมดา ที่มีไว้ใส่ขวดหรือสิ่งของทั่วๆไปที่ไม่ค่อยได้ใช้ ปลายทาง คือร้านรับซื้อของเก่า จึงเกิดแนวคิดในการนำกล่องกระดาษเหล่านี้มาต่อยอด จากลังกระดาษธรรมดา ให้มีมูลค่าและใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน
ในความเป็นจริง เกือบทุกบ้านมีชั้นวางสิ่งของให้เป็นระเบียบ จึงเกิดแรงบันดาลใจในการออกแบบชั้นวางของที่มีจุดเด่นคือ สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบในการจัดวางได้ตามสไตล์ที่ต้องการ โดยการนำกลไกของตัวต่อจิ๊กซอว์มาเป็นต้นแบบ จึงทำให้ชั้นวางของ “Eco Boxes Style” มีความโดดเด่นที่ดึงดูดสายตา

4.ผลงาน "เก้าอี้ Papercrete"
ผู้ส่งผลงาน : สุริยน แก้ววังสัน
แนวคิด : กระดาษเหลือใช้มีโอกาสน้อยนักที่จะถูกนำมาใช้ใหม่ เศษกิ่งไม้แห้งก็เช่นเดียว กัน หลายคนมักมองเห็นแต่คุณค่าของลำต้น เศษกิ่งไม้แห้งจึงถูกมองเห็นความสำคัญลำดับสุดท้าย ทั้งที่เศษกิ่งไม้เหล่านั้นสามารถสร้างมูลค่าได้มากกว่านั้น
แนวความคิดนี้ต้องการนำเอากระดาษเหลือใช้และเศษกิ่งไม้แห้งมาสร้างสรรค์ให้เกิดประโยชน์อย่างยั่งยืน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการสามารถต่อยอดทางธุรกิจได้อีกด้วย จึงเกิดเป็นเก้าอี้ Papercrete ที่ออกแบบ โดยใช้กระดาษเหลือใช้และเศษไม้แห้ง ใช้ปูนซีเมนต์เป็นวัสดุช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ได้เป็นวัสดุใหม่ คอนกรีตผสมกระดาษที่มีน้ำหนักเบากว่าคอนกรีตทั่วไปและมีความแข็งแรงมากกว่า นอกจากนี้ เศษไม้แห้งที่ใช้ยังช่วยให้เกิดความสวยงามอย่างเป็นธรรมชาติ

5.ผลงาน "ยางในอยู่นอก"
ผู้ส่งผลงาน : สุธิดา เรืองประยูร
แนวคิด : ทุกวันนี้สังคมมีการใช้รถยนต์เป็นจำนวนมาก ขณะที่อุปกรณ์ยางนอกยางในรถจะมีอายุการใช้งานที่จำกัด จึงเกิดแนวคิดที่จะสร้างประโยชน์ และลดต้นทุนการผลิต ทั้งเพิ่มมูลค่าของสิ่งที่เรียกว่า "ขยะ" โดยเลือกยางในรถยนต์มาทำให้เป็นชุดแต่งกายในตลาดสดที่มาพร้อมกับกระเป๋ากันน้ำ บางคนในตลาดสด ต้องขนผัก ขนสิ่งของ เจอกับสิ่งสกปรกทุกวัน ชุดนี้จึงสามารถช่วยกันสิ่งสกปรก หรือสัตว์ในตลาดได้ เช่น หนู และแมลงต่างๆ เหมาะกับผู้ใส่ใจในสุขอนามัยกันมากขึ้น พร้อมกับการใส่ใจโลกด้วย (อาจนำไปสวมใส่ตอนตกปลา หรือเดินป่า) และยังมีการตัดเย็บเป็นกระเป๋าที่สามารถใช้กันน้ำได้อีก นอกจากจะใช้กันสิ่งสกปรกได้แล้ว อาจใช้เดินเล่นตามห้าง เป็นการโชว์ไอเดีย โชว์วัสดุที่ใช้อย่างแท้จริง

ผลงานชนะเลิศ ECO D.I.Y. ประเภทของตกแต่ง
1.ผลงาน "TITANIC"
ผู้ส่งผลงาน : ดรัณภพ พวงสมบัติ
แนวคิด : จากชิ้นส่วนของเหลือใช้มากมายที่หาได้ในห้องทำงานและโกดังเก็บของ ทั้งกล่องบรรจุภัณฑ์กระดาษ กล่องและตลับเครื่องสำอางของคุณแม่ ไม้หนีบผ้า เครื่องเขียน เศษอุปกรณ์ไฟฟ้า ชิ้นส่วนจากของเล่นที่เสียแล้ว และวัสดุเหลือใช้อื่นๆ มาประกอบรวมเข้ากับกระดาษแข็งและกระดาษลัง ตามรูปแบบของเรือสำราญที่มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์โลกอย่าง TITANIC เกิดเป็นแบบจำลองของประดับบ้านต้นทุนต่ำแต่สวยงามลงตัว เเละเนื่องจากภายในลำตัวเรือมีพื้นที่ว่างที่เหลือจึงเกิดความคิดนำ "ที่ว่าง" ปรับเป็น "ลิ้นชักและช่องเก็บของ" ใส่ลงไปในบริเวณหัวเรือ และใต้ปล่องควันท่อนหัว เพื่อให้เกิดประโยชน์ใช้สอยเพิ่มเข้ามานอกเหนือจากความสวยงามของสิ่ง ประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้ชิ้นนี้อีกด้วย

2.ผลงาน "Recycle Christmas"
ผู้ส่งผลงาน : วณิกสิทธิ์ โชคลิขิตอำนวย
แนวคิด :การนำวัสดุเหลือใช้กลับมาสร้างความสุขและยังช่วยโลกลดจำนวนขยะ ด้วยต้นคริสต์มาสที่ทำจากของเหลือใช้ภายในบ้าน ช่วยประดับตกเเต่งให้บ้านมีความสุข และมีชีวิตชีวาด้วยสีสันจากแสงไฟของต้นคริสต์มาส หรือใช้ประดับในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ จะช่วยให้บ้านเป็นที่ที่น่าฉลองปีใหม่

3. ผลงาน "Jeans Painting"
ผู้ส่งผลงาน : สานุพันธ์ ชุมสาย ณ อยุธยา
แนวคิด :ผลงานศิลปะชิ้นนี้เกิดขึ้นจากการนําเศษวัสดุเหลือใช้ 3 ประเภท คือ เศษผ้ายีนส์ เหลือใช้ (จากโรงงานอุตสาหกรรม) เศษผ้าม่านเหลือใช้ (จากแคตตาล็อคผ้าม่าน) และขวดน้ำพลาสติกใช้แล้วมาผสมผสานกับการใช้สีน้ำ ทําให้เกิดเป็น ภาพศิลปะที่มีพื้นผิวที่แปลกใหม่และมีมิติมากขึ้น
เนื่องจากปัจจุบันนี้เป็นที่ทราบกันดีว่า มนุษย์เราได้ทําลายทรัพยากรธรรมชาติ มากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “การตัดไม้ทําลายป่า” ซึ่งถือเป็นการทําลาย สมดุลของธรรมชาติและสิ่งมีชีวิตทั้งหมด จึงได้จัดทําภาพ “Tree Lover” ชิ้นนี้ขึ้น เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจให้พวกเราทุกคนร่วมกันหยุดการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ
4. ผลงาน "Cupcake Tier Tire"
ผู้ส่งผลงาน : ศกลวรรณ ศรีสังข์
แนวคิด : เนื่องจากยางรถยนต์จากอู่บริการเปลี่ยนล้อรถมีปริมาณมาก ต้องนำไปทิ้งอย่างไร้ประโยชน์ใช้สอย แต่คุณสมบัติพิเศษของยางคือความคงทน แข็งแรง สามารถรับน้ำหนักได้ดี มีพื้นผิวที่น่าสนใจ แล้วนำยางรถยนต์ที่เหลือใช้ นำมาลบภาพของยางรถยนต์ออกไป โดยนำเศษไม้ ยางรถยนต์ ล้อ มาติดพร้อมแต่งให้สวยงาม เพื่อแปลงโฉมยางรถยนต์ให้เป็นที่เก็บของพร้อมที่นั่งสุดสวย ที่มีดีไซน์เป็นชั้นวางคัพเค้กช้อนกันเป็นชั้นๆ โดยมีสีสันน่ารักสดใส ภายใต้แนวความคิด “Cupcake Tier Tire”
5. ผลงาน "ทอกก ทอชีวิต"
ผู้ส่งผลงาน : กษิติธร อาจโยธา
แนวคิด : จากการได้ลงพื้นที่ ทำให้ได้เห็นวิถีการทอเสื่อกกของชาวบ้าน โดยจะมีชิ้นส่วนของเสื่อกกที่เหลือจากการทอ ที่ชาวบ้านตัดทิ้งจำนวนมากและต้นกกเหล่านั้นก็ผ่านกรรมวิธีการย้อมสีมาแล้ว ทำให้มีสีสันสวยงาม
แนวคิดนี้นำปลายต้นกกที่ถูกตัดทิ้งเหล่านั้นมาใช้ให้ประโยชน์ เนื่องจากชิ้นส่วนที่เหลือมีขนาดเล็กและมีสีสันแตกต่างกันไป จึงได้นำมาลองปักเป็นรูปภาพโดยรูปภาพที่ปักได้รับแรงบันดาลใจมาจากรูปภาพของ พระพุทธรูป ซึ่งเป็นรูปที่มีความหมายทางพระพุทธศาสนา โดยเหมาะเป็นรูปภาพที่ใช้ประดับตกแต่งบ้านได้เป็นอย่างดี เพราะนอกจากจะเพื่อความสวยงามแล้ว การมองหรือเห็นสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับศาสนาย่อมทำให้จิตใจเกิดความสงบหรือ เกิดแนวคิดบางอย่างได้เกี่ยวกับการดำเนินชีวิตได้
ข้อคิด....
บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ได้ประกาศจุดยืนขององค์กรว่า ได้ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยโดยได้ทุ่มเทในการสนับสนุนและพัฒนาสังคมควบคู่กับอุตสาหกรรมด้วยความยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการให้ความสำคัญกับการพัฒนาสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย ในทุกลำดับขั้นการดำเนินงาน
ด้านสิ่งแวดล้อม โตโยต้า ยึดหลัก “โลกทัศน์แห่งโตโยต้า” (Toyota Global Vision 2020) ซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนในการสร้างความสมดุลย์ ระหว่างวัฏจักรธรรมชาติ (Cycle of Nature) ควบคู่ไปกับวัฏจักรอุตสหกรรม (Cycle of Industry) อย่างยั่งยืน โดยนำไปปฎิบัติในทุกภาคส่วนของธุรกิจให้มีการเจริญเติบโตไปพร้อมกัน ไม่ว่าจะเป็น กระบวนการผลิต ผู้ผลิตและผู้ส่งมอบชิ้นส่วน ผู้แทนจำหน่าย การพัฒนาผลิตภัณฑ์ และระบบการขนส่ง เพื่อยกระดับการจัดการ ให้สอดคล้องกับนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม
การสนับสนุนกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อมต่างๆ ก็เพราะเห็นปัญหา จากผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะเรื่องของปัญหาโลกร้อนหรือ Global Warming ซึ่งปัจจุบันเป็น ปัญหาใหญ่ระดับโลก โดยตลอดหลายปีที่ผ่านมาโตโยต้ามีกิจกรรมสนับสนุนการประชาสัมพันธ์เรื่อง การลด การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ การส่งเสริมการปลูกป่านิเวศทั้งในโรงงานและในชุมชน โครงการลด เมืองร้อนด้วยมือเรา การสร้างศูนย์การเรียนรู้ด้านสิ่งแวดล้อม โครงการปลูกป่าชายเลนเฉลิมพระเกียรติ เป็นต้น
ในมิติการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่นการนำระบบเทคโนโลยี ไฮบริดมาใช้ และการนำพลังงานทดแทนมาใช้ เพื่อลดปริมาณการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ นับเป็นตัวอย่างที่ดีทั้งในแง่มี CSR ในกระบวนธุรกิจ ขณะเดียวกันก็ได้ผลดีทางการตลาดจากการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความโดดเด่นอีกด้วย
ดังนั้น ด้วยยุทธศาสตร์เครือข่ายเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน หรือToyota Eco Network ก็ยังแสดงความเป็นผู้นำในวงการที่ได้ชักนำเครือข่ายด้านต่างๆ โดยเฉพาะความเป็นเครือข่ายธุรกิจขนาดใหญ่ที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ นับว่าโตโยต้าได้ริเริ่มการบูรณาการความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมตลอดห่วงโซ่ธุรกิจ (Integrated CSR Across Value Chain) ก็นับเป็นพลังที่ส่งผลทั้งการขยายความคิดและบทบาทสร้างสรรค์ต่อสังคมได้มากทีเดียว
suwatmgr@gmail.com
แต่ที่น่าชื่นชม คือ การมีการพัฒนาความ “เก่งและดี” ที่เริ่มจากตัวเอง คือองค์กรธุรกิจอุตสาหกรรมของ “โตโยต้า” แล้วได้สร้าง “เครือข่ายเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน” (Toyota Eco Network)
ผมเคยเห็นรูปแบบโฆษณาเพื่อสื่อสารประชาสัมพันธ์เครือข่ายดังกล่าวนี้ แสดงให้เห็นว่า โตโยต้าเสมือนเป็นต้นไม้ใหญ่ที่เครือข่ายทางธุรกิจที่เกี่ยวข้องเป็นรากที่แผ่ขยายหนุนความเติบใหญ่ของบทบาทเพื่อสิ่งแวดล้อม
เครือข่ายเหล่านี้ ได้แก่ บริษัทในเครือ ผู้แทนจำหน่าย พนักงานและครอบครัว ผู้ผลิตชิ้นส่วน เครือข่ายกิจกรรมปลูกป่านิเวศ องค์กรเครือข่าย เครือข่ายโครงการลดเมืองร้อนด้วยมือเรา เครือข่ายกิจกรรมปลูกป่าชายเลน ลูกค้าโตโยต้า e-Toyota Club และ เครือข่าย Toyota CSR Facebook
นั่นเท่ากับมีการชักชวนองค์กรและบุคคลที่เกี่ยวข้อง และขยายวงกว้างไปถึงองค์กรที่มีแนวคิดเห็นความสำคัญของการลดการย่ำยีสภาพแวดล้อมธรรมชาติ ช่วยกันปลูกป่าชายเลนเพื่อฟื้นฟูธรรมชาติ และลดปัจจัยที่สร้างภาวะโลกร้อน
เมื่อปลายปี 2554 โฆษณาชิ้นที่แนะนำ “เครือข่ายเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน” ประกาศว่า “เราได้ช่วยลดคาร์บอนไดออกไซด์ให้โลกได้แล้วกว่า 375,000 ตัน”
ผ่านมาอีกปีหนึ่งแล้วผลการลดการปล่อยก๊าซที่เป็นต้นเหตุให้เกิดภาวะโลกร้อนก็น่าจะได้ผลดีมากขึ้นอีก
ทั้งนี้ เป็นผลมาจากตลอดเวลากว่า 6 ปี เครือข่ายนี้มีการลดการใช้พลังงานและลดการก่อมลภาวะของโรงงานโตโยต้า รวมทั้งผู้แทนจำหน่ายและผู้ผลิตชิ้นส่วน ขณะเดียวกันโครงการลดเมืองร้อน โครงการปลูกป่านิเวศ และโครงการปลูกป่าชายเลนดังกล่าว
วุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ชี้แจงว่า กิจกรรมส่งเสริมสังคมของโตโยต้าให้ความสำคัญด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมผ่านเครือข่ายสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน (Toyota Eco Network) ซึ่งอาสาทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางของเครือข่ายทำความดี สำหรับผู้สนใจในการรักษาสิ่งแวดล้อมให้ได้มีโอกาสร่วมแสดงพลังและความคิดสร้างสรรค์ในการดูแลสิ่งแวดล้อมร่วมกัน
Toyota Eco D.I.Y. Contest ก็เป็นหนึ่งในกิจกรรมภายใต้ Toyota Eco Network เป็นการประกวดผลงานจากวัสดุเหลือใช้ นำมาเติมแต่งความคิดสร้างสรรค์ให้กลายเป็นสิ่งประดิษฐ์รักษ์โลกซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกเพื่อรณรงค์ให้เยาวชนตลอดจนประชาชนทั่วไปหันมาให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อรักษาโลกใบนี้ของเราน่าอยู่
การแข่งขันแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ 1) หมวดของใช้ในชีวิตประจำวัน 2) หมวดของประดับตกแต่ง
ปรากฎว่ามีผลงานเข้าร่วมโครงการระหว่างวันที่ 15 ตุลาคม-18 พฤศจิกายน 2555 จำนวนกว่า 400 ชิ้น และได้รับการคัดเลือกเหลือ 20 ผลงานสุดท้าย เพื่อจัดแสดงใน โตโยต้า อีโค ทาวน์ (Toyota Eco Town by Toyota Eco Network ) ณ เอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟร้อนท์
จากนั้น เจ้าของ 20 ผลงานสุดท้ายได้นำเสนอแนวความคิดและผลงานของตนเองกับคณะกรรมการเพื่อคัดเลือกให้รับรางวัลชนะเลิศเพียง 10 ราย ซึ่งจะได้เดินทางไปร่วมสัมผัสประสบการณ์พิเศษและเยี่ยมชม หมู่บ้านมรดกโลกชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go) ที่ประเทศญี่ปุ่น โดยมีเกณฑ์การตัดสินรางวัลชนะเลิศ ดังนี้
ผลงานชนะเลิศ ECO D.I.Y. ประเภทของใช้ในชีวิตประจำวัน
1.ผลงาน "ตู้รับจดหมาย printer"
ผู้ส่งผลงาน : ศักดิ์ดา จารุโกน
แนวคิด: เนื่องจากเครื่อง printer ที่ชำรุด ไม่สามารถใช้งานได้ ส่วนมากจะถูกนำไปทิ้งเป็นขยะ ทั้งๆ ที่สภาพภายนอก ยังมีสภาพดี จึงเกิดแนวคิดนำเครื่อง printer มาใช้ประโยชน์ พัฒนาให้เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่สามารถนำไปใช้งานได้จริง ซึ่งก็คือ ตู้รับจดหมาย
โดยมีลักษณะที่สามารถนำไปประยุกต์ได้ เช่น ที่ใส่กระดาษก็นำไปเป็นที่ใส่จดหมาย ช่องกระดาษออกก็เป็นที่ไขรับจดหมาย จึงเป็นการช่วยลดขยะได้ขณะที่ต้นทุนการผลิตต่ำ จึงเป็นการลดรายจ่าย เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
2.ผลงาน "โคมไฟประหยัดพลังงาน"
ผู้ส่งผลงาน : อภิสิทธิ์ โฉมไธสง
แนวคิด: พลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานธรรมชาติ ประเภทหมุนเวียนที่ใช้แล้วเกิดขึ้นใหม่ ดังนั้น การนำพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้ให้เกิดประโยชน์ ถือว่าเป็นทางเลือกที่ชาญฉลาดในการประหยัดพลังงาน
เนื่องจากปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมและมลภาวะต่างๆที่เกิดขึ้นทำให้เล็งเห็นถึง ปัญหาและความจำเป็นที่จะประดิษฐ์ผลงาน ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ช่วยลดภาวะโลกร้อน จึงได้คิดประดิษฐ์ โคมไฟประหยัดพลังงานจากวัสดุที่เหลือใช้ โดยการใช้เซลล์แสงอาทิตย์เป็นตัวเปลี่ยนพลังงานจากแสงอาทิตย์เป็นพลังงานไฟฟ้า
3.ผลงาน "Eco boxes style"
ผู้ส่งผลงาน : อรรคพงษ์ สินเธาว์
แนวคิด : จากกล่องกระดาษธรรมดา ที่มีไว้ใส่ขวดหรือสิ่งของทั่วๆไปที่ไม่ค่อยได้ใช้ ปลายทาง คือร้านรับซื้อของเก่า จึงเกิดแนวคิดในการนำกล่องกระดาษเหล่านี้มาต่อยอด จากลังกระดาษธรรมดา ให้มีมูลค่าและใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน
ในความเป็นจริง เกือบทุกบ้านมีชั้นวางสิ่งของให้เป็นระเบียบ จึงเกิดแรงบันดาลใจในการออกแบบชั้นวางของที่มีจุดเด่นคือ สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบในการจัดวางได้ตามสไตล์ที่ต้องการ โดยการนำกลไกของตัวต่อจิ๊กซอว์มาเป็นต้นแบบ จึงทำให้ชั้นวางของ “Eco Boxes Style” มีความโดดเด่นที่ดึงดูดสายตา
4.ผลงาน "เก้าอี้ Papercrete"
ผู้ส่งผลงาน : สุริยน แก้ววังสัน
แนวคิด : กระดาษเหลือใช้มีโอกาสน้อยนักที่จะถูกนำมาใช้ใหม่ เศษกิ่งไม้แห้งก็เช่นเดียว กัน หลายคนมักมองเห็นแต่คุณค่าของลำต้น เศษกิ่งไม้แห้งจึงถูกมองเห็นความสำคัญลำดับสุดท้าย ทั้งที่เศษกิ่งไม้เหล่านั้นสามารถสร้างมูลค่าได้มากกว่านั้น
แนวความคิดนี้ต้องการนำเอากระดาษเหลือใช้และเศษกิ่งไม้แห้งมาสร้างสรรค์ให้เกิดประโยชน์อย่างยั่งยืน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการสามารถต่อยอดทางธุรกิจได้อีกด้วย จึงเกิดเป็นเก้าอี้ Papercrete ที่ออกแบบ โดยใช้กระดาษเหลือใช้และเศษไม้แห้ง ใช้ปูนซีเมนต์เป็นวัสดุช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ได้เป็นวัสดุใหม่ คอนกรีตผสมกระดาษที่มีน้ำหนักเบากว่าคอนกรีตทั่วไปและมีความแข็งแรงมากกว่า นอกจากนี้ เศษไม้แห้งที่ใช้ยังช่วยให้เกิดความสวยงามอย่างเป็นธรรมชาติ
5.ผลงาน "ยางในอยู่นอก"
ผู้ส่งผลงาน : สุธิดา เรืองประยูร
แนวคิด : ทุกวันนี้สังคมมีการใช้รถยนต์เป็นจำนวนมาก ขณะที่อุปกรณ์ยางนอกยางในรถจะมีอายุการใช้งานที่จำกัด จึงเกิดแนวคิดที่จะสร้างประโยชน์ และลดต้นทุนการผลิต ทั้งเพิ่มมูลค่าของสิ่งที่เรียกว่า "ขยะ" โดยเลือกยางในรถยนต์มาทำให้เป็นชุดแต่งกายในตลาดสดที่มาพร้อมกับกระเป๋ากันน้ำ บางคนในตลาดสด ต้องขนผัก ขนสิ่งของ เจอกับสิ่งสกปรกทุกวัน ชุดนี้จึงสามารถช่วยกันสิ่งสกปรก หรือสัตว์ในตลาดได้ เช่น หนู และแมลงต่างๆ เหมาะกับผู้ใส่ใจในสุขอนามัยกันมากขึ้น พร้อมกับการใส่ใจโลกด้วย (อาจนำไปสวมใส่ตอนตกปลา หรือเดินป่า) และยังมีการตัดเย็บเป็นกระเป๋าที่สามารถใช้กันน้ำได้อีก นอกจากจะใช้กันสิ่งสกปรกได้แล้ว อาจใช้เดินเล่นตามห้าง เป็นการโชว์ไอเดีย โชว์วัสดุที่ใช้อย่างแท้จริง
ผลงานชนะเลิศ ECO D.I.Y. ประเภทของตกแต่ง
1.ผลงาน "TITANIC"
ผู้ส่งผลงาน : ดรัณภพ พวงสมบัติ
แนวคิด : จากชิ้นส่วนของเหลือใช้มากมายที่หาได้ในห้องทำงานและโกดังเก็บของ ทั้งกล่องบรรจุภัณฑ์กระดาษ กล่องและตลับเครื่องสำอางของคุณแม่ ไม้หนีบผ้า เครื่องเขียน เศษอุปกรณ์ไฟฟ้า ชิ้นส่วนจากของเล่นที่เสียแล้ว และวัสดุเหลือใช้อื่นๆ มาประกอบรวมเข้ากับกระดาษแข็งและกระดาษลัง ตามรูปแบบของเรือสำราญที่มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์โลกอย่าง TITANIC เกิดเป็นแบบจำลองของประดับบ้านต้นทุนต่ำแต่สวยงามลงตัว เเละเนื่องจากภายในลำตัวเรือมีพื้นที่ว่างที่เหลือจึงเกิดความคิดนำ "ที่ว่าง" ปรับเป็น "ลิ้นชักและช่องเก็บของ" ใส่ลงไปในบริเวณหัวเรือ และใต้ปล่องควันท่อนหัว เพื่อให้เกิดประโยชน์ใช้สอยเพิ่มเข้ามานอกเหนือจากความสวยงามของสิ่ง ประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้ชิ้นนี้อีกด้วย
2.ผลงาน "Recycle Christmas"
ผู้ส่งผลงาน : วณิกสิทธิ์ โชคลิขิตอำนวย
แนวคิด :การนำวัสดุเหลือใช้กลับมาสร้างความสุขและยังช่วยโลกลดจำนวนขยะ ด้วยต้นคริสต์มาสที่ทำจากของเหลือใช้ภายในบ้าน ช่วยประดับตกเเต่งให้บ้านมีความสุข และมีชีวิตชีวาด้วยสีสันจากแสงไฟของต้นคริสต์มาส หรือใช้ประดับในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ จะช่วยให้บ้านเป็นที่ที่น่าฉลองปีใหม่
3. ผลงาน "Jeans Painting"
ผู้ส่งผลงาน : สานุพันธ์ ชุมสาย ณ อยุธยา
แนวคิด :ผลงานศิลปะชิ้นนี้เกิดขึ้นจากการนําเศษวัสดุเหลือใช้ 3 ประเภท คือ เศษผ้ายีนส์ เหลือใช้ (จากโรงงานอุตสาหกรรม) เศษผ้าม่านเหลือใช้ (จากแคตตาล็อคผ้าม่าน) และขวดน้ำพลาสติกใช้แล้วมาผสมผสานกับการใช้สีน้ำ ทําให้เกิดเป็น ภาพศิลปะที่มีพื้นผิวที่แปลกใหม่และมีมิติมากขึ้น
เนื่องจากปัจจุบันนี้เป็นที่ทราบกันดีว่า มนุษย์เราได้ทําลายทรัพยากรธรรมชาติ มากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “การตัดไม้ทําลายป่า” ซึ่งถือเป็นการทําลาย สมดุลของธรรมชาติและสิ่งมีชีวิตทั้งหมด จึงได้จัดทําภาพ “Tree Lover” ชิ้นนี้ขึ้น เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจให้พวกเราทุกคนร่วมกันหยุดการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ
4. ผลงาน "Cupcake Tier Tire"
ผู้ส่งผลงาน : ศกลวรรณ ศรีสังข์
แนวคิด : เนื่องจากยางรถยนต์จากอู่บริการเปลี่ยนล้อรถมีปริมาณมาก ต้องนำไปทิ้งอย่างไร้ประโยชน์ใช้สอย แต่คุณสมบัติพิเศษของยางคือความคงทน แข็งแรง สามารถรับน้ำหนักได้ดี มีพื้นผิวที่น่าสนใจ แล้วนำยางรถยนต์ที่เหลือใช้ นำมาลบภาพของยางรถยนต์ออกไป โดยนำเศษไม้ ยางรถยนต์ ล้อ มาติดพร้อมแต่งให้สวยงาม เพื่อแปลงโฉมยางรถยนต์ให้เป็นที่เก็บของพร้อมที่นั่งสุดสวย ที่มีดีไซน์เป็นชั้นวางคัพเค้กช้อนกันเป็นชั้นๆ โดยมีสีสันน่ารักสดใส ภายใต้แนวความคิด “Cupcake Tier Tire”
5. ผลงาน "ทอกก ทอชีวิต"
ผู้ส่งผลงาน : กษิติธร อาจโยธา
แนวคิด : จากการได้ลงพื้นที่ ทำให้ได้เห็นวิถีการทอเสื่อกกของชาวบ้าน โดยจะมีชิ้นส่วนของเสื่อกกที่เหลือจากการทอ ที่ชาวบ้านตัดทิ้งจำนวนมากและต้นกกเหล่านั้นก็ผ่านกรรมวิธีการย้อมสีมาแล้ว ทำให้มีสีสันสวยงาม
แนวคิดนี้นำปลายต้นกกที่ถูกตัดทิ้งเหล่านั้นมาใช้ให้ประโยชน์ เนื่องจากชิ้นส่วนที่เหลือมีขนาดเล็กและมีสีสันแตกต่างกันไป จึงได้นำมาลองปักเป็นรูปภาพโดยรูปภาพที่ปักได้รับแรงบันดาลใจมาจากรูปภาพของ พระพุทธรูป ซึ่งเป็นรูปที่มีความหมายทางพระพุทธศาสนา โดยเหมาะเป็นรูปภาพที่ใช้ประดับตกแต่งบ้านได้เป็นอย่างดี เพราะนอกจากจะเพื่อความสวยงามแล้ว การมองหรือเห็นสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับศาสนาย่อมทำให้จิตใจเกิดความสงบหรือ เกิดแนวคิดบางอย่างได้เกี่ยวกับการดำเนินชีวิตได้
ข้อคิด....
บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ได้ประกาศจุดยืนขององค์กรว่า ได้ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยโดยได้ทุ่มเทในการสนับสนุนและพัฒนาสังคมควบคู่กับอุตสาหกรรมด้วยความยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการให้ความสำคัญกับการพัฒนาสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย ในทุกลำดับขั้นการดำเนินงาน
ด้านสิ่งแวดล้อม โตโยต้า ยึดหลัก “โลกทัศน์แห่งโตโยต้า” (Toyota Global Vision 2020) ซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนในการสร้างความสมดุลย์ ระหว่างวัฏจักรธรรมชาติ (Cycle of Nature) ควบคู่ไปกับวัฏจักรอุตสหกรรม (Cycle of Industry) อย่างยั่งยืน โดยนำไปปฎิบัติในทุกภาคส่วนของธุรกิจให้มีการเจริญเติบโตไปพร้อมกัน ไม่ว่าจะเป็น กระบวนการผลิต ผู้ผลิตและผู้ส่งมอบชิ้นส่วน ผู้แทนจำหน่าย การพัฒนาผลิตภัณฑ์ และระบบการขนส่ง เพื่อยกระดับการจัดการ ให้สอดคล้องกับนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม
การสนับสนุนกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อมต่างๆ ก็เพราะเห็นปัญหา จากผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะเรื่องของปัญหาโลกร้อนหรือ Global Warming ซึ่งปัจจุบันเป็น ปัญหาใหญ่ระดับโลก โดยตลอดหลายปีที่ผ่านมาโตโยต้ามีกิจกรรมสนับสนุนการประชาสัมพันธ์เรื่อง การลด การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ การส่งเสริมการปลูกป่านิเวศทั้งในโรงงานและในชุมชน โครงการลด เมืองร้อนด้วยมือเรา การสร้างศูนย์การเรียนรู้ด้านสิ่งแวดล้อม โครงการปลูกป่าชายเลนเฉลิมพระเกียรติ เป็นต้น
ในมิติการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่นการนำระบบเทคโนโลยี ไฮบริดมาใช้ และการนำพลังงานทดแทนมาใช้ เพื่อลดปริมาณการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ นับเป็นตัวอย่างที่ดีทั้งในแง่มี CSR ในกระบวนธุรกิจ ขณะเดียวกันก็ได้ผลดีทางการตลาดจากการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความโดดเด่นอีกด้วย
ดังนั้น ด้วยยุทธศาสตร์เครือข่ายเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน หรือToyota Eco Network ก็ยังแสดงความเป็นผู้นำในวงการที่ได้ชักนำเครือข่ายด้านต่างๆ โดยเฉพาะความเป็นเครือข่ายธุรกิจขนาดใหญ่ที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ นับว่าโตโยต้าได้ริเริ่มการบูรณาการความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมตลอดห่วงโซ่ธุรกิจ (Integrated CSR Across Value Chain) ก็นับเป็นพลังที่ส่งผลทั้งการขยายความคิดและบทบาทสร้างสรรค์ต่อสังคมได้มากทีเดียว
suwatmgr@gmail.com