ไม่กิน “คาร์โบไฮเดรต” ลดน้ำหนักได้ผลดี จริง ๆ หรือ?

เชื่อว่าหลายคนที่กำลังลดน้ำหนักอยู่ คงจะหวาดหวั่นกับอาหารประเภทแป้งหรือคาร์โบไฮเดรตกันใช่มั้ยล่ะคะ ตรงนี้อาจเนื่องมาจากหลายทฤษฎีหรือหลายหลักสูตรของการลดความอ้วนนั้นมักจะบอกต่อ ๆ กันมาว่าการงดหรือลดอาหารประเภทนี้ลง จะทำให้ผอมได้

ซึ่งแน่นอนว่าทฤษฎีข้างต้นนั้นมีส่วนที่เป็นจริง เพราะการลดแป้ง ย้ำว่าเป็นการลด ไม่ใช่การงด สามารถทำให้ผอมลงได้ แต่ถ้าไม่กินแป้งไปเลยล่ะ จะมีผลดีหรือผลเสียต่อร่างกายอย่างไรบ้าง


ลองมาดูข้อมูลต่อไปนี้ เพื่อเป็นการตัดสินใจกันดีกว่าค่ะ


ทำไมร่างกายจึงต้องการ “แป้ง”?

แป้ง หรือคาร์โบไฮเดรต เป็นหนึ่งในอาหาร 5 หมู่ที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน โดยสารอาหารชนิดนี้เมื่อเข้าสู่ร่างกายก็จะแปลงเป็นน้ำตาลกลูโคส มีหน้าที่คอยให้พลังงานแก่ร่างกาย ไม่ว่าจะทำกิจกรรมใด ๆ ก็ตาม เช่น การเดิน ยืน วิ่ง หรือกิจกรรมอื่น ๆ ที่ต้องการพลังงานแทบทั้งสิ้น

ฉะนั้น หากร่างกายได้รับคาร์โบไฮเดรตที่ไม่เพียงพอก็อาจจะทำให้เราขาดพลังงานในการทำกิจกรรม ไม่มีเรี่ยวแรง สมองไม่ทำงาน เหนื่อยง่าย หรือถึงขั้นออกอาการหิวได้


แล้วถ้าเราไม่รับประทานคาร์โบไฮเดรตเลยล่ะ จะเกิดอะไรขึ้นกับร่างกาย

หากเราไม่รับประทานสารอาหารชนิดนี้เลยจะเกิดผลเสียอย่างไร อันดับแรกเลยคือ ร่างกายจะไม่มีเรี่ยวแรงในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ขาดพลังงานในการดำรงชีวิต ร่างกายอาจพยายามหาแหล่งพลังงานมาเผาผลาญซึ่งจะเป็นการดึงไขมันและโปรตีนมาเผาผลาญแทน แต่ถ้า 2 สารอาหารที่ว่านี้ที่มีหน้าที่ในการสร้างกล้ามเนื้อ สร้างความชุ่มชื่นให้แก่ผิวหนัง แล้วถูกมาใช้พลังงานบ่อย ๆ เข้า ร่างกายก็จะลีบแบน ซูบผอม แล้วผิวหนังเหี่ยวย่นแทน

ขณะเดียวกัน เมื่อร่างกายขาดสารอาหารไป ระบบการทำงานก็จะเริ่มแปรปรวน ภูมิคุ้มกันเริ่มบกพร่อง ตับไตเริ่มทำงานผิดปกติ รวมไปถึงระบบโลหิต และอื่น ๆ ซึ่งอาจจะเป็นช่วงที่อันตรายที่หลายโรครุมเร้าได้ง่าย เพราะร่างกายจะเริ่มอ่อนแอจนเชื้อแบคทีเรียและไวรัสอาจเข้ามาก่อโรคได้ง่ายขึ้นนั่นเอง


แบบนี้จะรับประทานคาร์โบไฮเดรตย่างไร ถึงจะพอดี ไม่อ้วน?

อันที่จริงการลดแป้งในระหว่างการลดน้ำหนักนั้นก็เป็นวิธีที่ถูกต้องแล้ว แต่ก็ไม่ควรลดไปเลย 100 เปอร์เซ็นต์ ควรกินในปริมาณที่เหมาะสม และเลือกกินในส่วนที่มีคุณภาพเพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่ดีมีประโยชน์ ไม่มากเกินไปจนเหลือไปสะสมเป็นชั้นไขมันหนา ๆ ตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย

คือในแต่ละวันจะต้องกำหนดปริมาณการทานคาร์โบไฮเดรตให้พอเหมาะกับความต้องการ คือประมาณ 40% ของปริมาณพลังงานรวมที่ต้องใช้ต่อวัน

อีกสิ่งหนึ่งที่ผู้ลดน้ำหนักควรปรับทัศนคติเสียใหม่ นั่นก็คือ เราควรหันมารับประทานคาร์โบไฮเดรตที่ดี โดยคาร์โบไฮเดรตที่ดีหรือคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน คือ คาร์โบไฮเดรตที่ไม่ผ่านกรรมวิธีหรือการขัดสี อาทิ ข้าวกล้อง, ข้าวโอ๊ต, ธัญพืชต่าง ๆ , เผือก, มันเทศ หรือแม้แต่ผักผลไม้บางชนิด เช่น แตงโม แอปเปิ้ล กล้วย

เนื่องจากคาร์โบไฮเดรตชนิดนี้ จะอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ รวมทั้งมีเส้นใยอาหารสูงช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหารให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ยังเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก เพราะส่งผลให้รู้สึกอิ่มนาน รวมทั้งช่วยควบคุมระดับน้ำตาลหลังรับประทานอาหารของผู้ป่วยเบาหวานได้ด้วย

นอกจากนี้การเลือกเวลาในการรับประทานคาร์โบไฮเดรตก็สำคัญ ซึ่งควรเลือกรับประทานมื้อก่อนที่จะต้องใช้พลังงาน เช่นมื้อเช้า หรือมื้อก่อนออกกำลังกาย และลดปริมาณการรับประทานในมื้อดึก หรือ ช่วงก่อนเข้านอน


อย่างไรก็ตาม หากอยากสุขภาพดี รูปร่างดี นอกจากที่จะควบคุมอาหารแล้ว ที่สำคัญอย่าลืมออกกำลังกายควบคู่กันเป็นประจำ เพื่อร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์กันนะคะ

รับชมคลิปวิดีโอได้ที่ >>