เมื่อพูดถึงเรื่องของการหา “หอย” ในพื้นที่ทางภาคใต้ โดยเฉพาะใน จ.สตูล ที่รู้จักวิธีการหาในหลากหลายรูปแบบ บ้างก็เดินหาริมชายหาด บ้างก็ต้องนั่งเรือออกไป ใช้เครื่องมือในการคราดหอยขึ้นมา
แต่วันนี้จะพาไปรู้จักกับวิธีการหา “หอยท้ายเภา” หรือ “หอยตะเภา” หอยที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็น “ราชินี” แห่งหอยในท้องทะเลอันดามันที่ จ.สตูล ด้วยวิธีการดำน้ำลงไปลึกสุดถึง 6 เมตร ก่อนใช้มือลงไปเก็บ โดยมีอุปกรณ์น้อยชิ้นคอยช่วยเหลือเพียงเท่านั้น
ชาวบ้านในพื้นที่ ต.ปากน้ำ และ ต.แหลมสน อ.ละงู จ.สตูล ซึ่งมีอาชีพทำประมงชายฝั่งบอกว่า ในช่วงฤดูนี้ เป็นช่วงของการหาหอยท้ายเภา โดยทุกคนจะมีอุปกรณ์น้อยชิ้น เช่น แว่นดำน้ำ แกลลอนเปล่าสำหรับใช้ลอยตัว เหล็กที่มี 2 ง่าม เอาไว้ช่วยงัดหอยขึ้นจากพื้นทราย ประกอบกับความชำนาญในการลอยตัว และการดำน้ำได้เป็นเวลานาน ก็สามารถออกหาหอยท้ายเภาได้แล้ว
หอยท้ายเภา หรือหอยตะเภา จะอยู่ในทะเลลึก เมื่อคราวน้ำลดบางครั้งสามารถเดินลงทะเลมาเก็บหอยได้ ซึ่งมีไม่บ่อยครั้งนัก แต่ส่วนใหญ่แล้วชาวบ้านที่ทำเป็นอาชีพต้องอาศัยความชำนาญการ จัดหาอุปกรณ์ลงไปดำน้ำลึก 3-4 เมตรบ้าง และบางครั้งดำน้ำลึกสุด 6 เมตร เพื่อเก็บหอยใต้ท้องทะเลขึ้นมาได้ครั้งละ 1-2 ตัว บางครั้งก็ไม่ได้สักตัว ซึ่งใช้เวลาในการดำน้ำลงไปแต่ละครั้งไม่เกิน 1 นาที จึงจะโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำเพื่อหายใจครั้งหนึ่ง
บางคนจัดเป็น “นายพราน” ระดับมืออาชีพ นักล่าหอยท้ายเภา ซึ่งจะใช้ตีนกบช่วยพยุงตัว และใช้ก้อนหินหนัก 5-6 กิโลกรัม ช่วยถ่วงให้อยู่ใต้น้ำได้นาน โดยตัวจะไม่ลอยขึ้นมาเร็วกว่ากำหนด
หลายคนอาจสงสัยว่า ทำไมไม่ใช้ถังออกซิเจนในการช่วยให้อยู่ใต้น้ำได้นาน เพราะเป็นกฎของชาวบ้านที่ต้องการอนุรักษ์หอยท้ายเภา ให้อยู่คู่ทะเลชายฝั่งไปนานๆ ใครมีความสามารถดำน้ำได้นาน ก็จะเก็บหอยไปขายได้มาก
การดำน้ำหาหอยท้ายเภา ในแต่ละครั้ง นายพรานทะเลนักดำน้ำจะใช้เวลาลอยตัวอยู่ในน้ำครั้งละ 3-4 ชั่วโมง ในการดำน้ำลึกลงไปเก็บหอย โดยแต่ละครั้งใช้เวลาดำดิ่งลงไป 1 นาที เพื่อขึ้นมาหายใจ และดำดิ่งลงไปใหม่ การล่าหอยท้ายเภาของนายพรานทะเล ใน 1 เดือนจะมีเพียง 15 วันเท่านั้น ในห้วงเดือนระหว่างธันวาคมถึงเมษายน เป็นช่วงของน้ำลง ใส มองเห็นตัวหอยชัด และน้ำนิ่ง
ทำให้ท้องทะเลอันดามัน บริเวณด้านหน้าบ้านแหลมสน หมู่ที่ 6 ต.แหลมสน อ.ละงู จ.สตูล กว่า 200 ไร่ ในท้องทะเลแห่งนี้จึงเต็มไปด้วยนายพรานทะเลออกมาล่าหอย ซึ่งเป็นวิถีของชาวประมงพื้นบ้านเพื่อเลี้ยงชีพ แต่ทุกคนก็พร้อมจะเคารพกฎกติกาของหมู่บ้าน ในการหาหอยไปพร้อมการอนุรักษ์ที่จะเก็บเฉพาะหอยขนาดใหญ่เท่านั้น
นายฮาหรน แลต๋อง อายุ 31 ปี นายพรานนักล่าหอยท้ายเภา เล่าว่า 10 ปีกับการหาหอยท้ายเภา ด้วยการดำน้ำงม มีเพียงอุปกรณ์ช่วยงัดแงะหอยขึ้นมา แล้วเก็บทีละตัว 2 ตัว ขึ้นมาเท่านั้น ออกมาหาครั้งหนึ่งใช้เวลา 3-4 ชั่วโมง ในการลอยตัว เก็บหอยได้ 2-3 กิโลกรัม ก็ขึ้นไปหารายได้เงินมาเลี้ยงครอบครัว และได้อาหารในแต่ละวัน ก็มีความสุขดี
ด้าน นายอับดุลรอหมาน อินหมัน อายุ 42 ปี นายพรานนักล่าหอยท้ายเภา อีกคน เล่าว่า ตนมากลับเพื่อนๆ นำเรือออกมาลอยลำเพื่อเป็นที่พักก่อนลงไปดำน้ำเก็บหอย โดยจะมีตีนกบ หน้ากาก หินถ่วง เคยต้องดำเก็บหอยลึกสุดถึง 6 เมตร กว่าจะได้หอยมาแต่ละตัว ยอมรับว่าสิ่งที่ส่งผลกระทบต่อร่างกายคือ แรงดันจากน้ำลึกทำให้หูอื้อ ตาก็เจ็บแสบ แต่ก็เลือกที่จะทำเพราะเป็นอาชีพ และมีรายได้ดี โดยทำมา 12 ปีแล้ว
ซึ่งใน 1 ปี จะหาหอยได้เพียง 5-6 เดือนเท่านั้น เพราะน้ำทะเลจะขุ่น ราคา 25-30 ตัวต่อกิโลกรัม ขายได้กิโลกรัมละ 450 บาทถึง 500 บาท ออกมาหาวันละ 2-3 กิโลกรัม ก็สร้างรายได้เลี้ยงครอบครัวได้แล้ว หมดฤดูหาหอย ก็จะไปหาปลาทรายแทน หมุนเวียนอยู่แบบนี้ สำหรับวิถีประมงพื้นบ้าน
โดยหอยที่หามาได้จะมีการนำไปส่งขายให้แก่แพบังเส็น ซึ่งมี นายอุเส็น สูนสละ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 87 หมู่ที่ 6 ต.แหลมสน อ.ละงู จ.สตูล ยอมรับว่า หอยท้ายเภา เป็นหอยที่มีความต้องการของตลาดมาก และมีปริมาณไม่เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า โดยเฉพาะลูกค้าต่างประเทศที่มียอดสั่งมาเป็นจำนวนมาก อย่างไต้หวัน จีน ฮ่องกง
ทุกวันจะมีการส่งขึ้นเครื่องบินเพื่อนำส่งให้ลูกค้า โดยหอยท้ายเภา เมื่อขึ้นภัตตาคารแล้วจะอยู่ที่กิโลกรัมละ 800-1,200 บาท รสชาติของหอยท้ายเภา นั้น เนื้อหวาน นุ่มหนึบ เพียงแค่ต้มกับน้ำขลุกขลิก ไม่ต้องมีน้ำจิ้มก็อร่อยแล้ว หรือจะปรุงอบกับเครื่องสมุนไพร ทานกับน้ำจิ้มซีฟูดก็อร่อยเด็ดเช่นกัน
โดยทางแพบังเส็น จะรับซื้อหอยขนาดใหญ่ ขนาด 25-30 ตัวต่อกิโลกรัม ความต้องการของตลาด สร้างงาน สร้างรายได้ให้แก่ชาวประมงพื้นบ้าน หากภาครัฐมีการส่งเสริมให้มีการเพาะพันธุ์หอยท้ายเภา เชื่อว่าจะสร้างงาน สร้างอาชีพให้แก่ชาวประมงได้ไม่มากก็น้อย
ซึ่งแพบังเส็น จะรับซื้ออาหารทะเลสดๆ จากชาวประมงพื้นบ้าน เพื่อส่งขายต่อไปยังกรุงเทพฯ และลูกค้าประจำ โดยจะมีการนำมาพักในบ่อก่อนส่งต่อ ทั้งปูม้าสดๆ แมงดาทะเล รวมทั้งหอยท้ายเภา ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามได้ทางหมายเลขโทรศัพท์ 08-8796-0449