หลายคนเมื่อถึงจุดๆ หนึ่งของการออกกำลังกายหรือบรรลุถึงเป้าหมายที่ชัดเจนของสรีระตัวเองแล้วมักเกิดคำถามว่าเราต้องทำต่อไปเรื่อยๆ ไม่มีวันหยุดจบสิ้น จนเลิกล้มและท้อความตั้งใจตั้งแต่เริ่ม ทว่าต่อไปนี้ไม่ต้องกังวลใจ เพียงแค่ทำ 3 สิ่งง่ายๆ ต่อไปนี้ "หุ่น" ของคุณก็จะมีรูปร่างที่สวยงามดีไม่แปรผัน
อาหารต้องเป๊ะ
เนื่องจากการออกกำลังกายทำให้ร่างกายใช้พลังงานในแต่ละวันมากขึ้น ซึ่งพลังงานของคนทั่วไปโดยเฉี่ลยปกติอยู่ที่ 2,000 แคลอรี่ในหนึ่งวัน แต่สำหรับผู้ที่ออกกำลังกายจะทำให้ระบบร่างกายเผาผลาญได้มากขึ้นถึง 2,500 - 3,000 แคลอรี่ ดังนั้นเมื่อร่างกายต้องการพลังงานที่มากขึ้นนั้นจึงต้องรับประทานอาหารที่มากขึ้นตามกลไกการทำงานของระบบร่างกายในรูปแบบอาการหิว ฉะนั้นการหยุดกิจกรรมการออกกำลังกายไปในทันที เราจะสูญเสียสมดุลในการเผาผลาญในขณะที่ระบบร่างกายเคยชินไปกับการรับพลังงานที่ระดับเดิมส่งผลให้ทำให้ไขมัน น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นนั้นเอง
วิธีป้องกันแก้ไข จึงควรควบคุมปริมาณอาหารที่รับประทานต่อวันลงให้เท่ากับก่อนออกกำลังกาย เป็นเวลาล่วงหน้าอย่างน้อย 2-4 สัปดาห์ก่อนที่คาดว่าจะหยุดออกกำลังกาย ร่างกายก็จะค่อยๆ ปรับสภาพความสมดุลเป็นปกติ
3 ใน 7 วัน แรงต้องได้ใช้
อย่างที่กล่าวไปในข้อแรก "การออกกำลังกาย" ช่วยเพิ่มอัตราระบบเผาผลาญทำงานได้ดียิ่งขึ้น การหยุดการออกกำลังกายในทันทีนอกจากระบบเผาผลาญร่างกายลดลง ร่างกายจะค่อยๆ ลดปริมาณกล้ามเนื้อลงจนถึงระดับที่สมดุลเพราะไม่มีการกระตุ้น ขนาดกล้ามก็ย่อมลดลงตามปริยายโดยไม่มีผลกระทบในเรื่องของความเหี่ยวย่นของผิวหนัง
วิธีป้องกันแก้ไข จึงควรออกกำลังกายอย่างน้อยๆ 3 ครั้งต่อสัปดาห์ เพื่อให้กล้ามเนื้อได้รับการกระตุ้นก่อนกลับสู่ระบบพื้นฐานปกติของร่างกายเดิม ซึ่งอาจจะไม่จำเป็นต้องเล่นเวทเทรนนิ่งหรือเข้าฟิตเนส เพียงทำกิจกรรมต่างๆ ให้ทุกสัดส่วนในร่างกายได้ใช้พลัง อาทิเช่น ถูบ้าน ซักผ้า จ๊อกกิ้งเบาๆ
เป้าหมายต้องชัดเจน
หลังควบคุมและดูแลสภาพร่างกายในระดับหนึ่งจนถึงช่วงที่อยากจะผ่อนคลาย สิ่งสำคัญที่ขาดไปไม่ได้เลยนั้นก็คือ "เป้าหมาย" เพราะเมื่อร่างกายต้องการพลังงานน้อยลง ร่างกายเราก็จะรู้สึกถดถอยตามไปด้วย "พลัง" หรือ "แรง" ที่จะออกกำลังกายแบบในช่วงที่ออกกำลังกายก็ด้อยลดลงส่งผลให้ร่างกายที่มีระบบจดจำรูปแบบการออกกำลังกายเกิดความเคยชิน จนกล้ามเนื้อจำกลายเป็นการทำงานตามอัตโนมัติ กล้ามเนื้อจึงมีขนาดไม่ใหญ่โตขึ้นหรือขนาดเท่าแต่เก่าก่อนที่ออกกำลังกายเป็นประจำ
วิธีป้องกันแก้ไข จึงควรตระหนักไว้เสมอถึงเป้าหมายในการออกกำลังกายของเราเพื่อสร้างขวัญและกำลังใจที่จะออกกำลังกายเพื่อเป้าหมายที่ต้องการ นอกจากนี้ควรจะปรับเปลี่ยนรูปแบบการออกกำลังกายอยู่เสมอๆ ในหนึ่งอาทิตย์ เพื่อให้ร่างกายถูกกระตุ้นอยู่ตลอดเวลา ซึ่งวิธีการนี้ยังช่วยในเรื่องของระบบเผาผลาญให้คงอัตราเท่าเดิมอีกด้วย เนื่องจากพอร่างกายชินกับการเคลื่อนไหวและจำส่งผลให้ระบบเผาผลาญทำงานได้น้อยลง
อาหารต้องเป๊ะ
เนื่องจากการออกกำลังกายทำให้ร่างกายใช้พลังงานในแต่ละวันมากขึ้น ซึ่งพลังงานของคนทั่วไปโดยเฉี่ลยปกติอยู่ที่ 2,000 แคลอรี่ในหนึ่งวัน แต่สำหรับผู้ที่ออกกำลังกายจะทำให้ระบบร่างกายเผาผลาญได้มากขึ้นถึง 2,500 - 3,000 แคลอรี่ ดังนั้นเมื่อร่างกายต้องการพลังงานที่มากขึ้นนั้นจึงต้องรับประทานอาหารที่มากขึ้นตามกลไกการทำงานของระบบร่างกายในรูปแบบอาการหิว ฉะนั้นการหยุดกิจกรรมการออกกำลังกายไปในทันที เราจะสูญเสียสมดุลในการเผาผลาญในขณะที่ระบบร่างกายเคยชินไปกับการรับพลังงานที่ระดับเดิมส่งผลให้ทำให้ไขมัน น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นนั้นเอง
วิธีป้องกันแก้ไข จึงควรควบคุมปริมาณอาหารที่รับประทานต่อวันลงให้เท่ากับก่อนออกกำลังกาย เป็นเวลาล่วงหน้าอย่างน้อย 2-4 สัปดาห์ก่อนที่คาดว่าจะหยุดออกกำลังกาย ร่างกายก็จะค่อยๆ ปรับสภาพความสมดุลเป็นปกติ
3 ใน 7 วัน แรงต้องได้ใช้
อย่างที่กล่าวไปในข้อแรก "การออกกำลังกาย" ช่วยเพิ่มอัตราระบบเผาผลาญทำงานได้ดียิ่งขึ้น การหยุดการออกกำลังกายในทันทีนอกจากระบบเผาผลาญร่างกายลดลง ร่างกายจะค่อยๆ ลดปริมาณกล้ามเนื้อลงจนถึงระดับที่สมดุลเพราะไม่มีการกระตุ้น ขนาดกล้ามก็ย่อมลดลงตามปริยายโดยไม่มีผลกระทบในเรื่องของความเหี่ยวย่นของผิวหนัง
วิธีป้องกันแก้ไข จึงควรออกกำลังกายอย่างน้อยๆ 3 ครั้งต่อสัปดาห์ เพื่อให้กล้ามเนื้อได้รับการกระตุ้นก่อนกลับสู่ระบบพื้นฐานปกติของร่างกายเดิม ซึ่งอาจจะไม่จำเป็นต้องเล่นเวทเทรนนิ่งหรือเข้าฟิตเนส เพียงทำกิจกรรมต่างๆ ให้ทุกสัดส่วนในร่างกายได้ใช้พลัง อาทิเช่น ถูบ้าน ซักผ้า จ๊อกกิ้งเบาๆ
เป้าหมายต้องชัดเจน
หลังควบคุมและดูแลสภาพร่างกายในระดับหนึ่งจนถึงช่วงที่อยากจะผ่อนคลาย สิ่งสำคัญที่ขาดไปไม่ได้เลยนั้นก็คือ "เป้าหมาย" เพราะเมื่อร่างกายต้องการพลังงานน้อยลง ร่างกายเราก็จะรู้สึกถดถอยตามไปด้วย "พลัง" หรือ "แรง" ที่จะออกกำลังกายแบบในช่วงที่ออกกำลังกายก็ด้อยลดลงส่งผลให้ร่างกายที่มีระบบจดจำรูปแบบการออกกำลังกายเกิดความเคยชิน จนกล้ามเนื้อจำกลายเป็นการทำงานตามอัตโนมัติ กล้ามเนื้อจึงมีขนาดไม่ใหญ่โตขึ้นหรือขนาดเท่าแต่เก่าก่อนที่ออกกำลังกายเป็นประจำ
วิธีป้องกันแก้ไข จึงควรตระหนักไว้เสมอถึงเป้าหมายในการออกกำลังกายของเราเพื่อสร้างขวัญและกำลังใจที่จะออกกำลังกายเพื่อเป้าหมายที่ต้องการ นอกจากนี้ควรจะปรับเปลี่ยนรูปแบบการออกกำลังกายอยู่เสมอๆ ในหนึ่งอาทิตย์ เพื่อให้ร่างกายถูกกระตุ้นอยู่ตลอดเวลา ซึ่งวิธีการนี้ยังช่วยในเรื่องของระบบเผาผลาญให้คงอัตราเท่าเดิมอีกด้วย เนื่องจากพอร่างกายชินกับการเคลื่อนไหวและจำส่งผลให้ระบบเผาผลาญทำงานได้น้อยลง