การขับถ่ายทุกวันเป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้าคุณเป็นคนที่ขับถ่ายไม่ดี อาจจะเข้าข่ายอาการ ‘ท้องผูก’
โดย ‘ท้องผูก’ สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย เช่น พฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันก็ส่งผลให้เกิดอาการท้องผูกได้ ไม่ว่าจะเป็นการอั้นอุจจาระ ความเครียด การมีน้ำหนักตัวมากหรือน้อยเกินไป การดื่มน้ำน้อย การเคลื่อนไหวร่างกายน้อย รวมไปถึงการรับประทานอาหารที่มีกากใยน้อย เป็นต้น
อาการท้องผูกเป็นอย่างไร?
-ถ่ายอุจจาระน้อยกว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์ หรือน้อยกว่าปกติที่เคยเป็น
-อุจจาระมีลักษณะเป็นก้อนแข็ง เป็นเม็ดเล็กๆ
-รู้สึกถ่ายอุจจาระไม่ออก ถ่ายยากต้องใช้แรงเบ่งมาก หรือถ่ายไม่สุด
-มีอาการเจ็บขณะถ่ายอุจจาระ
-ท้องอืด ปวดท้อง หรือปวดเกร็งบริเวณหน้าท้อง
วิธีป้องกันและรักษาอาการท้องผูก มีดังนี้
-ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตและรับประทานอาหาร โดยให้รับประทานอาหารที่มีกากใยสูงอย่างน้อย 18-30 กรัมต่อวัน โดยเฉพาะผัก ผลไม้สด และธัญพืช
- ดื่มน้ำมากๆ เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะการขาดน้ำ และไม่ทำให้อุจจาระแข็งจนเกินไป รวมไปถึงหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มกาเฟอีน แอลกอฮอล์ และน้ำอัดลมร่วมด้วย
-ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ 30 นาทีต่อวัน เพื่อฝึกกล้ามเนื้อให้ทำงานได้เป็นปกติ
-ปรับพฤติกรรมการขับถ่ายให้เป็นเวลา ไม่อั้นอุจจาระ
-ไม่ควรใช้ยาระบายติดต่อกันเป็นเวลานาน
- หากปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินและการใช้ชีวิตแล้วอาการไม่ดีขึ้น หรือมีอาการ เช่น อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย น้ำหนักลดลง ถ่ายมีเลือดปน ควรไปพบแพทย์
ผลไม้ 5 ชนิด ตัวช่วยแก้อาการ ‘ท้องผูก’
1.กล้วย
กล้วยสามารถแก้อาการท้องผูก และรักษาโรคริดสีดวงทวารได้ เพราะกล้วยมีเส้นใยและกากอาหารที่ช่วยในขับถ่าย ส่วนสำหรับผู้ที่เริ่มเป็นริดสีดวง ควรรับประทานกล้วยหอมสุกเป็นประจำทุกๆ เช้า วันละ 1-2 ผล กล้วยจะช่วยทำให้อุจจาระไม่แข็ง จึงไม่กระทบต่อริดสีดวงเมื่อขับถ่าย
2.มะละกอ
มะละกออุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุมากมาย มะละกอสุกมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อนๆ สามารถช่วยแก้อาการท้องผูกได้
3.แอปเปิล
แอปเปิลอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ มากมาย เช่น วิตามินเอ, วิตามินบี, วิตามินซี, คาร์โบไฮเดรต, โปรตีน, ไขมัน, แคลเซียม, ฟอสฟอรัส, ธาตุเหล็ก, เบตาแคโรทีน, เส้นใย ฯลฯ อีกทั้งในแอปเปิลยังมีสารแพกติน ที่ช่วยเพิ่มกากใยให้กับทางเดินอาหาร จึงช่วยให้ระบบขับถ่ายให้ทำงานดีขึ้น แถมยังมีส่วนป้องกันโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ด้วย ซึ่งมีงานวิจัยพบว่าการรับประทานแอปเปิลวันละ 1 ลูกจะป้องกันการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้โดยตรง
4.แก้วมังกร
ผลไม้คุณประโยชน์มากมาย อุดมไปด้วยวิตามินบี, วิตามินซี, แคลเซียม, ฟอสฟอรัส, ธาตุเหล็ก ฯลฯ อีกทั้งยังมีกากใยสูงจึงมีส่วนช่วยในการขับถ่าย ทำให้การขับถ่ายดีขึ้น ลดอาการท้องผูกได้
5.สับปะรด
มีส่วนช่วยในเรื่องของระบบขับถ่าย แก้อาการท้องผูกได้ อีกทั้งยังช่วยย่อยอาหารจำพวกโปรตีนได้ดีทีเดียว
ข้อมูลประกอบบางส่วน
www.pobpad.com
medthai.com
โดย ‘ท้องผูก’ สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย เช่น พฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันก็ส่งผลให้เกิดอาการท้องผูกได้ ไม่ว่าจะเป็นการอั้นอุจจาระ ความเครียด การมีน้ำหนักตัวมากหรือน้อยเกินไป การดื่มน้ำน้อย การเคลื่อนไหวร่างกายน้อย รวมไปถึงการรับประทานอาหารที่มีกากใยน้อย เป็นต้น
อาการท้องผูกเป็นอย่างไร?
-ถ่ายอุจจาระน้อยกว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์ หรือน้อยกว่าปกติที่เคยเป็น
-อุจจาระมีลักษณะเป็นก้อนแข็ง เป็นเม็ดเล็กๆ
-รู้สึกถ่ายอุจจาระไม่ออก ถ่ายยากต้องใช้แรงเบ่งมาก หรือถ่ายไม่สุด
-มีอาการเจ็บขณะถ่ายอุจจาระ
-ท้องอืด ปวดท้อง หรือปวดเกร็งบริเวณหน้าท้อง
วิธีป้องกันและรักษาอาการท้องผูก มีดังนี้
-ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตและรับประทานอาหาร โดยให้รับประทานอาหารที่มีกากใยสูงอย่างน้อย 18-30 กรัมต่อวัน โดยเฉพาะผัก ผลไม้สด และธัญพืช
- ดื่มน้ำมากๆ เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะการขาดน้ำ และไม่ทำให้อุจจาระแข็งจนเกินไป รวมไปถึงหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มกาเฟอีน แอลกอฮอล์ และน้ำอัดลมร่วมด้วย
-ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ 30 นาทีต่อวัน เพื่อฝึกกล้ามเนื้อให้ทำงานได้เป็นปกติ
-ปรับพฤติกรรมการขับถ่ายให้เป็นเวลา ไม่อั้นอุจจาระ
-ไม่ควรใช้ยาระบายติดต่อกันเป็นเวลานาน
- หากปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินและการใช้ชีวิตแล้วอาการไม่ดีขึ้น หรือมีอาการ เช่น อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย น้ำหนักลดลง ถ่ายมีเลือดปน ควรไปพบแพทย์
ผลไม้ 5 ชนิด ตัวช่วยแก้อาการ ‘ท้องผูก’
1.กล้วย
กล้วยสามารถแก้อาการท้องผูก และรักษาโรคริดสีดวงทวารได้ เพราะกล้วยมีเส้นใยและกากอาหารที่ช่วยในขับถ่าย ส่วนสำหรับผู้ที่เริ่มเป็นริดสีดวง ควรรับประทานกล้วยหอมสุกเป็นประจำทุกๆ เช้า วันละ 1-2 ผล กล้วยจะช่วยทำให้อุจจาระไม่แข็ง จึงไม่กระทบต่อริดสีดวงเมื่อขับถ่าย
2.มะละกอ
มะละกออุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุมากมาย มะละกอสุกมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อนๆ สามารถช่วยแก้อาการท้องผูกได้
3.แอปเปิล
แอปเปิลอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ มากมาย เช่น วิตามินเอ, วิตามินบี, วิตามินซี, คาร์โบไฮเดรต, โปรตีน, ไขมัน, แคลเซียม, ฟอสฟอรัส, ธาตุเหล็ก, เบตาแคโรทีน, เส้นใย ฯลฯ อีกทั้งในแอปเปิลยังมีสารแพกติน ที่ช่วยเพิ่มกากใยให้กับทางเดินอาหาร จึงช่วยให้ระบบขับถ่ายให้ทำงานดีขึ้น แถมยังมีส่วนป้องกันโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ด้วย ซึ่งมีงานวิจัยพบว่าการรับประทานแอปเปิลวันละ 1 ลูกจะป้องกันการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้โดยตรง
4.แก้วมังกร
ผลไม้คุณประโยชน์มากมาย อุดมไปด้วยวิตามินบี, วิตามินซี, แคลเซียม, ฟอสฟอรัส, ธาตุเหล็ก ฯลฯ อีกทั้งยังมีกากใยสูงจึงมีส่วนช่วยในการขับถ่าย ทำให้การขับถ่ายดีขึ้น ลดอาการท้องผูกได้
5.สับปะรด
มีส่วนช่วยในเรื่องของระบบขับถ่าย แก้อาการท้องผูกได้ อีกทั้งยังช่วยย่อยอาหารจำพวกโปรตีนได้ดีทีเดียว
ข้อมูลประกอบบางส่วน
www.pobpad.com
medthai.com