xs
xsm
sm
md
lg

นอนไม่หลับ.. ทำยังไงดี?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



โรคนอนไม่หลับ (Insomnia) คือ โรคที่มีความผิดปกติในวงจรการหลับ โดยสามารถแบ่งเป็นชนิดของการนอนไม่หลับ 3 ชนิดใหญ่คือ

ชนิดที่1 หลับยาก : จะมีอาการหลับได้ แต่ต้องใช้ระยะเวลาเป็นชั่วโมง
ชนิดที่ 2 หลับไม่ทน : มักตื่นกลางดึก เช่น หัวค่ำอาจพอหลับได้ แต่ไม่นานก็จะตื่น ในบางคนอาจตื่นแล้วกลับหลับอีกไม่ได้
ชนิดที่ 3 หลับ ๆ ตื่น ๆ : จะมีอาการลักษณะ รู้สึกคล้ายไม่ได้หลับเลยทั้งคืน เพียงแต่เคลิ้ม ๆ ไปเป็นพัก ๆ เท่านั้น

สาเหตุของอาการนอนไม่หลับ


- ปัญหาจากสิ่งแวดล้อม เช่น อุณหภูมิ สว่างเกินไป เสียงรบกวนจากการจราจร โทรทัศน์ พื้นที่นอนแคบเกินไปหรือกว้างเกินไป หรือการนอนต่างที่

- ปัญหาจากร่างกาย เช่น อาการเจ็บป่วย ปวดท้อง ปวดตามเนื้อตัว เป็นโรคเกี่ยวกับการนอนหลับ

- ปัญหาจากจิตใจ เช่น ความเครียด อาการวิตกกังวล แรงกดดัน หรือมีอาการซึมเศร้าและท้อแท้ หมดกำลังใจ หมดหวังในการใช้ชีวิต

- นอกจากนี้ยังเชื่อมโยงไปถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่อาจส่งผลให้เกิดภาวะนอนไม่หลับได้ เช่นการดื่มแอลกอฮอล์ คาเฟอีนในกาแฟ บุหรี่ หรือการใช้ยาบางชนิดนั้นอาจส่งผลเกี่ยวกับการนอนหลับ


ผลเสียของการนอนไม่หลับ


- เกิดความเจ็บป่วยไม่สบายทางร่างกายมากกว่าปกติโดยเฉพาะโรคต่อไปนี้ เช่น โรคภูมิแพ้ หอบหืด ความดันโลหิตสูง

- มีปัญหาทางด้านอารมณ์และจิตใจ ตึงเครียด กังวล อารมณ์เศร้าและเปล่าเปลียวใจ มีแนวคิดที่จะฆ่าตัวตายสูง

- ส่งผลต่อการงาน ความสามารถทั่วไป ขาดงานบ่อย ๆ และประสิทธิภาพในการทำงานลดลง


การรักษา


- การรักษาด้วยการปรับพฤติกรรม ต้องนอนให้ตรงเวลาในห้องอุณหภูมิที่พอดี ห้ามเปิดไฟนอน ไม่ดื่มชากาแฟหรือแอลกอฮอล์ก่อนนอน และห้ามทำกิจกรรมที่ทำให้เกิดความตื่นเต้น เช่น การดูภาพยนตร์ เล่นเกมส์ เป็นต้น แต่ให้ทำกิจกรรมที่ผ่อนคลายแทน เช่น การฟังเพลง อ่านหนังสือ เป็นต้น

- การรักษาด้วยยา หากตรวจพบว่าสาเหตุของโรคนอนไม่หลับมาจากอาการ หรือได้รับผลมาจากโรคทางจิตเวช เช่น โรคซึมเศร้า หรือโรคไบโพลาร์แพทย์จะให้ทานยาร่วมด้วย


การป้องกันอาการนอนไม่หลับ


1. เข้านอนให้เป็นเวลาปรับพฤติกรรมการนอนที่ไม่เป็นเวลา ไม่งีบหลับระหว่างวัน

2. ดื่มน้ำอุ่น ๆ ก่อนนอน พยายามผ่อนคลาย หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่กระตุ้นให้ประสาทตื่นตัวหลังมื้อเที่ยง เช่น กาแฟ หรือชา และสูบบุหรี่

3. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ แต่หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักช่วงก่อนนอน

4. พยายามหลับให้ได้ด้วยตัวเอง หลีกเลี่ยงการใช้ยานอนหลับ

ข้อมูลอ้างอิงประกอบจาก


- โรงพยาบาลเปาโล paolohospital.com
- คณะแพทย์ศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล mahidol.ac.th
- โรงพยาบาลเพชรเวช petcharavejhospital.com

ข่าวโดย : ฟ้า เต็มเปียง 


กำลังโหลดความคิดเห็น