xs
xsm
sm
md
lg

“ว่านดอกทอง” แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ว่านมหาเสน่ห์ (รากราคะ, ว่านรากราคะ), ว่านมหาเสน่ห์ดอกทอง, ว่านดอกทอง, ว่านดอกทองแท้, ว่านดอกทองตัวผู้, ว่านดอกทองตัวเมีย (ว่านดินสอฤาษี), ว่านดอกทองกระเจา มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า ‘Curcuma spp.’ จัดอยู่ในวงศ์ขิง (ZINGIBERACEAE)
โดยแบ่งเป็น 2 ชนิด ได้แก่ ว่านดอกทองตัวผู้ และว่านดอกทองตัวเมีย (ว่านดินสอฤาษี) ซึ่งจะมีลักษณะทางพฤกษศาสตร์แตกต่างกันเล็กน้อย เช่น สีของใบ และสีเนื้อของหัวว่าน โดยว่านดอกทองตัวเมียนั้นจะมีฤทธิ์แรงกว่าตัวผู้

ขยายพันธุ์โดยการแตกหน่อ ชอบดินร่วนระบายน้ำดี แสงแดดรำไร พักตัวในฤดูหนาว ตามตำราโบราณ
นิยมปลูกเป็นพืชไม้มงคล เสริมศิริมงคลแก่บ้านเรือนหรือธุรกิจ ใครเห็นใครก็รัก ทำกิจการร้านค้าก็มีลูกค้ามาอุดหนุนไม่ขาดสาย ทำมาหากินคล่อง ยังเชื่อกันอีกว่าเมื่อดอกบานที่ให้กลิ่นหอม หากชายหรือหญิงได้กลิ่นจะทำให้กระตุ้นความกำหนัดทางเพศได้ จึงเรียก “ว่านมหาเสน่ห์” ผู้ชายไทยในสมัยโบราณจะใช้พืชนี้หุงกับน้ำมันจันทน์ หรือบดรวมกับสีผึ้งสีปาก ใช้สำหรับทาตัวหรือใช้สีปาก เชื่อว่าเมื่อพบผู้หญิงจะทำให้หญิงรัก และคล้อยตาม
นอกจากสรรพคุณตามตำราโบราณ ’ว่านดอกทอง’ ยังมีคุณประโยชน์ทางร่างกายเป็นยาสมุนไพร หน่ออ่อน และดอก ยังใช้รับประทานเป็นผักลวกหรือสดจิ้มน้ำพริกหรือน้ำบูดูได้ ช่วยบรรเทาอาการท้องอืดท้องเฟ้อ ช่วยขับลม ขับเหงื่อ และเจริญอาหาร อีกทั้งยังใช้ตัดกลิ่นคาวปลาทำให้อาหารมีกลิ่นหอมคล้ายแมงดาอีกด้วย

กำลังโหลดความคิดเห็น